“เสือหมอบ วันนี้พิมซื้อขนมมาให้เยอะเลยนะ” เสียงหวานพร้อมกับรอยยิ้มกว้างของพิพิมดังขึ้นมาแต่ไกล มือเล็กถือถุงอาหารและขนมแมวพะรุงพะรังไปหมด
กว่าชายหนุ่มจะว่าง เล่นเอาเธอคิดถึงเจ้าแมวอ้วนแทบไม่ไหว ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าของถึงไม่มีเวลาทั้งที่ยังเรียนอยู่ด้วยซ้ำ
“ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาว คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมเมื่อเห็นของที่เธอถือมา
“ชุน นายอย่าบ่นน่า ฉันซื้อให้ลูกชายฉัน” จากที่เธอได้คุยไลน์กับชุนเรื่องเสือหมอบ ทำให้เธอรู้ว่า ชายหนุ่มเป็นคนประหยัดมากแค่ไหน
“ลูกชาย?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม งุนงงกับประโยคของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่น้อย
“ตอนนี้พิมรับเสือหมอบเป็นลูกชายเรียบร้อยแล้ว” ใบหน้าจิ้มลิ้มดูภูมิอกภูมิใจในตัวเองไม่น้อยที่ได้แต่งตั้งตำแหน่งใหม่ให้กับตัวเอง
“ใครอนุญาต?”
“ก็พิมไง” นิ้วเรียวสวยชี้เข้าหาตัวเอง ใบหน้าจิ้มลิ้มยังคงไม่รู้สึกอะไรกับเจ้าของคำถามที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เธออยู่
“แล้วใครเป็นพ่อ” ชุนได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปลงกับผู้หญิงที่พึ่งรู้จักคนนี้ พิพิมมักมีนิสัยแปลก จนบางครั้งชุนเองก็ทึ่งในตัวของเธอ
“ก็ชุนไง” กึก!! ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคคำพูดของหญิงสาว หัวใจแกร่งเต้นระส่ำจนไม่สามารถควบคุมได้
“เฮ้อ!!” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่เต็มไปด้วยความเซ็งของชายหนุ่มดังขึ้น ทำให้พิพิมที่กำลังนั่งป้อนขนมเสือหมอบถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“หรือชุนมีแม่ให้เสือหมอบแล้ว ถ้างั้นพิมไม่” พิพิมเธอลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท อีกทั้งเธอเองก็ไม่เคยเอ่ยถามชุนเลยสักครั้ง
“เปล่า!! จะเป็นก็เป็นไปสิ” ยังไม่ทันที่พิพิมจะพูดอะไรต่อ ชุนรีบเอ่ยแทรกขึ้นทันที เหมือนกลัวว่าพิพิมจะคิดไปเองจนเลยเถิด
“จริง ๆ นะ” ดวงตากลมเบิกโตด้วยความดีใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มกลับมายิ้มกว้างอีกครั้ง เมื่อได้รับคำอนุญาตจากชายหนุ่มโดยที่เธอไม่ได้คิดไปเอง
“อืม”
“เสือหมอบลูกรักของแม่” มือเล็กกำลังเกาคางให้แมวเหมียวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู สายตาจับจ้องไปที่ลูกแมวสลับกับพ่อของเสือหมอบไม่วางตา
“ถ้าชุนไม่อยู่ เสือหมอบอยู่กับใครเหรอ” พิพิมเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้ร่างบางถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
“คนเดียว” น้ำเสียงเรียบเฉยเอ่ยบอกกับพิพิม ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ของชายหนุ่ม สายตายังคงทอดมองไปยังผืนน้ำ เขาอยู่ตัวคนเดียวมาได้ได้เกือบหนึ่งปี
เนื่องจากคุณแม่ที่เป็นทุกอย่างให้กับเขาเกิดป่วยเป็นโรคร้าย และได้จากเขาไปเกือบหนึ่งปี จึงทำให้ตอนนี้ชุนเหลือเพียงตัวคนเดียว ไม่มีแม้แต่ญาติพี่น้องที่ไหน
“อ้าว!! แล้วคุณพ่อคุณแม่ของชุนล่ะ ท่านไปไหน? ไปทำงานเหรอ”
“กลับสวรรค์ไปแล้ว”
“เฮ้ย!! ขอโทษนะ พิมไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อพิพิมได้รับคำตอบจากชุน ใบหน้าจิ้มลิ้มถึงกับตกใจและขอโทษขอโพยชุนยกใหญ่ที่เธอเผลอเอ่ยถามคำถามที่ไม่สมควรจะถามกับเขา
“ไม่เป็นไร เธอไม่รู้”
“จริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ของพิมพึ่งเสียไปได้ไม่นานเหมือนกัน” อารมณ์ของพิพิมเปลี่ยนไปทันที เมื่อนึกถึง และพูดถึงพ่อแม่ของตัวเองที่จากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
ความเศร้ากัดกินที่หัวใจของเธอ ถึงแม้ว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเธอจะจากไป แต่ชีวิตของพิพิมยังคงมีเพียบพร้อมทุกอย่าง โดยอยู่ในการดูแลของคุณน้า น้องสาวของคุณแม่ และมีคุณยายที่ช่วยคุณน้าดูแลเธออีกแรง
“ท่านไปสบายแล้ว เราก็แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับหญิงสาว ความอบอุ่นเริ่มเข้ามาแทรกซึมในจิตใจของพิพิม ถึงแม้ว่าเธอจะพึ่งเจอชุน แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้
“ชุนดูโตกว่าพิมอีก ทั้งที่เราอายุเท่ากัน”
“การเติบโตและเลี้ยงดูมันต่างกัน” ไม่แปลกที่พิพิมจะมีนิสัยแบบนี้ ซึ่งแตกต่างเขาที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองมาโดยตลอด แต่เขาก็ภูมิใจที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อและคุณแม่ที่รักกัน และหล่อหลอมเขาด้วยความรัก
“พิมอยากเข้มแข็งให้ได้เหมือนชุนจัง”
“สถานการณ์ของฉันมันบังคับให้ต้องสู้” น้ำเสียงแน่วแน่ แววตาเป็นประกายเข้มแข็งของชุน ทำให้พิพิมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของผู้ชายคนนี้
พิพิมยื่นมือของตัวเองไปจับมือหนาของชุนเอาไว้ เธอบีบมือของเขาเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม สายตาของทั้งคู่สอดประสานกันโดยมีเสือหมอบกั้นกลางเอาไว้ ใบหน้าของทั้งสองที่เหมือนมีแรงดึงดูดให้เข้าหากันเป็นอันต้องชะงัก เมื่อเสียงท้องของพิพิมร้องดังลั่น
“หิว?” หางคิ้วของชุนเลิกขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงถามพิพิม มือเล็กลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองเบา ๆ เพื่อเป็นคำตอบ
“นิดหน่อย” ใบหน้าจิ้มลิ้มเห่อร้อนขึ้นด้วยความเขินอาย เธอเกือบเผลอใจจูบกับชุนเข้าให้ และที่น่าอายไปมากกว่านั้นคือ ท้องเจ้ากรรมดันร้องในขณะที่....
“งั้นรออยู่นี่ เดี๋ยวมา!!” ชุนยันตัวเองลุกจากเก้าอี้ตัวยาว เขาหลุบตาต่ำมองหญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมาตั้งคำถามกับเขา
“นายจะไปไหนเหรอ”
“ไปหาอะไรให้เธอกิน กินได้หมดใช่มั้ย” ชุนเอ่ยถามพิพิมให้แน่ใจ เพราะดูจากการแต่งตัวของเธอ รวมไปถึงโรงเรียนที่เธอเรียน บ่งบอกถึงฐานะทางบ้านของพิพิมได้เป็นอย่างดี
“ได้”
“งั้นเธอรอตรงนี้กับเสือหมอบไปก่อนนะ” ร่างสูงโปร่งเดินออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความเร่งรีบโดยมีสายตากลมโตของพิพิมมองตามแผ่นหลังกว้างแทบไม่ละสายตา
“รีบมานะ!!”