บทที่ 2

1168 Words
ภูริชจำต้องพักเรื่องของจิลลาภัทรไว้ชั่วขณะ เมื่อคนขับรถได้ขับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว เขาต้องรีบเข้าไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินเป็นการเร่งด่วน ไม่ เช่นนั้นได้ตกเครื่องบิน ไม่ได้บินไปประเทศอังกฤษเพื่อประชุมและแสดงโชว์อัญมณีครั้งสำคัญของโลกในครั้งนี้เป็นแน่ และในขณะภูริชได้ขึ้นเครื่องบินทะยานสู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จิลลาภัทรก็วางแผนกับนวินดา ซึ่งพ่วงตำแหน่งเพื่อนรักและเลขาฯ ส่วนตัว ให้ช่วยเหลือเธอได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอัสดารานส์สมใจอยาก “จันทร์เจ้าจะไปเที่ยวประเทศอัสดารานส์ พี่ตะวันไปไกลถึงประเทศอังกฤษ ยังไงก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าจันทร์เจ้าหนีไปเที่ยวที่ทะเลทราย กว่าพี่ตะวันจะประชุมเสร็จและกว่างานแสดงโชว์อัญมณีจะเสร็จสิ้น จันทร์เจ้าก็กลับมาบ้านแล้ว” จิลลาภัทรมั่นใจว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น พี่ชายของเธอเดินทางไปประเทศอังกฤษเป็นเวลาสองสัปดาห์ ส่วนเธอมีโปรแกรมไปท่องดินแดนทะเลทรายแค่สิบวัน ยังมีเวลาเหลืออีกตั้งสี่วัน ยังไงๆ เธอก็กลับมาถึงประเทศไทยก่อนพี่ชาย “วินด้ารู้ค่ะว่าคุณจันทร์เจ้าต้องกลับมาถึงบ้านก่อนคุณตะวันจะกลับมาจากอังกฤษ แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนี้นะคะ คุณตะวันจะต้องโทรมาหาคุณจันทร์เจ้าอย่างแน่นอน คุณจันทร์เจ้าจะให้วินด้าบอกคุณตะวันว่ายังไงดีคะ” จิลลาภัทรทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยบอกลู่ทางที่ตนเองได้คิดไว้ “เอาแบบนี้นะวินด้า ถ้าพี่ตะวันโทรมาช่วงเช้า วินด้าก็บอกไปว่าเราเข้าประชุมอยู่ แต่ถ้าหากโทรมาตอนค่ำๆ ก็บอกว่าเราเหนื่อยและหลับไปแล้ว” นวินดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเอ่ยค้านออกมาว่า “เฮ้อ...เราจะโกหกคุณตะวันไปได้กี่น้ำกันคะ สองวันแรกคุณตะวันอาจจะเชื่อในสิ่งที่วินด้าบอกไป แต่วินด้าคิดว่าพอเข้าวันที่สาม คุณตะวันคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน คุณจันทร์เจ้าอย่าลืมนะคะว่าคุณตะวันฉลาดเป็นกรดอย่างหาตัวจับอยาก วินด้าว่าดีไม่ดี คุณตะวันจับโกหกพวกเราได้ตั้งแต่วันแรกด้วยซ้ำไป” “ว้า! เอาไงดีละทีนี้” จิลลาภัทรร้องคราง ลุกขึ้นเดินไปเดินมา ยกมือเล็กเสยผมนุ่มสลวยอย่างว้าวุ่นใจ คิดไม่ตกว่าจะหาวิธีโกหกพี่ชายอย่างไรให้ดูแนบเนียนไม่ให้อีกฝ่ายจับผิดเธอได้ “วินด้า! จันทร์เจ้านึกออกแล้วว่าจะทำยังไงดี” หญิงสาวร้องเสียงดัง พร้อมกับคลี่ยิ้มหวานเปิดให้ใบหน้ารูปไข่ดูงดงามชวนพิศยิ่งนัก “คุณจันทร์เจ้านึกออกแล้วหรือคะว่าจะโกหกคุณตะวันว่าอย่างไรดี” เลขาสาวแสนสวยเอ่ยถามผู้เป็นเจ้านาย “อย่าเรียกว่าโกหกสิวินด้า ต้องเรียกว่าปกปิดความจริงถึงจะถูก” จิลลาภัทรเอ่ยแก้ไขคำพูดให้ดูสวยหรู แต่ความหมายกลับไม่ต่างจากที่นวินดาได้เอ่ยออกมาสักเท่าไร “ปกปิดก็ปกปิดค่ะ ว่าแต่คุณจันทร์เจ้าจะทำยังไงคะ” นวินดาอมยิ้มบางๆ พลางส่ายหน้าช้าๆ เออออห่อหมกไปกับคำพูดของผู้เป็นนายสาว “เมื่อสักครู่วินด้าบอกว่าพี่ตะวันต้องโทรมาหาเราเช้า เที่ยง เย็นใช่ไหม” จิลลาภัทรไม่ตอบคำถามของผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและเป็นทั้งลูกน้อง แต่กลับเป็นฝ่ายเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแทน พอนวินดาพยักหน้ารับ หญิงสาวก็เอ่ยบอกในสิ่งที่ตนเองได้ขบคิดไว้ “ก็ในเมื่อรู้ว่าพี่ตะวันจะต้องโทรมาหาจันทร์เจ้าทุกวัน แล้วทำไมต้องรอให้พี่ตะวันเป็นฝ่ายโทรมาหาด้วย เดี๋ยวพอไปถึงประเทศอัสดารานส์แล้ว จันทร์เจ้าจะเป็นฝ่ายโทรไปรายงานตัวกับพี่ตะวันเอง เอาแบบสามเวลาหลังทานอาหาร คราวนี้พี่ตะวันก็ไม่มีทางรู้เด็ดขาดว่าจันทร์เจ้าไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย” “คุณจันทร์เจ้าห้ามลืมเป็นอันขาด ต้องโทรไปหาคุณตะวันทุกวันนะคะ หากคุณตะวันรู้ว่าคุณจันทร์เจ้าไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย วินด้าเชื่อว่าคุณจันทร์เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ไปชมดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่กลางนภาอย่างแน่นอน” นวินดาย้ำเตือนผู้เป็นนายอีกครั้ง ในใจนั้นยังหวาดหวั่นว่าจิลลาภัทรจะปกปิดพี่ชายได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ “ไม่ลืมหรอกวินด้า ขืนลืมเราก็ตายแน่ นอกจากพี่ตะวันจะไปลากตัวเรากลับประเทศไทยแล้ว พี่ตะวันจะโกรธจัดและไม่พูดกับเราเป็นอาทิตย์” จิลลาภัทรรู้ว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น หากพี่ชายสุดหล่อรู้ว่าเธอบังอาจขัดคำสั่งของเขา แถมยังกล้าไปเที่ยวตามลำพังถึงแผ่นดินทะเลทราย ที่เขาสั่งกำชับนักหนาจนเกือบเป็นกฎเหล็กห้ามไม่ให้เธอเดินทางไป พี่ชายคงได้โกรธจัดตามไปรับเธอกลับประเทศไทยโดยไม่มีลังเล “ถ้ายังงั้นเราก็ทำตามแผนที่คุณจันทร์เจ้าบอกมาค่ะ” นวินดาจำต้องยอมรับในที่สุด และก็อดถอนหายในเฮือกแล้วเฮือกเล่าไม่ได้กับการสมรู้ร่วมคิดกับจิลลาภัทร อยากปฏิเสธการช่วยเหลือ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะอดสงสารเจ้านายหญิงไม่ได้เช่นเดียวกัน จิลลาภัทรใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวประเทศอัสดารานส์นานแล้ว แต่ไม่สบโอกาสให้หนีไปเที่ยวได้สักที และนี่เป็นโอกาสเดียวที่จิลลาภัทรจะทำตามความฝันได้สำเร็จ จิลลาภัทรคลี่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ดวงตาเป็นประกายวาววับ แทบทนรอเวลาไม่ไหว อยากเดินทางไปประเทศอัสดารานส์ให้เร็วที่สุด ความฝันของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว หลังจากวิ่งไล่ตามความฝันมานานหลายปีว่าจะต้องไปเที่ยวประเทศอัสดารานส์และต้องไปขอพรกับดวงจันทราบนวิหารศักดิ์สิทธิ์ขอให้เธอได้พบกับบุรุษที่รักยิ่ง ซึ่งเธอได้เฝ้ารอมานานนับสิบปี... ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ... ทันทีที่เครื่องบินลงจอดในสนามบิน และระหว่างรอรับกระเป๋าเดินทาง เจ้าพ่อแห่งคิง ออฟ พาราไดซ์ ก็รีบโทร.เช็คความเคลื่อนไหวของน้องสาวจอมยุ่ง ว่าได้แอบหนีไปเที่ยวในแผ่นดินทะเลทรายหรือไม่ ภูริชถือสายรอไม่นานก็ได้ยินน้ำเสียงหวานๆ ของน้องสาวทักทายหลังจากได้กดรับโทรศัพท์แล้ว “สวัสดีค่ะพี่ชาย ไปถึงลอนดอนหรือยังคะ” จิลลาภัทรเอ่ยทักพี่ชายด้วยน้ำเสียงหวาดๆ กลัวว่าพี่ชายจะจับผิดเธอได้ว่าเธอกำลังจัดกระเป๋าเตรียมเดินทางไปเที่ยวในดินแดนทะเลทราย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD