บทที่ 1 แรกพบ

2213 Words
บทที่ 1 แรกพบ ฉันเดินขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นบนสุดตามที่เจ๊พัดบอก เธอเป็นสาวประเภทสองที่ดูจริงใจ ไม่เหมือนกับสิบแปดมงกุฎอย่างที่ฉันกลัวก่อนหน้านี้ แถมยังแต่งตัวหรูหราอีก ฉันเชื่อว่าเธอคงไม่ใช่แม่เล้าธรรมดาแน่นอน อาจจะหาผู้หญิงสวย ๆ คอยบำเรอคนรวย ๆ ซึ่งฉันก็เพิ่งเข้าสังกัดของเจ๊ไปเมื่อครู่ แต่ตอนนี้... ฉันกำลังเดินเข้ามาในห้องตามหมายเลขในคีย์การ์ด คอนโดหรูหรานี้ฉันแทบไม่กล้าเอามือไปหยิบจับอะไร ทำได้เพียงเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวกลางห้องนั่งเล่นแค่นั้น ซึ่งภายในคอนโดสะอาดสะอ้านราวกับว่าไม่เคยมีใครมาใช้งาน ถ้าเดาไม่ผิดก็คงมีเอาไว้ทำเรื่องอย่างว่าแค่นั้น ฉันรู้สึกประหม่านิดหน่อย กลัวว่าลูกค้าจะไม่ถูกใจ เพราะเขาเห็นแค่รูปที่ฉันโพสต์ลงไป แต่ไม่ได้เห็นกับตา ใจดวงน้อยภายในอกของฉันเต้นตึกตักเลย ฉันเพิ่งเริ่มเดินสายอาชีพนี้เป็นครั้งแรก มีใครหลายคนห้ามฉัน แต่ฉันมันก็แค่หมาจนตรอกคนหนึ่ง หมาตัวนี้มันกำลังเลือกเดินเส้นทางนี้เพราะมันไม่มีทางเลือก...แค่นั้นแหละ ฉันไม่ได้สิ้นคิดหรอก ฉันคิดมาดีมากแล้วต่างหาก “เฮ้อ...ช่างมันเถอะ” ฉันพ่นลมหายใจออกมา ขอแค่ลูกค้าไม่รุนแรงก็พอ ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่บนโซฟาตัวยาวภายในห้องรับแขก อย่าไปคาดหวังกับชีวิตของตัวเองมากเป็นสิ่งที่ฉันท่องอยู่ประจำ ผ่านวันนี้ไปได้ พรุ่งนี้ก็จะดีขึ้น ฉันคิดแค่นี้ เพราะตอนนี้ฉันน่ะ...รู้สึกแย่มาก ทว่าขณะนั้นเอง ติ๊ด! เสียงเตือนเหมือนกับตอนที่ฉันแตะคีย์การ์ดดังขึ้น ก่อนที่บานประตูที่ฉันกำลังจ้องมองอยู่นั้นจะเปิดออก ฉันตกใจและไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวอะไร ขณะที่บุคคลภายนอกกำลังก้าวขาเข้ามาภายในคอนโด ร่างสูงที่เดินเข้ามาทำให้ฉันชะงักไป นัยน์ตาคมเข้มสีน้ำตาลตวัดสายตามองฉัน เขาขมวดคิ้วราวกับคิดอะไรบางอย่าง ขณะที่ฉันก็ได้ลุกขึ้นยืนในทันที “เอ่อ...” “_” “คือ...” ฉันไม่กล้าสบตากับเขาเลยให้ตายสิ หน้าตาที่หล่อเหมือนกับออกมาจากทีวี เขากำลังจ้องมองฉันพร้อมกับไล่สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา เขาทำให้บรรยากาศของเราสองคนมันอึมครึม จนสุดท้ายฉันก็ใช้เวลาที่เงียบสงบนี้ เงยหน้าขึ้นพินิจใบหน้าของเขา เจ๊พัดพูดว่าเสี่ย... ฉันไม่คิดว่าจะหนุ่มและหล่อมากขนาดนี้ เขาหน้าตารุ่นราวคราวเดียวกับฉันแน่นอน แต่ที่ทำให้เขาดูมีอายุคงเป็นส่วนสูงของเขา อีกทั้งรูปร่างกำยำของเขาที่ฉันเห็นอีกด้วย เขาตัวโตกว่าฉันมากทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับเป็นคนตัวเล็กตัวน้อย จมูกของเขาโด่งเป็นสันจนทำให้ปลายจมูกของเขาเชิดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากหนาของเขาสีชมพูระเรื่อ ขณะเดียวกันก็ออกคล้ำจากทางด้านใน เขาทำผมแสกกลาง เสยขึ้นจนเปิดเห็นโครงหน้าทั้งหมด ผู้ชายคนนี้ผิวขาวกว่าฉันเสียอีก ทว่า “จะมองอีกนานไหม” “อ๊ะ!” ฉันสะดุ้งเฮือกให้กับเสียงทุ้มลึกของเขา น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเขาทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัว “ชื่ออะไร” “_” “ฉันถาม” “_” “พูดไม่ได้?” ฉันกลืนน้ำลายลงคอ อยู่ ๆ ลำคอก็แห้งผาก ความมั่นใจที่พกติดตัวมาในตอนแรกตอนนี้กลายเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้ ฉันไม่สามารถมองเขาได้เต็มสองตาเลย ฉันแพ้ทางให้กับคนหน้าตาดีอย่างนั้นเหรอ “เอ่อ...” “หึ...” เขาแค่นหัวเราะออกมาโดยที่ฉันไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่ฉันจะเห็นว่าเขากำลังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนขายาว โทรศัพท์ที่เขาล้วงออกมาทำให้ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขากำลังโทรหาใครบางคน ซึ่งฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร ตัวฉันสั่นระริกแม้ว่าเขายังไม่ได้ทำอะไร อนุภาคบางอย่างมันแผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา ร่างหนาในชุดเสื้อยืดคอกลมสีดำสนิท กางเกงยีนขายาวพร้อมกับรองเท้าผ้าใบราคาแพง ฉันไม่รู้เรื่องแฟชั่นอะไรหรอก รู้แค่ว่าสวยหรือไม่สวยแค่นั้น แต่ทุกอย่างบนตัวของเขาคนนี้...มันเลยคำว่าเพอร์เฟกต์ไปมากโขเลยล่ะ “ไม่ ไม่ถูกใจ” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังพูดกับคนในโทรศัพท์ แต่คำพูดเมื่อครู่... “ถามก็ไม่ตอบ เป็นใบ้หรือเปล่าก็ไม่รู้” เขากำลังหมายถึงฉัน “ไม่ครับ ผิดหวังครั้งแรกมักมีครั้งที่สอง” “ไม่ต้องหาใหม่ เสียเวลา” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคำว่าเสียเวลาของเขากำลังตวัดมองฉัน ความรู้สึกร้อน ๆ เกิดขึ้นบนตัวของฉัน เดาว่าเขากำลังโทรต่อว่าเจ๊พัด และสีหน้าของเขาก็ไม่สบอารมณ์สุด ๆ “ครับ ไม่ ผมกลับเลย” ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เขาคงคาดหวังว่าผู้หญิงขายบริการอย่างฉันจะต้องดูแลและบำเรอเขาได้ แต่ความจริงกลับเจอผู้หญิงหน้าบ้าน ๆ ยืนตัวแข็งทื่อภายในห้องอย่างนี้ ถ้าเขาจะหงุดหงิดก็ไม่แปลก ผู้ชายตัวโตตรงหน้าฉัน เขาวางสายโทรศัพท์ก่อนจะหมุนตัวหันหลังและเดินออกไปทางประตูทันที ขณะที่ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ความใจกล้าของฉันก็น้อยนิดอยู่แล้ว แต่ฉันไม่อยากตกงาน “คุณคะ!!” “_” “ฉัน...อาย เขินอาย” เขาชะงักฝ่าเท้าตอนที่ฉันแนะนำตัวเอง ก่อนที่เขาจะหันกลับมาหาฉัน ดวงตาคมกริบคู่นี้ฉันไม่กล้าสบตาเลย แต่ฉันก็ต้องทำ “คือ ฉันมาทำงานครั้งแรก เลยไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง” “แล้ว?” “ก็...อึก สอนหน่อยค่ะ สอนฉันเรื่องนี้หน่อย” ฉันทำใจพูดออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา “ฉันต้องทำยังไงคะ ถอดเสื้อเหรอ” “ยัยโง่...” ฉันชะงักเล็กน้อยที่อยู่ ๆ เขาก็พูดออกมา สายตาคมมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ก็กลับบ้านไป” น้ำเสียงไร้เยื่อใยของเขาทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นอะไรกัน เจ๊พัดบอกว่าเขาชื่อน้ำไนล์ น้ำไนล์คนนี้ทำไมใจร้ายมากขนาดนี้ “คือฉัน...” ฉันยังไม่ได้พูดอะไร เขาก็หมุนตัวกลับพร้อมกับเดินออกไป โดยไม่ได้เหลียวหลังหันมามอง ปล่อยให้ฉันยืนอ้าปากค้างอยู่กับที่ “เฮ้อ...” คนแรกก็พังไม่เป็นท่าเลยให้ตายสิ ความรู้สึกกังวลทำให้เหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากของฉัน ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ความรู้สึกเหมือนกับไม่ได้รับความสนใจ ทว่าขณะนั้นเอง ติ๊ด! แอ๊ดด~ “...เจ๊” ฉันยืนตัวแข็งทื่อเมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นเจ๊ที่ดูแลฉัน เธอต้องไม่พอใจมากแน่ ๆ ที่ฉันทำให้ลูกค้าไม่พอใจ “เฮ้อ...ไม่เป็นไรนะจ๊ะ” “คะ?” “วันนี้คุณเขาคงมีเรื่องให้คิดหนัก แต่เจ๊เจอเขาด้านล่างเมื่อกี้ เขาบอกให้เก็บหนูไว้ก่อน” ฉันตาโตเล็กน้อยที่ได้ยินอย่างนี้ เขากำลังหมายถึงอะไร เก็บไว้ก่อนนี่หมายถึงอะไร “หมายความว่ายังไงคะ” “ก็หมายความว่า เขาจะรับเลี้ยงหนูไง” “อะไรนะคะ!!” “อุ้ย! ดูทำหน้าสิ ตาโตเป็นไข่ห่านแล้ว” ใบหน้าของฉันคงเต็มไปด้วยความตกใจแน่ ๆ ไม่รู้สิ ใครจะไม่ตกใจล่ะ อยู่ ๆ เขาก็บอกจะเลี้ยงฉันทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เพิ่งด่าฉันไปหมาด ๆ “ทำไมคะ หนูเห็นเขาคุยโทรศัพท์กับเจ๊ เหมือนเขาจะไม่พอใจหนูเลยค่ะ” “นั่นสิ เหมือนเขาจะไม่พอใจเลยใช่ไหม แต่ตอนเจอเจ๊เมื่อกี้กลับบอกให้เก็บหนูไว้” “เขาหมายถึงเก็บอย่างอื่นหรือเปล่า” “บ้า กงเก็บอะไร ไม่ใช่เก็บแบบนั้น” เจ๊พัดหัวเราะให้กับสิ่งที่ฉันคิด ก็ฉันคิดได้แค่นี้...เขาจะเก็บฉันไว้ทำไม เมื่อกี้ก็ต่อว่าฉัน สรุปแล้วเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ “โอเค แล้วตกลงหนูรับงานนี้ไหม มาอยู่ที่นี่ มาเป็นเด็กของเขา เดี๋ยวเขาจะเลี้ยงดู” “คะ?” เกิดความไม่มั่นใจกับฉัน ฉันไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงรับเลี้ยงฉัน ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แถมเขายังทำเหมือนกับไม่พอใจฉันอีกด้วย “หืม...ว่าไง” “คือหนูไม่มั่นใจว่าทำไมเขา...” “หึ อย่าหาว่าเจ๊นินทาเลยนะ แต่พวกลูกคนรวยก็อย่างงี้แหละ เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง เจ๊หาผู้หญิงให้กับเขามานานแล้ว เพื่อนเขาด้วย รู้หมดแหละว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เรื่องนี้เจ๊ว่าเขาอาจจะยังไม่ต้องการตอนนี้ เลยอยากเก็บหนูไว้ก่อน” เจ๊พัดว่าพร้อมกับขมวดคิ้วคิดไปด้วย ส่วนฉันก็พยักหน้ารับราวกับเข้าใจ แต่ความเป็นจริงฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด “ตกลงว่ายังไง เรื่องค่าตอบแทน เจ๊บอกเลยว่าไม่อั้น” “คะ...” “พูดได้แค่คำนี้เหรอเรา” “เอ่อ คือฉัน ก็...รู้สึกแปลก ๆ น่ะค่ะ” ฉันรู้สึกสับสน โดนด่าแล้วอยู่ดี ๆ เขาก็มารับเลี้ยง ถ้าอยู่ไปนาน ๆ เขาจะด่าฉันอีกไหม แต่การมีคนรับเลี้ยงมันก็ดีนะสำหรับสาวบริการอย่างฉัน อย่างน้อยก็มีลูกค้าแค่รายเดียว ไม่ต้องเสี่ยงเจอลูกค้าคนอื่น “ว่าไง สรุปแล้วเราจะไม่ตกลง?” “ตะ ตกลงค่ะ” ฉันรีบตอบรับอย่างลนลาน เพราะดูเหมือนว่าเจ๊พัดกำลังหงุดหงิด “โอเค ก็แค่นี้แหละ เดี๋ยวเรื่องค่าตัวจะขอคุยกับคุณเขาอีกที ส่วนเธอต้องย้ายมาอยู่ที่นี่...เข้าใจไหม” “คะ?” “_” “เข้าใจค่ะ ฉันเข้าใจ” เหมือนว่าเจ๊พัดกำลังหงุดหงิดฉัน ซึ่งฉันก็รีบตอบรับด้วยความหวาดกลัว เจ๊พัดตัวใหญ่มาก เธอยังมีรูปร่างคล้ายผู้ชาย ทำให้ความน่ากลัวของเธอเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ต้องพูดเสียงดังแต่อย่างใด “โอเค แค่นี้แหละ” เจ๊พัดพูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ด้วยความไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี รอบกายมันอึดอัดไปหมด ฉันรู้สึกสับสนที่จะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ โดยที่เจ้าของห้องมีสีหน้าไม่พอใจแบบนั้น เขารับฉันเลี้ยงโดยที่เขาไม่ยิ้มให้ฉันสักนิด...เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ตอนนี้ฉันว่าฉันควรไปคุยเรื่องงานที่ยังค้างอยู่ ฉันว่า...ถ้าฉันมาเป็นเด็กของเขา ฉันก็ไม่ควรไปทำงานที่อื่นอีก... @SOLAR PUB. -น้ำไนล์- “สรุปก็คือมึงซื้อน้องเขาไว้อยู่ดี” ผมไม่ได้ตอบไอ้สายฟ้าไป มันถามย้ำผมประมาณสามครั้งได้ น้องที่มันหมายถึงคือผู้หญิงขายตัวที่ผมเพิ่งไปเจอมาเมื่อช่วงเย็น หึ ผู้หญิงขายตัว สำส่อนชะมัด “เฮ้อ...” ผมหันไปมองหน้าไอ้สายอีกครั้ง มันถอนหายใจแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องของมัน ดูเหมือนว่ามันจะเครียดกว่าผมเสียอีก “ถอนหายใจบ่อยเดี๋ยวก็ได้ตายเร็ว” “จะตายได้ไงวะ” “กูไง กูจะถีบมึงตกเก้าอี้” แม้จะโดนผมว่าแต่ไอ้สายฟ้าก็หัวเราะออกมา “กูเบื่อว่ะ กูเบื่อริช” ริชที่ผมหมายถึงคือริชชี่แฟนผมเอง ผมบอกเลิกเธอเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง แต่เธอก็ไม่ยอมเลิกสักที “ทำไงได้วะ ก็คนมันรัก” “รักกับผีน่ะสิ ยัยนั่นรักชื่อเสียงของกูต่างหาก” ผมไม่ได้อยากจะนินทาแฟนอะไรให้ใครฟังหรอก แต่ริชชี่เป็นอย่างนี้จริง ๆ เธอคบกับผมเพราะเห็นว่าผมเป็นคนดังในมหา’ ลัยแค่นั้น “แต่เธอก็ดีกว่าผู้หญิงขายตัวคนนั้นไม่ใช่เหรอวะ” “หึ...พูดละอารมณ์ไม่ดี” ผมส่ายหน้าเบา ๆ จริง ๆ ผมตามผู้หญิงคนนี้มานานเหมือนกัน ยังไงดีล่ะ...ผมบังเอิญเจอเธอหลายที่ เธอสวยอันนี้ผมไม่เถียง แต่อยู่ ๆ ผมก็เจอเธอผ่านกลุ่มเด็กเอ็นฯ แน่นอนว่าผมไม่พอใจ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นอะไรกับผม แต่ผมโคตรรู้สึกผิดหวัง ทว่าขณะนั้นเอง “มึง...น้องคนนั้นป่ะ” ผมหันไปตามทางที่ไอ้สายมันพยักพเยิดหน้าให้ ซึ่งพอหันไปผมก็เห็นผู้หญิงขายตัวคนนั้น... “หึ รับงานนอกด้วย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD