ทันทีที่เลิกงานแสงดาวก็รีบมาที่โรงเรียนของยัยหนู พักหลังมานี้ลูกสาวของเธอชักจะก่อเรื่องบ่อยเกินไปแล้ว ระหว่างทางเธอพยายามทบทวนมาตลอดว่ายัยหนูผู้น่ารักและเลี้ยงง่ายมาตลอดเริ่มเป็นตัวตึงตอนไหน
พอคนเป็นแม่ลองตรองดูแล้วก็ได้คำตอบว่าสกิลการก่อเรื่องของยัยหนูเพิ่มขึ้นตอนที่เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอนุบาล
อาจจะเป็นเพราะได้เจอเพื่อนๆ หลากหลาย พฤติกรรมของแกจึงเปลี่ยนไปมากจากตอนที่เธอฝากไว้กับเนิร์สเซอรีเด็กเล็กใต้คอนโดมิเนียม...
ไม่ใช่แค่ผลักเพื่อน แสงดาวรู้สึกว่าคำพูดคำจาของเจ้าตัวก็ซับซ้อนขึ้น เมื่อวานคุณครูไลน์มาฟ้องแบบติดตลกว่า ไคร่ากอดอกแล้วส่ายหัวเมื่อคุณครูวาดรูปแมวบนหน้ากระดาน ยัยแสบของเธอบอกว่านั่นคือแมวที่ถูกรถทับเพราะแมวมีสภาพย่ำแย่ไม่เหมือนแมวปกติ คุณครูผู้วาดรูปไม่สวยเลยเมาท์เรื่องนี้กับเธอ พร้อมแจ้งว่ายัยหนูไคร่าปลุกเพื่อนในห้องไปวิ่งเล่นในช่วงที่คุณครูให้นอนกลางวัน
ตั้งแต่เข้าเรียนแสงดาวก็ได้ยินสารพัดข้อกล่าวหา พอถามลูกว่าได้ทำไหมไคร่าก็ยืดอกรับตลอดว่าทำ แถมยังยืนยันด้วยดวงตาแน่วแน่ว่าไม่รู้ว่านั่นคือเรื่องที่ผิด และต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว... เจ้าก้อนของเธอเป็นเด็กดีพอคุยกันด้วยเหตุผลไคร่าก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่ใครจะไปรู้ว่าพอไม่ทำเรื่องหนึ่ง ก็มีอีกเรื่องหนึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ดี
ในตอนที่แสงดาวไปถึง คุณครูก็เชิญเธอเข้าไปในห้องรับรองพิเศษที่ผู้ปกครองน้อง พัตเตอร์ และน้องโอลีฟ คู่กรณีของไคร่ารออยู่ในนั้น
คุณแม่ของพัตเตอร์เป็นหมอสกินที่คลินิกชื่อดัง คุณแม่ของโอลีฟเป็นนักเปียโนระดับชาติ คุณพ่อของนาดาเป็นผู้บริหารโรงเรียนอนุบาล แสงดาวจำข้อมูลของทุกคนไว้ในหัวตั้งแต่ตอนประชุมผู้ปกครองแล้ว หญิงสาวยังไม่ทันค้อมหัวขอโทษเหมือนที่เคย คุณแม่ของโอลีฟก็ทิ้งกระเป๋าแอร์เมสหนังจระเข้ลงกับพื้นแล้วรีบเดินมาคว้ามือเธอไปจับไว้
"คุณน้อง มาแล้วเหรอคะ"
"อะ เอ่อค่ะ"
"พี่ขอโทษแทนลูกด้วยนะคะ"
"พี่ก็ด้วยค่ะ ต่อไปพี่จะบอกพัตเตอร์ให้ระวังคำพูด และพี่เองก็จะระวังไม่พูดเรื่องผู้ใหญ่เข้าหูเด็กอีก" คุณแม่น้องพัตเตอร์ก็ลุกมาจับมือเธอไว้อีกข้าง...
แสงดาวนิ่วหน้า ไคร่าผลักเพื่อน แต่ทำไมแม่เพื่อนที่ถูกผลักถึงมาขอโทษเธอ หญิงสาวหันไปหาผู้อำนวยการของโรงเรียนซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องนาดา
จากรายงานของคุณครูที่ส่งไปเล่าคร่าวๆ คือ ไคร่ามีเรื่องกับพัตเตอร์และโอลีฟ โดยมีน้องนาดาเป็นกองหนุนฝั่งไคร่า
"ตอนที่สอบถาม พัตเตอร์กับโอลีฟล้อไคร่าว่าไม่มีพ่อมาส่งที่โรงเรียน ไคร่าโกรธเลยผลักเพื่อนที่ล้อครับ" ธนาวินอธิบายเหตุการณ์แทนคุณครูประจำชั้น
เขาเป็นผู้อำนวยการวัยสามสิบกว่าที่หน้าตาดูใจดีสมกับเป็นผู้บริหารโรงเรียนอนุบาล แสงดาวเคยได้ยินผู้ปกครองในห้องกระซิบกระซาบกันว่าเขาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
จากสีหน้ากระอักกระอ่วนเพราะความพยายามประนีประนอมของชายหนุ่มทำให้แสงดาวเดาได้ทันทีว่า คำที่เด็กๆ ล้อลูกของตนน่าจะเป็นคำที่ไม่น่ารักพอดู มือสองคู่ที่เขย่ามือของตนเองอยู่ทำให้แสงดาววิเคราะห์ว่า คุณแม่ของโอลีฟกับพัตเตอร์น่าจะเมาท์เธอให้เด็กๆ ได้ยิน พวกเขาจึงเอามาล้อลูกเธอว่าเป็นเด็กไม่มีพ่อ ซึ่งนั่นเป็นปมปัญหาที่ยัยหนูไคร่ากำลังเผชิญอยู่เพราะเจ้าตัวเริ่มเรียนรู้ว่าตัวเองไม่มีพ่อเหมือนเพื่อน ตอนที่โดนล้อเรื่องนี้ไคร่าจึงโกรธ
"เรื่องที่เพื่อนๆ มาล้อไคร่าว่าไม่มีพ่อ ดิฉันอยากให้ผู้ปกครองสอนลูกให้รู้จักการอยู่ร่วมกับคนที่มีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนตัวเองด้วย ส่วนเรื่องที่ไคร่าผลักเพื่อนดิฉันก็ขอโทษแทนลูกด้วยนะคะ ดิฉันจะอบรมลูกเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดเลยค่ะ"
"พี่ก็สัญญาค่ะ" แม่น้องโอลีฟพยักหน้าตาม
"อีกอย่างที่อยากฝากก็คือ ไคร่ามีพ่อนะคะ"
"คุณน้องบอกพี่เองไม่ใช่เหรอคะว่าเป็นซิงเกิ้ลมอม" เสียงถามอุบอิบจากคุณหมอผิวหนังทำให้แสงดาวเลิกคิ้ว
"ลูกของดิฉันไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่นี่คะ" เธอบอกติดตลก "ไคร่ามีพ่อค่ะ" น้ำเสียงของแสงดาวบอกอย่างมั่นใจ
"ค่ะ มีก็มี"
แสงดาวยิ้มให้ทุกคน เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงนี้ลูกน้อยถึงเกเรผิดปกติ มันเป็นเพราะคนรอบข้างพูดจาแบบนั้นจนลูกของเธอหวั่นไหวจากภายในจิตใจ เธอหันไปสบตากับธนาวินที่ทอดมองมาอย่างเข้าอกเข้าใจ หญิงสาวไม่หุบยิ้มแม้แต่น้อย
เธอมั่นใจว่าเธอจะเติมเต็มความขาดเขินในส่วนนี้ให้ลูกได้สำเร็จ...