“เดี๋ยวเบนส์จะมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้เธอ ต้องการอะไรเพิ่มขอเบนส์เขาเอาก็แล้วกัน เขาใจดีกับสาวๆ สวยๆ อยู่เสมอแหละ”
กางเกงอามาร์นี่สีกรมท่าถูกสวมบนร่างกายกำยำช่วงล่าง เขารูดซิปกางเกงสอดชายเสื้อเข้าไปใต้เอวกางเกง แต่งตัวเนี๊ยบสมฉายามหาเศรษฐีคาสโนว่าตั้งแต่ศีรษะจรดรองเท้า พลอยใสรวบผ้านวมเนื้อนิ่มขึ้นปิดช่วงอก เธอผุดลุกขึ้นนั่งเอนๆบนที่นอนหนานุ่ม “ไม่ค้างเหรอคะคุณฮิลล์?”
“ไม่ล่ะ!! เธอก็รู้นี่ฉันไม่เคยนอนค้างที่ไหน นอกจากบ้าน”
สิ้นเสียงเคฮิลล์ก็เดินผ่านช่องประตูออกไปเสียแล้ว พลอยใสน้ำตาร่วง เธอเจ็บแปลบๆ ที่หัวใจดวงน้อย จริงอยู่ว่าเธอยอมเป็นเมียเก็บ ยอมเป็นนางบำเรอของเคฮิลล์เพราะหวังสบาย เมื่อเขาร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ การที่เธอจะขอแบ่งเศษเงินในกระเป๋าของเขามาใช้จ่ายบ้าง มันก็คงไม่ได้ทำให้เขาสะเทือนสักเท่าไรหรอก แต่...ครั้นเมื่อได้อยู่ในวงแขนแข็งแรงคู่นั้น หัวใจอ่อนแอของตัวเองกับปฏิพัทธ์รักใคร่เขาขึ้นมาเฉยๆ มอบความรักที่มีทั้งหมดให้เขาไป ทั้งหมดทุกห้องหัวใจแต่ไม่เคยได้สิ่งนั้นตอบแทนกลับมาเลย ชายหนุ่มกระด้างเย็นชา ไร้หัวใจ เขาต้องการแค่เรือนร่างของเธอเพื่อปลดปล่อยความต้องการของตัวเองแค่นั้นเอง...
“ฮื่อๆ...” หัวไหลกลมกลึงสะท้านเยือก น้ำตาร้อนๆ ไหลรินด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ แม้จะเป็นได้แค่นางบำเรอสนองอารมณ์ แต่มันก็เป็นโอกาสเดียวที่ทำให้เธอได้อยู่ใกล้ชิดเคฮิลล์ ผู้ชายที่อยู่แค่ในความฝัน เพราะในโลกความจริง หางตาเขาไม่เคยเหลือบแลเธอเลยด้วยซ้ำ หากไม่เพราะข้อเสนอแลกกับเงินที่เขาหยิบยื่นให้ เธอหวังแค่จะได้อยู่ใกล้ๆ เขาไปอีกสักหน่อย ในวันที่เขาทิ้งขว้าง หัวใจของเธอคงเหมือนถูกเหยียบย่ำและแหลกเป็นผุยผง
...
“ตึกรอย” สำนักงานใหญ่ของ “รอยโพส์” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ในลอนดอน รถสปอร์ตสีดำเหมือนท้องฟ้ายามไร้แสงจันทร์มันมืดมิดและหม่นมัว แต่เป็นความลึกลับที่น่าท้าทาย เพราะเจ้าของยานพาหนะพลังสูงผู้นี้ คือ เคฮิลล์ รอย” หนุ่มหล่อแสนเสน่ห์ มหาเศรษฐีหนุ่มผู้กุมบังเ**ยนของ “รอยโพส์” ประตูด้านข้างเปิดออกด้วยฝีมือการ์ดใบหน้านิ่ง เบนส์ถอยหลังออกมาห่างๆ เปิดทางให้เจ้านายหนุ่มออกมายืนข้างรถยนต์คันโปรด
“ว่าไงเบนส์”
“ครับ... ได้ตามคำสั่งของบอส เธอจะมานอนบนเตียงของบอสในคืนนี้แน่ๆ ครับ”
“ดี...ฉันจะนับเวลารอ!! หึๆ มันคงสนุกสุดเหวี่ยงเชียวแหละ” ชายหนุ่มครางเสียงต่ำๆ ในลำคอ เขาเอื้อมมือปลดกระดุมสูทช่วงเอว ที่จู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาครามครัน เมื่อนึกถึงแม่สาวพราวเสน่ห์ นาม “นางฟ้า”
เบนส์เสก้มหน้าลง ชายหนุ่มค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ การกระทำอุกอาจเย้ยกฎหมาย มีแต่เจ้านายเท่านั้นที่กล้าลงมือ เพราะอะไรนะหรือ? เคฮิลล์มีทั้งเงินและอำนาจ แม้แต่ผู้รักษากฎหมายยังต้องยำเกรง เงินสนับสนุนมากโข ที่เจ้านายหนุ่มบริจาคเป็นทุนในการพัฒนาองค์กร มันสามารถปิดหูปิดตาเหล่านั้นได้ ไม่ให้เงื้อมือกฎหมายเฉียดเข้ามาในรัศมีรอบตัวชายหนุ่ม เป็นเกราะป้องกันภัยอย่างดี
เวลาในการทำงานวันนี้...มันช่างแสนเชื่องช้า เข็มนาฬิกากว่าจะขยับได้แต่ละทีมันช่างนานแสนนาน เคฮิลล์เหลือบมองหน้าปัดนาฬิการอบที่ร้อย เข็มสั้นเข็มยาวมันก็ขยับไปได้ไม่ไกล ยิ่งตัวหนังสือบนหน้ากระดาษด้วยแล้ว...มันยิ่งทำให้ชายหนุ่มเบื่อ!! ทุกสิ่งอย่างรอบตัวดูจะขวางหูขวางตา ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาตั้งตารอเจอ เนตรอัปสรแบบใจจดใจจ่อ มันแปลกแตกต่างกับสาวๆ หลายนางที่เขาอยากได้ เธอเป็นคนแรกที่ทำให้เขาสนใจเพียงแค่มองผ่านจอแก้วและสบนัยน์ตากลมโตคู่นั้น...
“เห้อ!! นานฉิบหาย...เมื่อไร? เมื่อไร!! จะถึงเวลาสักที ไอ้เบนส์แม่งหายเงียบ นานเกินไปแล้วนะโว้ย!!” เขาบ่นงึมๆ งำๆ ร่างสูงใหญ่ทะลึ่งพรวดเขาเดินงุ่นง่านอยู่ในห้อง จนพื้นพรมและรองเท้าแทบจะสึก เพราะปลายรองเท้าหนังเดินเหยียบย่ำไปๆ มาๆ
นาฬิกาเรือนทองฝังเพชรแพงหูฉี่ ยี่ห้อดังกระหึ่มโลก เขายกขึ้นดูแล้วก็ดูอีก มันก็ยังไม่ถึงกำหนดนัดหมายเสียที? จะให้ค่าเวลาด้วยการทำงานอันแสนจะยุ่งเหยิง ตัวเลข ตัวหนังสือมันไม่เข้าสมองสักนิด เมื่อมันใจจดใจจ่ออยู่แค่...
ตู๊ดดดดด...
หน้าจอโทรศัพท์ส่วนตัวกระพริบวิบวับ ตัวเครื่องสั่นไม่หยุด!! ชายหนุ่มกระโจนพรวด!! เขารีบตะครุบโทรศัพท์และกดรับสาย เมื่อปลายสายคือคนที่กำลังรอ?
“ว่าไงเบนส์!!”
มุมปากกระตุกยิ้ม เขาค่อยๆ ทรุดนั่งหลังโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ แผ่นหลังตึงแน่นเอนพิงพนักเก้าอี้ ตวัดเรียวขาแข็งแรงขึ้นมาวางเหนือโต๊ะทำงาน และกระดิกดุกดิ๊ก “บ้านพักริมทะเลสาปวินเดอร์เมียร์!! เอาเธอไปที่นั่น แล้วฉันจะตามไปคืนนี้” เคฮิลล์วางโทรศัพท์ลง เขากระตุกยิ้มด้วยความสาแก่ใจ เบนส์ทำงานได้ดีไม่มีที่ติ แม้ครั้งนี้ถึงกับต้อง ‘ฉุด’ เพราะเจ้าหล่อนดันเล่นแง่ เขาพร้อมจะสนองความต้องการของเธอเลย หากเธอต้องการมากว่าทุกๆ คน ไม่ว่าบ้าน รถ หรือขวัญถุงปลอบใจ ยามที่เขาเบื่อ!!
“สเตล่า!! งานที่ต้องเคลียร์เอาเข้ามาให้ฉันหน่อย ฉันจะพักยาวหนึ่งอาทิตย์ ด่วน!!”
ปลายนิ้วเรียวสวยกดอินเตอร์คอม เขาสั่งงานเลขานุการหน้าห้องเสียงขรม
“ได้ค่ะบอส!!” สาวสะคราญรีบรับคำ เธอคว้าแฟ้มต่างๆ ที่กองสูงท่วมศีรษะ ยกเข้าไปให้เจ้านายในห้องทำงาน เพราะตั้งแต่เช้าเจ้านายหนุ่มหงุดหงิด ไม่มีแก่ใจทำงาน จนเธอขนกองแฟ้มออกมาแทบไม่ทัน
เคฮิลล์ตั้งหน้าตั้งตาทวนอ่านเอกสาร เขาจรดปากกาเซ็นกำกับเมื่ออ่านรายละเอียดจนครบถ้วน ถึงจะเร่งรีบแต่งานก็คืองาน ไม่อยากให้เสียหายเพียงเพราะความรีบร้อนมันหมายถึงเมล็ดเงินที่กำลังลอยเข้ามาใส่กระเป๋า เขาไม่อยากเสียอะไรสักอย่าง ทั้งงาน เงิน และผู้หญิง!!
ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดวอร์มสีครีม เธอนอนนิ่งสงบบนเตียงกว้างกลางห้องนอนโอ่อ่า ใบหน้าซีดเซียวผิดปรกติ ผมยาวสลวยรุ่ยร่ายล้อมกรอบหน้างดงาม โคมไฟสีนวลเปิดสว่าง ส่องแสงเป็นทางยาวทาทาบทั่วทุกพื้นที่ อากาศเย็นเฉียบโดยไม่ต้องเปิดแอร์คอนนิชั่น เมื่อเถือกเขาที่โอบล้อมทะเลสาบวินเดอร์เมียร์มีต้นไม้ใหญ่ๆ ยืนต้นมานานนับร้อยๆ ปี ยอดเขาสูงยังคงมีหิมะสีขาวสะอาดค้างคาอยู่ แม้จะย่างเข้าสูฤดูใบไม้ผลิ แต่ความเย็นก็ยังคงเหลือ น้ำในทะเลสาบเย็นเฉียบเมื่อเป็นน้ำจากการละลายของหิมะที่ไหลลงสู่ทะเลสาบกว้างใหญ่
“อืม...”
ร่างอวบอิ่มขยับตัว แพขนตางามงอนกระพริบวิบวับ เธอปรือเปลือกตาขึ้นมองรอบๆ ตัว ก่อนที่สติจะดับวูบคือกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ล้อมรอบตัว ใบหน้าแต่ละคนไร้วี่แววของความอารี
ดวงตากลมโตไหววูบ เมื่อสิ่งที่มองเห็นไม่คุ้นชินสายตา เธอก้มมองร่างกายตัวเอง ก่อนจะถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ๆ เมื่อยังคงอยู่ในสภาพเดิมๆ ก่อนที่จะสิ้นสติ ใคร? ทำไม? ร้อยแปดคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัว แต่? ก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี เพราะรอบตัวมีแต่ความเงียบ เกิดอะไรขึ้น!!
“คุณฟื้นแล้ว...รับน้ำอะไรดีค่ะ คุณคงคอแห้งน่าดูเลยใช่ไหมคะ”
แม่บ้าสูงวัยเดินอุ้ยอายเข้ามา ในมือของเธอมีเหยือกน้ำสีสวยและเกร็ดน้ำแข็งเกาะอยู่รอบโถ ช่างรู้เวลาและรู้ดีเหลือเกินว่าเธอกำลังคอแห้ง
“รู้ดีจังเลยนะคะว่าฟ้าหิวน้ำ” หญิงสาวกระแทกเสียงประชด เธอค่อยๆ กระทดตัวลงจากเตียงช้าๆ เมื่ออาการวิงเวียงยังคงเหลืออยู่ และเมื่อขยับตัวรู้สึกถึงความโคลงเคล้งใต้ฝ่าเท้า
“อย่าพึ่งลุกค่ะ คุณจิบน้ำกลั้วคอดีกว่า ปล่อยเวลาสักพักฤทธิ์ยาก็คงจะเจือจาง”
เหอะ!! เนตรอัปสรกระแทกลมหายใจฉุนๆ ดูเหมือนทุกคนจะรู้สาเหตุเป็นอย่างดีว่าทำไม่เธอถึงหมดสติไร้ความรู้สึก
“ที่ไหนคะนี่? ฟ้าไม่คุ้นตาเลย ยังอยู่ในลอนดอนหรือเปล่า” หลังจิบน้ำเย็นๆ แก้คอแห้ง เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ สงบจิตสงบใจไม่ให้พลุ่งพล่าน เพราะหากตื่นตูมไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา นอกจากแย่ลงเท่านั้นเอง!!
“เปล่าค่ะ ไม่ได้อยู่ในลอนดอน อยู่ทางทิศเหนือของอังกฤษ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์แถบชนบทค่ะ”