ตอนที่ 2
“ลูกขออภัยท่านพ่อ แต่ลูกก็เป็นของลูกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ท่านพ่ออย่ามาต่อว่าลูกเลย นิสัยของลูกเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว” มูนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่สีหน้าไม่ได้สำนึกผิดแม้สักนิด
“เอาละๆ พ่อเข้าใจเจ้าดี แต่เจ้าก็อย่าลืมว่าเจ้าเกิดมาพร้อมคำทำนายของแม่เฒ่า แล้ววันนี้สิ่งที่แม่เฒ่าทำนายไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว และมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยหมู่บ้านของเราได้” คนเป็นพ่อหันมาหว่านล้อมบุตรสาวอีกครั้งด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แม้จะใจหายที่ลูกต้องมาจากอกไป แต่มันก็เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้คนอื่นๆ ในหมู่บ้านได้อยู่ต่อกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
“แต่ลูกไม่เชื่อคำทำนายนั่นหรอกท่านพ่อ ลูกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญเสียมากกว่า” มูนาเถียงเสียงขึ้นจมูก ดวงหน้าสวยคมบึ้งตึงขึ้นมาอีกครั้งอย่างขัดเคืองใจ ที่จนแล้วจนรอดผู้เป็นพ่อก็ยังไม่เลิกคิดจะส่งเธอเข้าวัง
“มูนา! นี่เจ้ากล้าลบหลู่คำทำนายของแม่เฒ่างั้นหรือ”
“ลูกเปล่านะท่านพ่อ เพียงแต่ลูกไม่คิดว่าตัวลูกจะเป็นสาเหตุทำให้หมู่บ้านของเราเกิดอาเพศแปลกประหลาดเช่นทุกวันนี้ต่างหากเล่า อีกอย่างลูกว่าคนเราจะกำหนดให้เด็กเกิดมาเป็นชายหรือหญิงได้อย่างไรกัน” มูนาเอ่ยแก้ตัวเสียงอ่อน ดวงหน้าสวยคมเจื่อนลงอย่างสำนึกผิด
“แต่เจ้าก็รู้ก็เห็นว่าเด็กที่เกิดหลังจากเจ้ามีแต่เด็กผู้ชาย” ท่านโมฮัมถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มใจ ที่กล่อมอย่างไรบุตรสาวก็ยังไม่เห็นดีเห็นงามด้วยเสียที
“ลูกก็บอกท่านพ่อไปแล้วว่าเราเลือกเพศเกิดของเด็กไม่ได้ แล้วเหตุใดชาวบ้านถึงได้มากล่าวโทษแต่ข้าเล่า หากแม่เฒ่ายังอยู่ ข้าอยากถามแม่เฒ่าเหลือเกินว่ากำหนดให้ข้าเกิดมาทำไม หากเกิดมาแล้วจะทำให้ทุกคนในหมู่บ้านต้องเดือดร้อน” มูนาเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รอนีย์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลขยับเข้ามาลูบหลังอย่างปลอบโยน ไม่ต่างจากคนเป็นพ่อที่ก็สงสารบุตรสาวไม่น้อย
“คุณหนูอย่าร้องไห้เลยนะเจ้าคะ” พี่เลี้ยงสาวเอ่ยปลอบเสียงนุ่ม รั้งตัวเด็กสาวแนบอก
“ข้าอยากตายไปเสียให้พ้นๆ จะได้ไม่ต้องถูกชาวบ้านประณามและคอยจ้องมองข้าด้วยสายตาเกลียดชัง ราวกับว่าข้าคือตัวน่ารังเกียจประจำหมู่บ้าน”
“มูนาลูกรักของพ่อ เจ้าอย่าได้พูดแบบนี้อีกนะลูกรัก ถึงแม้ใครๆ จะว่าเจ้าอย่างไร เจ้าก็เป็นลูกสาวที่น่ารักของพ่อเสมอ แล้วยังมีรอนีย์ การิด แล้วยังมีราชิดเพื่อนสนิทของเจ้าอีกที่รักเจ้ามากและพร้อมอยู่เคียงข้างเจ้า เจ้าอย่าน้อยใจไปกับพูดของชาวบ้านอีกเลยมูนา”
“ลูกเสียใจท่านพ่อ ที่ลูกพูดไม่คิด แต่ต่อไปลูกจะไม่พูดคำนี้ให้ท่านได้ยินอีกแล้ว เพราะข้าเป็นลูกสาวของท่านโมฮัมผู้เข้มแข็งแห่งหมู่บ้านคาเบียนเซีย ฉะนั้นข้าจึงต้องเข้มแข็งเหมือนท่าน ถึงแม้ร่างกายของข้าจะเป็นหญิงก็ตาม” มูนาผละจากอกของพี่เลี้ยงสาวหันมาเอ่ยกับบิดาทั้งน้ำตา
“พ่อดีใจที่เจ้าคิดได้เช่นนี้ เอาละ เจ้าไปพักผ่อนเถอะลูกรัก”
“ท่านก็เช่นกันท่านพ่อ ท่านก็ควรพักผ่อนเช่นเดียวกับลูก”
“เจ้านี่น้า ช่างยอกย้อนคำข้านัก แล้วเจ้าจะให้ข้าหลับตาลงได้อย่างไร ในเมื่อหมู่บ้านของเราไม่มีสาวบริสุทธิ์ส่งเข้าวัง” ท่านโมฮัมมิวายจะวกวนเข้าเรื่องเดิม มูนาถึงกับถอนใจเฮือก แต่ก็รู้ดีว่าตนไม่มีทางบ่ายเบี่ยงเรื่องนี้ได้อีกแล้ว
“ท่านพ่อเข้าไปพักผ่อนให้สบายใจเถิด แล้วก็เลิกกังวลเรื่องนั้นได้แล้วเจ้าค่ะ เพราะลูกยินดีเข้าวังด้วยความเต็มใจของลูก”
“มูนาลูกรัก นี่เจ้า...เจ้ายอมทำตามความต้องการของพ่อแล้วหรือ” คนเป็นพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื้นตัน แม้จะมีความรู้สึกใจหายแทรกขึ้นมา นั่นเพราะหากบุตรสาวยอมถูกส่งตัวเข้าวัง ก็หมายความว่ามูนาต้องไปจากหมู่บ้าน ไปจากอกของท่าน
“ใช่ค่ะท่านพ่อ ลูกทนเห็นท่านต้องหนักใจเพราะเรื่องนี้ไม่ได้อีกแล้ว ท่านพ่อเข้าไปพักผ่อนนะเจ้าคะ” ริมฝีปากนุ่มสวยแย้มยิ้มทั้งที่ยังมีหยาดน้ำใสๆ ฉ่ำอยู่ในดวงตา
“ขอบใจเจ้ามากมูนาลูกรักของพ่อ แต่อันที่จริงพ่อไม่ได้อยากให้เจ้าไปเลย พ่อเป็นห่วงเจ้า” สิ้นคำน้ำเสียงเอื้ออาทร ฝ่ามือเหี่ยวย่นของผู้เป็นพ่อก็ยกขึ้นลูกศีรษะของบุตรสาวอย่างรักใคร่
“ท่านพ่ออย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ ลูกดูแลตัวเองได้ ส่วนท่าน...ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ แล้วลูกจะให้พี่รอนีย์อยู่ดูแลท่านพ่อ”
“ไม่ได้หรอกคุณหนู พี่อยากเดินทางไปส่งคุณหนูด้วยตัวเอง” รอนีย์พูดแทรกขึ้น สีหน้าเศร้าสร้อย ด้วยอดใจหายไม่ได้ เมื่อเด็กสาวที่เลี้ยงมากับมือจนเติบใหญ่จะจากไป แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีวันใดจะได้กลับมาพบกันอีก ดูอย่างคุณหนูมีนาพี่สาวของคุณหนูมูนานั่นประไร นับตั้งแต่ถูกส่งตัวเข้าไปในวังเกือบจะหกปีอยู่แล้วยังไม่เคยพบกันเลย
“อย่าเลยพี่รอนีย์ ข้าไม่อยากให้ท่านต้องลำบากในการเดินทาง พี่ก็รู้มิใช่หรือว่ากว่าเราจะเดินทางไปถึงวังต้องเดินทางร่วมเดือน แล้วไหนท่านจะต้องเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านของเราอีก ข้าเป็นห่วงท่านพ่อ ข้าไม่อยากทิ้งให้ท่านพ่ออยู่ตามลำพัง พี่รอนีย์อยู่ดูแลท่านพ่อแทนข้าเถอะ” มูนาออดอ้อนเสียงหวาน ยื่นมือไปกุมมือพี่เลี้ยงสาว พร้อมส่งสายตาเว้าวอนขอร้อง