ภายในห้องเรียนของโรงเรียนนานาชาติที่ทันสมัย และรายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมไปถึงเด็กนักเรียนที่เข้าศึกษาที่นี่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเหล่าลูกหลานของคนมีอันจะกิน เหล่าผู้ลากมากดีที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในสังคม
ทุกอย่างภายในสถาบันแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียน สภาพแวดล้อม รวมไปถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนเต็มไปด้วยความพร้อมและความสวยงามหรูหรา เหมาะสมกับค่าเทอมที่แพงหูฉี่
“พิพิมช่วงนี้แกเป็นเมนส์เหรอ?” เสียงหวานของวินิชา เพื่อนสนิทของพิพิมเอ่ยถามเพื่อนสาวขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าสวยแสดงอารมณ์ที่หลากหลายออกมาให้เห็น
“เปล่า” เสียงของเพื่อนรักเหมือนกำลังเรียกสติของพิพิมให้กลับมา ร่างบางตอบกลับเพื่อนด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย
สายตายังคงจับจ้องไปยังกระดานหน้าห้องเรียนพร้อมกับเหลือบมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้องเพื่อรอเวลาเลิกเรียน
“ฉันกับยายลลิตนั่งดูแกอยู่นะ หนึ่งนาทีหลายร้อยอารมณ์”
“เฮ้อ!! ฉันแค่เซ็งเวลาถูกน้ามนต์นภาจ้องจับผิด” พิพิมรู้สึกไม่ชอบใจเลยสักนิด เมื่อถูกน้าสาวจ้องจับผิดตัวเองทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แถมยังเอาตัวเธอไปเปรียบเทียบกับลูกเลี้ยงของน้าสาวอยู่ตลอดทั้งที่เธอเรียนได้เกรดดีกว่าวรินทร์ด้วยซ้ำ
“แล้วที่แกยิ้ม? แกนึกถึงใคร?” ใบหน้าบึ้งตึงของพิพิม วินิชาและลลิตพอจะเข้าใจอยู่บ้างว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ใบหน้ายิ้มเหมือนกำลังคิดถึงใครของเพื่อนรักนั้นเป็นเรื่องที่พวกเธอกำลังสงสัย
“ฉันก็นึกถึงเสือหมอบลูกชายของฉัน กับพะ” หญิงสาวชะงักคำพูดเอาไว้เพียงเท่านั้น พิพิมเกือบหลุดคำว่า ‘พ่อ’ ของเสือหมอบ ออกมาให้เพื่อนรักทั้งสองได้ยิน หันไปสบตาเพื่อนรักทั้งสองที่กำลังนั่งจ้องจับผิดอยู่ตรงหน้าเหมือนต้องการคำตอบจากเธอ
“แกไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่” ลลิตหรี่ตาจับผิดพิพิมที่นั่งตรงข้ามกับตัวเอง คำพูดกำกวมที่ดูแปลกไปของพิพิมเริ่มทำให้เธอสงสัย และได้แต่คิดว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไร
“น้องแมว ชื่อ เสือหมอบ” พิพิมตอบคำถามเพื่อนรักอย่างใจเย็น เธอพยายามเก็บอาการของตัวเองที่เริ่มลนลานเมื่อเจอสายตาจับผิดจากเพื่อนรัก
“แต่ที่บ้านไม่ให้มีสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เหรอ?”
“เป็นแมวของเพื่อน แต่ฉันถูกชะตากับน้องแมวมาก ก็เลยสถาปนาตัวเองเป็นแม่ซะเลย”
“งั้นแสดงว่าเป็นเพื่อนผู้ชาย?”
“ใคร / ใคร” ลลิตและวินิชาเอ่ยถามพิพิมขึ้นพร้อมกัน ถ้าหากเป็นผู้ชายจริง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เนื่องจากพิพิมไม่ชอบคุยหรือสุงสิงกับผู้ชายคนไหนมาก่อน
“โอ๊ย!! ไม่มีอะไรสักหน่อย เพื่อนที่รู้จักกัน เปลี่ยนเรื่องคุย”
“พิพิม แกหน้าแดง” วินิชาเอ่ยบอกเพื่อนรักของตัวเองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“แกพูดอะไรชา ฉันร้อนต่างหาก” มือเล็กยกขึ้นพัดใบหน้าตัวเอง เพียงระบายความร้อน และหัวใจที่ระส่ำ เมื่อต้องตอบคำถามของเพื่อนรัก
“เหรอ/ เหรอ”
“ใช่ อากาศร้อนมาก” พิพิมยังคงย้ำคำตอบเดิมของตัวเอง ในขณะที่สายตาของเธอยังจับจ้องไปที่อื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของเพื่อนรักทั้งสอง
“แต่ตอนนี้เราเรียนอยู่ในห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิยี่สิบสามองศา” คำพูดของวินิชาเหมือนกำลังหักหน้าเพื่อนรักไม่ปาน เนื่องจากอุณหภูมิภายในห้องเย็นยิ่งกว่าฤดูหนาวของประเทศไทยมากโข
“ชาอะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มเงอะงะเก้อเขินใส่เพื่อนรักของตัวเองที่กำลังนั่งอมยิ้มในท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของพิพิมที่เหมือนคนกำลังมีความรักไม่ปาน
คาเฟแห่งหนึ่งที่คั่นกลางระหว่างโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนรัฐบาลดังที่จัดว่ามีเด็กเก่งเรียนอยู่เต็มไปหมด ภายในคาเฟแห่งนี้มีนักเรียนรัฐบาลหลายคนที่มาทำงานพาร์ตไทม์อยู่ที่นี่
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” เสียงใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นต้อนรับลูกค้า เมื่อเห็นกลุ่มเด็กสาวในชุดนักเรียนนานาชาติเดินเข้าไปภายในร้าน
“พวกแกเอาไร” วินิชาหันกลับไปถามเพื่อนรักทั้งสองที่เดินตามเข้ามาภายในร้านด้วยท่าทางโอ้เอ้
“ชาเย็นหวานน้อย” เสียงหวานของพิพิมเอ่ยบอกเพื่อนรักโดยไม่ต้องคิด เพราะเป็นเมนูที่เธอมักจะดื่มประจำ
“เหมือนพิพิม” ลลิตตอบกลับวินิชาทั้งที่สายตาของเธอยังคงจับจ้องคลิปตลกหน้าจอมือถือของพิพิมอยู่
“ว้าว!! บาริสตาหล่อมาก” สายตาของวินิชา หญิงสาวที่มักจะมั่นในตัวเองเสมอมองผ่านพนักงานรับออร์เดอร์ไป ก่อนเธอจะเอ่ยชมบาริสตาที่กำลังชงกาแฟอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์เสียงดัง
เพียงแค่เห็นครึ่งหน้าของบาริสตาที่อยู่ในชุดนักเรียนรัฐบาลมีผ้ากันเปื้อนสวมอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาที่แม้จะปิดด้วยแมสก์สีดำ ทว่าความหล่อเหลากระแทกตากระแทกใจจนวินิชาถึงกับเอ่ยชม
“ไหนคนหล่อ?” ลลิตายื่นใบหน้าของตัวเองเข้ามาดูชายหนุ่มที่วินิชาเอ่ยชมเสียงดัง จนคนภายในร้านหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียว
“ชุน” พิพิมที่พึ่งเงยหน้าขึ้นจากมือถือเครื่องหรูของตัวเอง เอ่ยเรียกชื่อของชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์
“แกรู้จักเหรอ / แกรู้จักเหรอ” ลลิตและวินิชาอุทานคำถามขึ้นพร้อมเพรียงกัน สงสัยไม่น้อย เมื่อเพื่อนรักของเธอรู้จักกับเด็กที่เรียนโรงเรียนรัฐบาล
“รู้จักสิ” พิพิมพยักหน้าตอบรับเพื่อนทั้งสอง ก่อนที่เธอจะเดินเบียดเพื่อนรักมายืนเกาะหน้าเคาน์เตอร์เพื่อดูชุนทำงานให้เต็มสองตา
เพียงแค่เห็นชุนในลุกทำงาน หัวใจดวงน้อยของพิพิมก็เต้นระส่ำ ชายหนุ่มดูโตขึ้นแถมยังหล่อมากในลุคบาริสตา
“ชุนทำงานที่นี่เหรอ” เสียงหวานของพิพิมเอ่ยถามชุนอย่างเป็นกันเอง สายตาทุกคู่จับจ้องมายังพิพิมและชุนเป็นตาเดียว
ความแตกต่างระหว่างชุดนักเรียนของทั้งคู่ที่รู้จักกันสร้างความแปลกใจให้กับนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการในร้านไม่น้อย
“อืม” เสียงทุ้มตอบกลับพิพิม ตาคมจ้องมองใบหน้าสวยของเธอ ความอบอุ่นประกายผ่านทางแววตาคู่นั้น
“ทำที่นี่นานรึยัง” หญิงสาวเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมเวลาที่เธอจะไปหาเสือหมอบต้องรอให้ชุนว่าง เพราะเขาทำงานพาร์ตไทม์หลังเลิกเรียนนี่เอง
“ก็นานแล้วนะ” พิพิมมาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่แปลกที่เธอจะไม่ทราบ เนื่องจากร้านนี้มักมีนักเรียนเข้ามานั่งกันเยอะมากเป็นประจำ จนทำให้เธอและเพื่อนไปนั่งร้านอื่น
“ขอโทษนะคะ พอดีว่ามีลูกค้าท่านอื่นกำลังจะสั่งออร์เดอร์ รบกวนลูกค้าที่สั่งออร์เดอร์แล้วไปนั่งที่โต๊ะรอได้เลยนะคะ” พนักงานรับออร์เดอร์รุ่นราวคราวเดียวกับพิพิมเอ่ยบอกกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสุภาพ ซึ่งแตกต่างจากแววตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอหมายปองรู้จักกับผู้หญิงคนนี้
“อ๋อค่ะ”
“ไว้คุยกันนะชุน” ชุนพยักหน้าตอบรับพิพิม ก่อนที่เขาจะหันกลับไปทำออร์เดอร์ให้กับลูกค้าท่านอื่นต่อ ยิ่งเรียกความสงสัยจากลลิตและวินิชาได้เป็นอย่างดี เพียงแค่พวกเธอเงียบรอให้เพื่อนรักเป็นคนเล่าเท่านั้น