สาธารณรัฐซานมารีโน่
ประเทศขนาดเล็กที่อยู่บนเทือกเขาแอเพนไนน์ ถูกล้อมรอบโดยประเทศอิตาลี่
(ปึงปึงปึง)
เสียงคนทุบประตูดังรัวๆมาจากด้านนอกของบ้านชั้นเดียวสไตล์ทัสคานี ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาของสาธารณรัฐซานมารีโน่ ในช่วงเวลาสามทุ่มกว่าๆ
(ปึงปึงปึง)
“ใครอ่ะ”
น้ำเสียงหวานแต่ฟังดูแข็งกระด้างเอ่ยถามมาจากด้านในของบ้าน
“เปิดประตู!”
คำสั่งจากชายน้ำเสียงทุ้มดุดันฟังดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ถามว่าเป็นใคร แล้วมาหาใคร ถามดีๆก็ตอบดีๆสิวะ”
น้ำเสียงและคำพูดของหญิงสาวที่อยู่ภายในบ้านส่งผลให้คนด้านนอกเกิดอารมณ์โมโหพอสมควร
“มึงจะเปิดหรือไม่เปิด ถ้าไม่เปิดกูพังประตูเข้าไปยิงแสกหน้ามึงแน่!”
เสียงชายอีกคนขึ้นเสียงข่มขู่คนในบ้าน
“มึงก็ตอบกูสิวะ มึงมาหาใคร นี่มันดึกแล้ว กูไม่เปิดบ้านให้คนแปลกหน้าโว้ย กูจะโทรแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกในยามวิกาล”
“อ้าวอีนี่ชักจะปากดี สงสัยอยากกินลูกปืน พังประตูเลยไอ้เดล”
ชายวัยกลางคนบอกเพื่อนสนิทที่มาด้วยกัน
“เดี๋ยว!”
“อะไรวะ”
“บอกมาก่อน พวกนายเป็นใคร แล้วมาหาใคร มาทุบประตูผิดบ้านหรือเปล่า บอกมาก่อนแล้วฉันจะเปิดประตูให้”
“อีนี่ลีลาจริงๆ มาหาไอ้ราอูลกับนังเคียร่าโว้ย!”
“เขาทั้งสองคนไม่อยู่ เขาไปโรมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหน พวกนายสองคนกลับไปเถอะ”
“แล้วแกเป็นใครวะ อย่ามาตอแหลเล่นลิ้น เปิดประตู!”
“อ้าว พูดความจริงก็ไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันเป็นลูกสะใภ้ของคนที่พวกแกมาตามหาโว้ย บอกว่าพวกเขาไม่อยู่ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!”
(ปั้งปั้ง)
“กรี๊ดดดด!”
เสียงปืนยิงเข้าที่ประตูดังสองนัด ส่งผลให้เมษา หญิงสาววัย 27 ปี กรีดร้องด้วยความตกใจ
“จะเปิดประตูคุยกับพวกกูดีๆหรือว่าจะให้พวกกูยิงจนประตูพรุน ถ้าต้องให้กูพังเข้าไป กูอาจจะพลั้งมือยิงมึงจนสมองพรุนก็ได้นะโว้ย”
“ปะ...เปิดก็ได้”
คำขู่จากชายผู้มาบุกรุกได้ผลจริง หญิงสาวจำใจยอมเปิดประตูออกมาอย่างช้าๆ
(แอ๊ดดดดด)
“มะ...มาหาพ่อราอูลกับแม่เคียร่าทะ...ทำไม”
หญิงสาวหน้าสวย ร่างอิ่มเอิบ ส่วนสูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมชุดกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เสื้อช็อปพนักงานสีเทา ผมลอนยาวถูกมัดรวบหางม้า ค่อยๆเปิดประตูออกมาแล้วเอ่ยถามชายแปลกหน้าทั้งสอง
“แกบอกมาดีๆ ไอ้ราอูลกับนังเคียร่ามันอยู่ที่ไหน ไม่งั้นฉันยิงสมองแกแน่”
ชายที่ยืนตรงหน้าถามกลับด้วยอารมณ์หงุดหงิดและเล็งปลายกระบอกปืนมาที่เมษา
“เฮ้อ ชักจะอารมณ์เสียแล้วนะ ก็บอกว่าไปอิตาลีไง ไปตามเอาดิ ที่กรุงโรมอ่ะ บอกความจริงยังไม่เชื่ออีก แล้วนายสองคนมาตามหาพวกเขาทำไม”
“อ้าวอีนี่ปากดีว่ะ เอายังไงดีวะไอ้เดล”
ดีน ชายร่างสูงนัยน์ตาสีฟ้าผิวขาวผมทอง อายุประมาณสามสิบกลางๆเอ่ยถาม เดลล่า ชายร่างสูงผิวสีแทน เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน วัยไล่เลี่ยกัน
“พวกมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาวันไหน”
เดลล่า ถามเมษา
“ไปตั้งแต่เมื่อวาน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับวันไหน พวกเขาไม่ได้บอก”
“แล้วเธอเป็นอะไรกับสองคนนั้น”
“ก็บอกว่าเป็นลูกสะใภ้ไง”
เมษาตอบ และทำท่าทางเบื่อหน่ายรำคาญคนทั้งสอง
“แสดงว่าผัวของเธอเป็นลูกชายของสองคนนั้นสินะ”
“อืม”
“แล้วตอนนี้ผัวของเธออยู่ที่ไหน”
“อยู่ในหลุมฝังศพที่โรมโน่นแหละ ทำไม อยากไปอยู่กับผัวฉันหรือไง ถึงได้ถาม”
“อย่ามาต่อปากต่อคำ ถามก็แค่ตอบสั้นๆสิวะ”
“....”
เมษาได้แต่กรอกตาไปมาแล้วยืนกอดอกถอนหายใจ
“ผัวเธอไปทำอะไรที่หลุมฝังศพ”
“อ้าว ถามแบบปัญญาอ่อนอีกละ คนเป็นๆเขาจะไปทำไมที่หลุมฝังศพ ก็ตายแล้วสิวะ ถึงได้อยู่ในหลุมฝังศพ เฮ่อ...โง!”
ชายทั้งสองหันไปมองหน้ากันตาปริบๆ
(ครืดครืดครืด)
“นี่ พวกนายอย่าพูดเสียงดังนะ ฉันจะคุยโทรศัพท์”
“....”
“ฮัลโหล”
“คุณแม่ครับ คุณแม่ทำอะไรอยู่ครับ อันเดรียคิดถึงคุณแม่จังเลยครับ”
เสียงเด็กน้อยวัยสามขวบครึ่งกำลังวีดีโอคอลคุยกับคนเป็นแม่
“แม่ก็คิดถึงอันเดรียนะลูก คุณปู่คุณย่าจะพากลับบ้านเราวันไหนลูก”
“ผมถามคุณย่าแล้ว คุณย่าบอกว่ายังไม่รู้เลยครับ คุณปู่คุณย่าบอกว่ายังไม่มีกำหนด วันนี้ผมไปหาคุณพ่อที่เห็นฝังศพครับ คุณแม่ไม่อยากมาหาคุณพ่อหรอครับ”
“อยากไปสิลูก คงต้องรอก่อน แม่ยังต้องทำงานน่ะลูก”
“แม่งเอ๊ย! จะคุยกันอีกนานไหมวะ มึงถามพ่อผัวแม่ผัวมึงสิ จะกลับมาใช้หนี้กูตอนไหนวะ!”
เมษารีบกดวางสายทันทีเมื่อเธอเห็นท่าทางของนายดีนกำลังโมโห
“มีมารยาทหน่อยสิ ฉันกำลังคุยกับลูกชายนะโว้ย”
“แล้วทำไมไม่ถามพวกมันว่าจะกลับวันไหนวะ กูมาทวงหนี้โว้ย!”
“หนี้อะไรของแก”
เมษาถามกลับพร้อมกับจ้องหน้านายดีนด้วยอารมณ์โมโหไม่ต่างกัน
“ก็หนี้ที่พวกมันสองคนไปกู้มาลงทุนทำการเกษตรไงล่ะ”
นายเดลล่าบอกหญิงสาวตรงหน้า
“เท่าไหร่”
“แปดหมื่นยูโร”
“แปดหมื่นยูโร!”
เมษาถามเดลล่าพร้อมกับทำหน้าตกใจ
“ก็เออสิวะ”
(ครืดครืดครืด)
“ครับนาย”
“ไอ้ดีน พวกมึงทำเชี่ยอะไรอยู่วะ กูให้ไปทวงหนี้ ป่านนี้ยังไม่โผล่หัวมาอีก”
เสียงทุ้มจากปลายสายตะคอกใส่ลูกน้องคนสนิท
“ไอ้ราอูลกับนังเคียร่าไม่อยู่ที่นี่แล้วครับนาย พวกมันหนีไปโรม คงตั้งใจจะหนีหนี้ครับ”
“แล้วมึงรู้ได้ไง ว่าพวกมันไปโรม”
“ผมมาตามหาพวกมันที่บ้าน เจอลูกสะใภ้ของมันอยู่ในบ้านคนเดียว ลูกสะใภ้ของมันบอกครับ”
“มึงก็ทวงกับลูกชายลูกสะใภ้ของมันสิวะ ไอ้พวกโง่!”
“ผัวมันตายแล้วครับ มันอยู่บ้านคนเดียว พ่อผัวแม่ผัวพาลูกของมันไปด้วยครับ”
“งั้นมึงก็ทวงกับมันสิ ทำไมต้องให้กูสอนทุกอย่างด้วย”
“ครับนาย”
(ตื๊ดตื๊ดตื๊ด)
“แกไปหาเงินมาใช้หนี้แทนพ่อผัวแม่ผัวของแกเลยนะ เดี๋ยวนี้!”
ดีนพูดเสียงดังจนทำให้เมษาสะดุ้ง
“ฉันจะไปหาเงินจากไหนมาให้พวกนาย ทำงานเงินเดือนก็น้อยนิด ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่สองร้อยยูโร ไม่เชื่อก็เปิดกระเป๋าดู ให้ค้นทั้งบ้านเลย เอาดิ”
ชายทั้งสองมองหน้ากันสื่อความหมายว่าจะเอายังไงต่อไป
“โทรกลับไปบอกนาย”
เดลล่าบอกเพื่อน และดีนก็ทำตามทันที
“นายครับ นังนี่มันไม่มีเงินครับนาย จะเอายังไงดี”
“โถ่เว้ย! พวกมึงจะเอายังไงก็เอา กูต้องการเงินโว้ย”
“มันไม่มีเงินให้ไงครับนาย แต่มันสวยมากนะครับ สวยนมใหญ่ ตูดใหญ่ ผิวขาว หน้าตาสวยแบบสาวเอเชียครับนาย มันไม่ใช่คนยุโรป”
“งั้นก็รีบจับตัวมันมาให้กู กูจะเอามันไปขายให้ไอ้พวกเศรษฐีวีไอพีในคาสิโน”
“ครับนาย”
เมษาตาเบิกกว้าง เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาสนทนากันผ่านโทรศัพท์มือถือ
“จับตัวมันไปให้นาย”
“ไม่ กูไม่ไปโว้ย ปล่อย!”
เมษาพยายามดีดดิ้น เมื่อข้อมือข้างซ้ายของเธอถูกนายเดลล่ากระชากดึงเพื่อเดินไปขึ้นรถหรูคันสีดำโดยที่มีนายดีนเดินตามหลัง
“บอกให้ปล่อยไงวะ!”
(กึดดด)
“โอ๊ยยย!”
(ตุ๊บ!)
“อ๊ากกกก!”
เมษากัดที่หลังมือของนายเดลล่าก่อนจะเตะผ่าหมากตรงกลางหว่างขาหนึ่งครั้งจนนายเดลล่าทรุดลงไปนอนดีดดิ้นที่พื้นด้วยความเจ็บและจุก นายดีนรีบง้างมือจะตบเมษาแต่เธอก้มลงไปรวบฝุ่นดินขึ้นมาเต็มกำมือแล้วเหวี่ยงใส่หน้าของนายดีนจนร้องตะโกนโวยวายเสียงดัง
(พึ่บบบ)
“โอ๊ยยย! อีเลว กูเจ็บตา มองไม่เห็นโว้ย!”
เมื่อเห็นว่านายเดลล่ากำลังพยายามจะลุกขึ้นมากระชากข้อมือเธออีกครั้ง เท้าเล็กที่สวมด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวถีบเข้าที่ใบหน้าของนายเดลล่าจนหงายหลังล้มกลิ้ง จากนั้นเมษาจึงรีบวิ่งหนีไปตามทางลงเนินเขาด้วยความกลัวและอารมณ์โมโห
“แม่งเอ๊ย! อย่าให้กูจับตัวมึงได้นะ กูจะตบให้เสียโฉมเลย ไอ้เดล มึงยืนกุม...อยู่ทำไมวะ เอาน้ำในบ้านมันมาล้างหน้าให้กูสิ จะได้รีบตามไปจับมัน”
“เออๆ”
(บึ๊นนนนน)
“อ๊ายยยย!”
(เอี๊ยดดดด)
เสียงรถบิ๊กไบค์ขับเข้าโค้งหักศอกและเบรคกระทันหันเมื่อเห็นร่างของหญิงสาวที่วิ่งลงมาจากเนินเขากำลังล้มลุกคลุกคลาน และรถบิ๊กไบค์คันสีแดงเบรคจอดประชิดร่างของหญิงสาวคนด่างกล่าว เรียกได้ว่าเกือบจะชนร่างสาวเสียแล้ว
“มานอนทำอะไรตรงนี้ บ้านไม่มีให้นอนหรือไง นี่ถ้าฉันเบรคไม่ทันเธอคงได้ลงไปนอนในหลุมฝังศพแล้วมั้ง”
น้ำเสียงทุ้มต่อว่าหญิงสาวที่กำลังตะเกียกตะกายพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน
“คุณ...ชะ...ช่วยฉันด้วย มีคนกำลังจะทำร้ายฉัน ฉันหนีพวกมันมา ช่วยฉันด้วยนะ พาฉันไปจากตรงนี้ตอนนี้เลยได้ไหม ฉันขอร้อง”
(พรึ่บ)
“อ้าวเฮ้ย ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าฉันช่วยเธอ ขึ้นมาได้ไงวะ”
ใบหน้าหล่อเหลานัยน์ตาสีเทา หันกลับมามองหญิงสาวที่เพิ่งกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์
“เสียงรถของมันมาแล้ว ไปเร็วคุณ ได้โปรดพาฉันไปจากตรงนี้”
-------------------------------------
ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ เรื่องนี้สนุกลึกลับซับซ้อนน่าค้นหา NCแซ่บกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาแน่นอนค่ะ