บทนำ
ณ.หมู่บ้านคาเบียนเซีย
“ท่านจงจำคำของข้าไว้ท่านโมฮัม เพราะอีกไม่ช้าหมู่บ้านของเราจะเกิดอาเพศร้าย สาเหตุเพราะลูกสาวที่เพิ่งเกิดของท่าน” สิ้นคำของแม่เฒ่าผู้หยั่งรู้อนาคตประจำหมู่บ้านคาเบียนเซีย หมู่บ้านทะเลทรายอันไกลโพ้นของประเทศอัสคาซาน เสียงแรงลมก็พากันโหมกระพือ เม็ดทรายนับพันเม็ดลอยฟุ้งกลางลานหมู่บ้าน ที่มีผู้คนนับร้อยชีวิตนั่งล้อมเป็นวงกว้างเพื่อเข้าร่วมประชุมหารือกัน ก่อนที่ตัวแทนพ่อค้าประจำหมู่บ้านจะออกไปค้าขายสินค้าที่ได้จากหนังสัตว์ นมแพะและพืชผักชนิดต่างๆ กับหมู่บ้านอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป แต่ทว่าการประชุมในวันนี้กลับมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าการออกไปค้าขายกับหมู่บ้านอื่น นั่นคือคำประกาศกร้าวของแม่เฒ่าวัยเฉียดร้อย
“ท่านแน่ใจหรือแม่เฒ่าว่าลูกสาวที่เพิ่งเกิดของข้า จะนำพาอาเพศร้ายมาสู่หมู่บ้านของเรา” โมฮัม หัวหน้าหมู่บ้านคนปัจจุบันเอ่ยถามเสียงเครียด หลังสั่งให้ลูกบ้านหยุดถกเถียงกันลงได้
“ท่านไม่เชื่อคำทำนายของข้าแล้วหรือ ท่านโมฮัม” แม่เฒ่าคำรามลึก ดวงตาฉายแววตาน่าสะพรึงประหนึ่งว่าโกรธเคืองคำถามของหัวหน้าหมู่บ้าน
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกแม่เฒ่า เพียงแต่ข้าเกิดความสงสัยว่าทำไม มูนา ลูกสาววัยแรกเกิดของข้า ที่มีหน้าตาน่าเอ็นดูเช่นนั้นจะนำพาภัยร้ายมาสู่หมู่บ้านของเราได้”
“มันคือชะตาของนางยังไงล่ะท่านโมฮัม เพราะเมื่อนางเกิดมาแล้วมีดวงต้องพลัดพรากจากถิ่นเกิด แล้วท่านก็ต้องส่งนางออกไปให้พ้นหมู่บ้านคาเบียนเซีย ไปให้ไกลหมู่บ้านของเราเท่าไรจะยิ่งเป็นผลดีต่อหมู่บ้านคาเบียนเซีย หาไม่แล้วหมู่บ้านคาเบียนเซียจะกลายเป็นหมู่บ้านร้าง จะไม่มีผู้ใดกล้ามาย่างกรายเข้าเหยียบย่ำผืนดินแห่งนี้อีก” ขาดคำร่างของแม่เฒ่าก็แน่นิ่งไป สร้างความตกตะลึงให้กับชาวบ้าน ต่างพากันส่งเสียงเรียกแม่เฒ่าดังระงม แต่ทว่าแม่เฒ่าแห่งหมู่บ้านคาเบียนเซียได้สิ้นใจไปแล้วอย่างสงบ เหล่าลูกบ้านนับร้อยชีวิตพากันหมอบกราบท่านแม่เฒ่าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพากันถกเถียงถึงเรื่องคำทำนายที่ท่านแม่เฒ่าได้กล่าวเอาไว้
“ท่านโมฮัม ท่านจะทำเช่นไรกับลูกสาวของท่าน” ซากีรอฟฟ์ ลูกบ้านที่มีนิสัยมุทะลุเอ่ยด้วยสีหน้าวิตกกังวล เหตุเพราะหวาดกลัวคำทำนายของ แม่เฒ่า
“ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าท่านคิดทำเช่นไร ท่านโมฮัม” อับบาส ลูกบ้านอีกคนส่งเสียงถามซ้ำ เมื่อผู้เป็นบิดาของทารกน้อยที่เกิดมาพร้อมอาเพศร้ายเอาแต่อ้ำอึ้ง
“ลูกข้ายังเล็กนัก ข้าทำใจขับไล่ลูกน้อยของข้าออกจากหมู่บ้านไม่ได้หรอก พวกท่านโปรดเห็นใจข้าสักนิดเถิด” โมฮัมประกาศต่อหน้าลูกบ้านนับร้อยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ที่บางคนก็สงสารทารกน้อยที่เพิ่งเกิด ซ้ำยังต้องมาสูญเสียมารดาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับในวันที่ทารกน้อยลืมตา แต่บางคนก็เร่งให้ขับไล่ทารกน้อยออกไปจากหมู่บ้านให้เร็วที่สุด เพราะหวาดหวั่นกับอาเพศร้ายที่จะเกิดขึ้นตามคำทำนายของแม่เฒ่า แล้วสิ่งที่ทำให้เหล่าลูกบ้านบางคนปักใจเชื่อก็เพราะภรรยาของโมฮัมสิ้นใจหลังให้กำเนิดทารกน้อยเพียงไม่กี่นาที
“แต่ข้าว่าในตอนนี้หมู่บ้านของเราก็หาได้เกิดอาเพศร้ายอะไร แล้วเหตุใดวกท่านถึงได้ใจร้ายใจดำต่อเด็กตาดำๆ กันนัก คิดแต่จะขับไล่เด็กออกไป แล้วพวกท่านไม่คิดบ้างหรือว่าเด็กตัวเล็กๆ เช่นนั้นจะช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไรกัน ข้าว่าพวกท่านอย่าเพิ่งตื่นตระหนกเกินเหตุเลย” การิด ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามพูดขึ้น ทำให้เหล่าลูกบ้านที่มีอายุอานามเกินห้าสิบปีไปแล้วพากันหันมามองด้วยความไม่พอใจ โดยเฉพาะซากีรอฟฟ์และอับบาสที่ตอนนี้กำลังเป็นตัวตั้งตัวตีทำให้เหล่าชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องเด็กทารกน้อยไม่หยุดปาก
“การิด! นี่เจ้าไม่ห่วงหมู่บ้านของเราหรือไร เจ้าถึงได้พูดเช่นนี้” ซากีรอฟฟ์ตวาดใส่
“ทำไมข้าจะไม่ห่วง แต่ที่ข้าต้องเอ่ยออกไปเช่นนี้ ก็เพราะข้าต้องการให้พวกท่านทุกคนเห็นใจท่านโมฮัมบ้าง ในเมื่อท่านโมฮัมเพิ่งจะสูญเสียท่านคาดียะฮ์ไป แล้วพวกท่านยังจะให้ท่านโมฮัมต้องพลัดพรากจากลูกอีกหรือ” การิดชักสีหน้าไม่พอใจส่งให้ซากีรอฟฟ์ เพราะรู้ดีว่าภายในของซากีรอฟฟ์คิดอะไรอยู่
“ฮึ! ข้าไม่คิดสนใจเรื่องใด นอกเสียจากลูกสาวคนเล็กของท่านโมฮัมต้องไปให้พ้นหมู่บ้านคาเบียนเซียให้เร็วที่สุด ตามคำทำนายของแม่เฒ่า ใช่หรือไม่พวกเรา” ซากีรอฟฟ์หันไปขอความเห็นจากชาวบ้าน ที่มีทั้งเห็นด้วยและส่งเสียงขับไล่ไสส่งทารกน้อยที่เพิ่งจะถือกำเนิดได้เพียงสัปดาห์เศษ แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอมให้ท่านโมฮัมพาทารกน้อยออกไปจากหมู่บ้าน เนื่องจากเด็กยังเล็กนัก
“ตกลงท่านจะทำเช่นไร ท่านโมฮัม” หลังปล่อยให้ชาวบ้านนับร้อยชีวิตถกเถียงกัน จนเสียงโต้เถียงค่อยๆ เงียบหายไปเอง ซากีรอฟฟ์ก็หันไปถามหัวหน้าหมู่บ้านเสียงกร้าว
“ข้าทอดทิ้งลูกน้อยของข้าไม่ได้หรอกซากีรอฟฟ์ เจ้าเห็นใจข้าบ้างเถิด อีกอย่างมูนา ลูกสาวของข้าก็ยังเล็กนัก”
“แล้วท่านจะให้คนในหมู่บ้านล้มตายกันจนหมดหมู่บ้านก่อนหรือ ท่านจึงจะนำตัวลูกสาวของท่านออกไปจากหมู่บ้าน ท่านก็ได้ยินเหมือนเช่นที่ชาวบ้านได้ยินมิใช่หรือ ว่าหากท่านไม่ส่งลูกสาวของท่านออกไปให้พ้นหมู่บ้าน หมู่บ้านคาเบียนเซียจะกลายเป็นหมู่บ้านร้าง ไร้ผู้คนย่างกรายเข้ามาเหยียบย่ำ” พูดจบซากีรอฟฟ์ก็หันไปขอแรงสนับสนุนจากลูกบ้านคนอื่นๆ ที่เริ่มพาส่งเสียงเซ็งแซ่กันอีกครั้ง
“ใช่ๆ ท่านต้องพาลูกสาวของท่านออกไปให้เร็วที่สุด” อับบาสเอ่ยสนับสนุนซากีรอฟฟ์ แล้วเหยียดปากยิ้มสุขุม
“หากเกิดอะไรขึ้น ข้าขอเป็นผู้รับผิดชอบด้วยชีวิตของข้า และข้ายินดีไปจากหมู่บ้านของเราทันทีหากหมู่บ้านของเราเกิดอาเพศร้ายตามคำทำนายของแม่เฒ่า” โมฮัมให้คำมั่นกับเหล่าลูกบ้าน ก่อนจะออกคำสั่งให้เหล่าลูกบ้านแยกย้ายกัน เพื่อช่วยจัดพิธีศพของแม่เฒ่าตามประเพณี