บทที่ 2

920 Words
  ลอเรลกลืนน้ำลายและเบิกตากว้าง พยายามมองไปยังที่มาของเสียง แต่เธอก็มองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากรู้สึกได้ถึงสายตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยวกำลังจับจ้องมาที่ตัวเธอ   ก่อนที่เธอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนนั้นก็บีบคอเธอและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ใครส่งเธอมาที่นี่”   “ใครส่งเธอมาที่นี่ และเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่”   ผู้ชายคนนั้นบีบคอเธอแรงมากเสียจนดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความเมตตาต่อเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าเขาต้องการที่จะบีบคอเธอจนตาย ลอเรลจึงเริ่มโต้กลับตามสัญชาตญาณ   เธอวางมือบนผ้าปิดตาและพยายามที่จะดึงออก แต่คำเตือนของผู้หญิงคนนั้นก็ผุดขึ้นมาทันที   “หลังจากที่คุณเข้าไปในห้องแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะต้องไม่ถอดผ้าปิดตา หรือแม้แต่ที่จะส่งเสียงใดๆ ทั้งสิ้น!”   “แล้วถ้าฉันเจ็บล่ะ” เธอเคยค้นหาจากอินเทอร์เน็ต ว่ากันว่าการผ่าตัดดังกล่าวนั้นจะไม่มีการให่ยาสลบ และจะทำให้ยังรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อยด้วย   “ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะเจ็บแค่ไหน! คุณเคลลี่ คุณต้องจำไว้ว่าคุณเซ็นสัญญากับเราแล้ว ถ้าคุณทำลายแผนของคุณหนูพวกเรา คุณและพ่อของคุณจะไม่ได้รับเงินใดๆ อีก และยิ่งไปกว่านั้น คุณจะต้องชดใช้หนี้คืนเป็นสองเท่าด้วย! คนจนอย่างพวกคุณน่ะไม่มีทางหามาคืนได้หรอก!"   คำพูดโหดร้ายของผู้หญิงคนนั้นก้องอยู่ในหูของเธอ และด้วยความสิ้นหวังนี้ ลอเรลจึงชักมือของเธอออก   เธอไม่มีทางหวนกลับไปได้อีก นับตั้งแต่วินาทีที่เธอเซ็นสัญญา   ผู้หญิงคนนั้นพูดถูก แม้ว่าเธอจะถูกผู้ชายคนนี้รัดคอจนตายในชั่วพริบตาเดียว เธอก็ไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาได้ เธอไม่อยากที่จะเสี่ยง เพราะเธอคงไม่สามารถรับผลกระทบที่จะตามมาได้แน่ๆ   เมื่อเธอเลิกขัดขืน ผู้ชายคนนั้นก็ดึงมือของเขาออกจากเธอทันที   “อะแฮ่ม!” อากาศเข้าไปในปอดของเธออย่างกะทันหัน ลอเรลจึงเอนตัวไปข้างหนึ่งและเริ่มไออย่างหนัก   ลอเรลยังไอไม่หยุด เมื่อชายคนนั้นโถมร่างสูงและแข็งแรงของเขาเข้าหาเธอ   ลอเรลรู้สึกร้อนรนและรีบหลบไปด้านข้างทันที ร่างที่เพรียวบางของเธอเกือบจะพังทลายภายใต้น้ำหนักตัวของเขาเสียแล้ว   ลอเรลรู้สึกหวาดกลัว เธอวางมือไว้ข้างหน้าแล้วดันที่หน้าอกของเขาไว้   ซึ่งนั่นพิสูจน์ได้ทันทีว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดมาก เมื่อผู้ชายคนนั้นจับมือเธออย่างรวดเร็วในคราเดียวและตรึงไว้เหนือศีรษะของเธอ   ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะรั้งตัวเองไว้อยู่ เสียงหายใจของเขาทั้งหนักหน่วงและมีกลิ่นไวน์ที่ฉุนมาก ท่ามกลางความเงียบงันที่แผ่ขยายไปทั่วห้อง เสียงหายใจของเขาฟังดูเหมือนเครื่องช่วยหายใจที่พังไปแล้ว   จู่ๆ ลอเรลก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะกรีดร้อง   เขาบีบคางของเธออย่างแรงและพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างว่า “เธอกล้าดียังไงมาวางยาฉัน ฉันไม่สนหรอกนะว่าใครส่งเธอมาที่นี่ แต่เธอต้องรับผลที่จะตามมาในคืนนี้! ฉันหวังว่าเธอจะเตรียมใจสำหรับเรื่องนั้นมาแล้ว!"   ลอเรลมองด้วยความตกใจ เธอคิด “นี่เขาพูดบ้าอะไรเนี่ย”   "ทำไมเขาถึงมีกลิ่นไวน์ หมอจะเมาก่อนเข้าผ่าตัดได้อย่างไร"   ร่างกายของลอเรลเริ่มสั่นเทา “นี่เธอเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่า”   ลอเรลยังคงงงงวยเมื่อมือร้อนผ่าวของผู้ชายคนนั้นเลื่อนไปที่คอเสื้อของเธอ แล้วเขาก็ฉีกชุดของเธอด้วยท่าทางที่รุนแรง   "อา!" ลอเรลไม่สามารถอดกลั้นความกลัวได้อีกและกรีดร้องออกมา   วินาทีถัดมาเธอก็กัดริมฝีปากแน่น และน้ำตาแห่งความสิ้นหวังก็ไหลออกมา   “เฮอะ แสร้งทำเป็นใสซื่อเหรอ” น้ำเสียงที่เย็นชาและแข็งกร้าวของผู้ชายคนนั้นอยู่ใกล้หูเธอมากจนแทบทนไม่ได้   การที่เธอขัดขืนก็เป็นเหมือนเพียงการออกแรงที่เปล่าประโยชน์เพราะเธอไม่มีพละกำลังมากพอ แต่ทว่า นั่นยิ่งกลับทำให้ผู้ชายคนนั้นตื่นตัวมากขึ้นไปอีก   ลอเรลไม่เคยแม้แต่ที่จะจับมือผู้ชายมาก่อนด้วยซ้ำ เธอตัวสั่นด้วยความกลัวและพยายามอย่างหนักที่จะไม่กรีดร้องออกมา แต่น้ำตาก็ไหลอาบแก้มราวกับลูกปัดที่แตกสลาย   เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีเจตนาจะปล่อยเธอไปเลย   เกรกอรี่สัมผัสได้ถึงน้ำตาที่อาบแก้มและร่างกายที่สั่นเล็กน้อยของเธอ เขาหยุด “ช่างไร้เดียงสาอะไรเช่นนี้!”   ความโกรธในใจของเขาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาพอใจในการกระทำเธอมาก   ลอเรลจำคำพูดของผู้หญิงคนนั้นได้ดี แม้ว่าเธอจะเจ็บปวด เธอก็จะต้องไม่ส่งเสียงใดๆ เธอกัดมันอย่างแรงจนทำให้ริมฝีปากสีแดงก่ำของเธอฟกช้ำ   อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาและเริ่มสะอื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD