"นาย!" ในขณะที่แสนสวยกำลังจะปิดประตู ก็ได้มีคนผลักมันเข้ามาจนร่างของเธอเซถอยหลังไป
ปัง! ร่างหนาเดินเข้ามาพ้นประตูก็ปิดมันลง
"นายเข้ามาทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!"
"ทำไมฉันจะเข้ามาไม่ได้ ก็ในเมื่อที่นี่มันบ้านของฉัน"
"แต่นี่มันห้องส่วนตัวของฉัน!"
หมั่บ!! มือหนายื่นไปบีบคางเรียวของคนตัวเล็กให้เงยขึ้นมามองสบตา "ที่นี่ไม่มีอะไรที่เป็นของเธอ"
"อืม!!" หญิงสาวพยายามจะดิ้นให้หลุดอุ้งนั้น แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งใช้แรงที่มือมากขึ้น
"ฉันรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ ขอเตือนว่าอย่าแม้แต่จะคิด!" เสียงที่เขาเปล่งออกมามันชวนให้น่าขนลุก
นาทีนี้เธอจะท้าทายเขาไม่ได้ เพราะถ้าไม่งั้นก็มีแต่จะเสียเปรียบ
"เงียบทำไม! ทำไมไม่ทำเป็นเก่งเหมือนทุกครั้งล่ะ"
เพราะตอนนี้เธอได้แต่เงียบไว้ แต่สายตาของเธอก็ยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเขา ถึงแม้จะพูดก็คงพูดไม่ได้ เพราะถูกเขาบีบมันไว้
"ฉันขอเตือน ถ้ายังอยากมีชีวิตที่ดีอยู่แบบนี้ อย่าแทรกเข้ามาในชีวิตพ่อกับแม่ของฉัน!" แล้วพยัคฆราชก็ปล่อยมือ..แต่ไม่ได้ปล่อยเบาๆ และมันก็ทำให้คนร่างเล็กล้มลงไปที่พื้น
แสนสวยค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากห้อง เพราะแค่อยากจะมาเตือนเธอเรื่องที่เขาสงสัย
"นายคงคิดว่าฉันเลวมากเลยใช่ไหม" เธอพูดออกมาไม่ค่อยแรงเท่าไร เพราะตอนนี้เจ็บไปทั้งกาม ..เขาเอาสมองส่วนไหนมาคิด นั่นคือผู้มีพระคุณของเรานะ ถ้าไม่มีพวกท่านจะมีเราในวันนี้เหรอ
"ใช่ฉันคิดว่าเธอเลว" ชายหนุ่มค่อยๆ หันกลับมาใหม่อีกครั้ง "ถ้าเป็นไปได้หาที่อยู่ใหม่ซะ"
19 : 35 น. โต๊ะอาหาร
"อิ่มแล้วเหรอลูก ทำไมทานน้อยจังเลย" อัปสรสุดาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นแสนสวยวางช้อนลง
"ค่ะ" ถ้าจะไม่ลงมาทาน มันก็ดูเสียมารยาท เพราะท่านอุตส่าห์ให้คนขึ้นไปตาม
แต่กับเขาน่ะเหรอ ทานแบบเอร็ดอร่อยแถมยังคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กับพ่อและแม่ เหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น..ใช่สิ..มันไม่ได้เกิดขึ้นกับเขานี่
เช้าวันต่อมา..
คิดว่าวันนี้จะออกจากบ้านแต่เช้า ดันนอนตื่นสาย.. เพราะว่าเมื่อคืนนี้นอนไม่หลับคิดถึงคำพูดของเขาตลอดทั้งคืน
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวลงมา สายตามองสอดส่องดูด้านล่างตลอด เพราะกลัวว่าจะเจอเขา
คนตัวเล็กลอบถอนหายใจออกมาแบบโล่ง เพราะรถของเขาไม่อยู่แล้ว
"หนูจะออกไปไหนลูก แม่นึกว่าวันนี้จะอยู่บ้าน" อัปสรสุดาเดินตามออกมาเพราะเห็นแค่หลังไวๆ
"นัดกับเพื่อนไว้ค่ะ" หญิงสาวไม่ได้บอกกล่าวท่านก่อน เพราะตอนเดินลงมาไม่เห็นใคร คงมัวแต่มองหาเขาคนนั้นจนลืมสังเกต
ห้างสรรพสินค้า
วันนี้เพื่อนที่ทำงานมาด้วยกัน 5-6 คน พอทานข้าวเสร็จทุกคนก็เดินช็อปปิ้ง
"ไม่เห็นคุณแสนสวยซื้ออะไรเลย" หยกเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าแสนสวยไม่สนใจอะไรเลย
"ไม่รู้จะซื้ออะไรค่ะ เสื้อผ้าก็มีเยอะแล้ว" ถึงจะซื้อเงินก็คงไม่พอ ..แต่ดวงตาของเธอมองไปดูกระเป๋าใบหนึ่ง มันสวยมาก มือเรียวยื่นไปกำลังจะหยิบลงมาดู
หมั่บ! แต่กลับมีผู้หญิงอีกคนหยิบมันไปก่อน
"นี่คุณช่วยมีมารยาทหน่อย" หยกเห็นว่ากระเป๋าใบนั้นถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตาก็เลยช่วยพูด
"ทำไมเหรอคะ พวกคุณจองแล้วเหรอ"
"ใช่ค่ะ..คุณแสนสวยจองแล้ว" ว่าแล้วหยกก็แย่งกระเป๋าใบนั้นคืนกลับมา "นี่ค่ะคุณแสนสวย"
"คุณเห็นราคามันไหมคะ..ว่ากระเป๋าใบนั้นว่าราคาเท่าไร"
แสนสวยไม่ได้สนใจกระเป๋าแล้ว แต่สนใจผู้หญิงคนนี้มากกว่าว่าเธอมากับใคร
"จะราคาเท่าไรคุณแสนสวยก็มีปัญญาจ่ายค่ะ"
ประโยคนี้ออกจากปากของเพื่อนร่วมงาน แสนสวยถึงกับสะดุ้ง สายตางามมองต่ำลงไปดูที่ป้ายราคา..
"เจ้าของร้านคะ กระเป๋าแบบนี้มีอีกไหม" ผู้หญิงคนที่มาแย่งกระเป๋าถามเจ้าของร้านที่เพิ่งจะเดินเข้ามาหา
"มีใบเดียวค่ะ"
"เสียดายจัง..ใบนี้ผู้หญิงคนนี้เธอจะซื้อแล้วค่ะ"
"คุณจะจ่ายเป็นเงินสดหรือเป็นบัตรดีคะ" เจ้าของร้านหันมาถามแสนสวยบ้าง เพราะมันอยู่ในมือของเธอ
"ได้หรือยังครับ"
ทุกคนที่อยู่ในร้านต่างก็หันมามองพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายที่คุ้นหู
"ใบที่ซาร่าอยากได้ ทางร้านมีแค่ใบเดียวค่ะ"
"ถ้าคุณอยากได้ใบนี้ก็ไปเถอะค่ะ" แสนสวยส่งมันใส่มือของซาร่า เพราะเธอคงไม่มีปัญญาจ่าย ใบละตั้งหลายหมื่น
"ขอโทษค่ะ ฉันไม่อยากจะใช้ของร่วมกับใคร" ว่าแล้วซาร่าก็จับกระเป๋าใบนั้นส่งให้กับเจ้าของร้าน "เธอคนนี้เป็นเจ้าของแล้วค่ะ" ทำไมซาร่าจะจำแสนสวยไม่ได้ และซาร่าก็เห็นสายตาของแสนสวยตอนที่มองป้ายราคา..คงไม่มีปัญญาจ่าย