สวยครับ

1341 Words
บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยเสียงเครื่องยนต์แล่นไปมา กับแสงไฟนีออนที่ส่องสว่างตลอดทางเดิน ชุนและพิพิมเดินจากป้ายรถเมล์มาได้ไม่ไกลก็พบเข้ากับร้านอาหารเล็ก ๆ ริมทางที่มีโต๊ะตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ “ร้านนี้เหรอ” ดวงตากลมโตจ้องเข้าไปภายในร้านอาหารขนาดเล็กด้วยคำถามมากมายที่อยู่ในหัว ปกติเคยนั่งรถผ่าน แต่ไม่เคยได้ลิ้มลองเลยสักครั้ง “กินได้มั้ย” ใบหน้าหล่อเหลาของชุนเริ่มเป็นห่วงพิพิม ชายหนุ่มกลัวว่าหญิงสาวจะอึดอัดกับสถานที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง “ได้อยู่แล้ว สบายมาก” ร่างบางเดินไปนั่งที่โต๊ะ คงไม่ยากอะไรหากเธอจะลองเปิดใจ ทำสิ่งใหม่ ๆ ทานอาหารร้านใหม่ และลองสิ่งใหม่ ๆ ไปพร้อมกับชุน “อยากทานอะไร ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง” เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มปรับตัวได้ ชุนจึงแนะนำร้านประจำของเขาให้เธอทันที “อยากกินผัดไทยกุ้งสด” พิพิมเป็นผู้หญิงที่คิดอะไร อยากทำอะไร เธอจะพูดออกมา สร้างความพึงพอใจให้กับชายหนุ่มไม่น้อย เพราะเขาไม่ต้องมานั่งเดาใจของผู้หญิงคนนี้เลยสักครั้ง “นั่งรออยู่ตรงนี้นะ” ชุนเดินไปสั่งอาหารได้ไม่นานก็กลับมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพิพิม รอไม่นานอาหารที่สั่งถูกเสิร์ฟโดยมือของป้าเจ้าของร้าน “อ้าว!! พ่อหนุ่มรูปหล่อ วันนี้พาแฟนมาด้วยเหรอ” ประโยคเอ่ยทักทายของป้าเจ้าของร้าน ทำให้ชุนและพิพิมหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย “เอ่อ คือ” ชุนพยายามจะเอ่ยปฏิเสธป้าเจ้าของร้านอาหาร แต่กลับถูกพูดแทรกขึ้นมา โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้อธิบายเลยสักนิด “แฟนสวยด้วยนะเรา เหมาะสมกันดี ป้าชอบ” “คือว่าไม่” “หนูสวยจริงเหรอคะ” เมื่อเห็นว่าปฏิเสธไปก็ไม่เป็นผล แถมป้าเจ้าของร้านพูดจาเข้าหูพิพิม ทำให้เธอไม่อาจหักหาญน้ำใจของป้าได้จึงเออออตามน้ำไป เพราะกลัวป้าจะหน้าแตกที่พูดออกมา “สวยเหมือนนางฟ้าเลยลูก” ประโยคคำชมอวยพิพิมจนหญิงสาวยิ้มแก้มแทบปริบ เพราะไม่เคยมีใครชมเธอได้โอเวอร์ขนาดนี้มาก่อนด้วยซ้ำ “แหม!! ป้าก็ชมหนูเกินไปค่ะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มเสแสร้างแกล้งเขินอายต่อหน้าทุกคน เมื่อถูกชมแทบลอยขึ้นอากาศ “ไม่เชื่อถามแฟนหนูดูสิ แฟนหนูลูกค้าประจำร้านป้าเลยนะ” ป้าเจ้าของร้านเชิดหน้าตัวเองไปทางชุนที่นั่งนิ่งฟังบทสนทนาของสองสาวต่างวัยด้วยใบหน้าเอือมระอากับคำเยินยอ “จริงมั้ยชุน” พิพิมเอ่ยถามชุนตามคำแนะนำของป้าเจ้าของร้าน แต่คำตอบที่ได้ กลับทำให้ร่างบางเบือนหน้าหนีแสร้งหลบตาอย่างเขิน ๆ “สวยครับ” เสียงทุ้มตอบกลับคำถามของพิพิมจากใจจริง พิพิมเป็นผู้หญิงที่สวยมาก มองยังไงก็ไม่เคยเบื่อ ยิ่งความเปิ่นของเธอ ยิ่งทำให้เธอมีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้นเท่าตัว “เสือหมอบ วันนี้เหงามั้ยลูก” เสียงหวานของพิพิมเอ่ยเรียกชื่อของเสือหมอบลูกชายที่เธอสถาปนาตัวเองเป็นแม่ของมัน แมวเหมียวตัวอ้วนกำลังนอนหลับตาพริ้ม ๆ อยู่บนตักของพิพิมที่กำลังเกาคางให้ท่าทางสบาย “รบกวนชุนแย่เลย ต้องเดินเข้าไปเอาเสือหมอบในบ้าน พาออกมาหาพิมข้างนอกอีก” “ไม่เป็นไร ถือว่าพาเสือหมอบมาเดินเล่น” ปกติเสือหมอบไม่ค่อยออกมาข้างนอกเท่าไรนัก ข้อนี้เขาก็ไม่แน่ใจ แต่วันนั้นคงเป็นเรื่องบังเอิญที่เสือหมอบอยากออกจากบ้าน จนทำให้เขาและเสือหมอบเจอกับพิพิมในวันนั้น “ขอบคุณนะ” “ถ้าอยากเล่นกับเสือหมอบบ่อย ๆ ก็แวะมาเล่นที่บ้านสิ” เมื่อเห็นพิพิมมีความสุขที่ได้เห็นเสือหมอบ ทำให้ชุนตัดสินใจเอ่ยบอกกับพิพิมให้เข้าไปในบ้านที่เขาหวงยิ่งกว่าอะไรดี ยอมเปิดบ้านให้เธอไปเล่นกับเสือหมอบ “ฮะ!!” พิพิมลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ใบหน้าจิ้มลิ้มอุทานด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินผู้ชายเชื้อเชิญตัวเองเข้าบ้านของเขา “ก็เห็นอยากเล่นบ่อย ๆ ปกติไม่ค่อยว่างเท่าไร” เพราะกลัวว่าเธอจะคิดมาก กลัวว่าเธอจะไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีก จึงทำให้ชุนรีบอธิบายเจตนาของตัวเองให้พิพิมได้ทราบทันที “ชุนทำงานพาร์ตไทม์สินะ” “ใช่ ปกติก็ทำหลายงานอยู่ แต่วันนี้เป็นวันพักน่ะ” จริง ๆ เขาทำงานหนักมากในทุกวัน หลังเลิกเรียนจึงไม่ค่อยมีเวลาเท่าไรนัก แต่ดีที่เสือหมอบเป็นแมวที่โลกส่วนตัวสูงจนอยู่คนเดียวได้ เพียงแค่เทอาหารและน้ำทิ้งไว้ก็พอ “ทำไมต้องทำเยอะ” พิพิมเอ่ยคำถามที่เธอไม่เข้าใจมาก่อน ชุนเองเป็นเพียงแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งก็ควรจะมีเวลาเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่เมื่อได้คำตอบจากชายหนุ่ม ก็ทำให้เธอได้เข้าใจ “หาเลี้ยงตัวเอง มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายด้วย” ชุนเริ่มเปิดใจพูดเรื่องส่วนตัวของเขาให้กับพิพิมได้ทราบ อย่างน้อยเธอจะได้ไม่งอแงขอเล่นกับเสือหมอบทั้งที่เขาแทบไม่มีเวลาเพราะต้องทำงาน “เหนื่อยมั้ย” คำถามแรกในรอบหลายเดือนที่เขาได้ยิน พิพิมคงเป็นผู้หญิงคนที่สองที่ถามประโยคนี้กับเขา ซึ่งมันทำให้เขาอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก นอกจากแม่ของเขาที่มักจะถามคำถามนี้ก็มีพิพิมที่เอ่ยถามเช่นกัน “อืม” ร่างสูงเริ่มสะอึกในอก พยายามกักเก็บความรู้สึกอ่อนแอของตัวเองเอาไว้ให้ลึกที่สุดของหัวใจ แสดงด้านเข้มแข็งของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุดในเวลานี้ เวลาที่ถูกคนคนหนึ่งตั้งคำถามง่าย ๆ แต่ใครหลายคนเลือกจะไม่ถาม หัวใจแกร่งมักจะอ่อนแอลงเหมือนต้องการที่พึ่งพิง “ไหวรึเปล่า” เสียงหวานยังคงเอ่ยถามชุนด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นแววตาที่แดงก่ำของเขาพยายามกักเก็บน้ำตาเอาไว้ มันทำให้เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ มือเล็กจับมือหนาของชุนเอาไว้แน่น เธอบีบมือของชุนเบา ๆ เพื่อให้เขารับรู้ว่า ตรงนี้ยังมีเธออยู่ และเขาไม่ได้อยู่คนเดียวใบโลกใบนี้ “อืม” “พิมจะเป็นกำลังใจให้ชุนเอง ชุนทำได้ ชุนเก่ง” นี่คงเป็นสิ่งที่ดีในรอบหลายเดือน หลายปีที่ฟ้าส่งมาให้กับเขา หญิงสาวตรงหน้าเหมือนน้ำที่ชโลมจิตใจแห้งกร้านของเขาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง “อย่าทิ้งชุนไปไหนนะครับ” เพราะความอ่อนแอของตัวเองบวกกับความไว้ใจคนตรงหน้า ทำให้ชุนเผลอพูดประโยคความในใจของตัวเองออกมาให้พิพิมได้ยิน รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าสวยของหญิงสาว สายตาอบอุ่นของทั้งสองประสานกัน ทุกอย่างโดยรอบหยุดหมุนเหมือนกำลังมีแรงดึงดูดให้ใบหน้าเข้าใกล้กันเรื่อย ๆ ปลายจมูกแตะกันจนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน สายตาหวานเยิ้มยังคงสบตากัน พิพิมค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ เพื่อรับสัมผัสของชุน เพียงแค่ดวงตากลมโตหลับลง ปากของชุนประกบเข้ากับปากของพิพิมทันที จูบอ่อนหวานละมุนของชุน หล่อหลอมพิพิมจนแทบละลาย หัวใจที่เต้นระส่ำของทั้งคู่ดังขึ้น จูบละมุนแทบไม่อยากผละออกจากกันเคลิบเคลิ้มแทบไร้เรี่ยวแรง “เหมียว เหมียว” เสียงร้องเรียกของเสือหมอบดังขึ้น เหมือนระฆังที่ดังกลางวง ทำให้พิพิมและชุนต้องรีบผละตัวออกด้วยความเขินอาย มือไม้ไม่รู้จะวางเอาไว้ตรงไหน รู้สึกเก้อเขินไปหมด จนพิพิมเอ่ยขอตัวกลับ และรีบวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความเร็ว “เอ่อ คือ พิมว่าตอนนี้มันก็ดึกแล้ว พิมขอตัวกลับก่อนนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD