ดวงตาสีปีกกาค่อยๆลืมขึ้นมาจากการหลับไหล ร่างโปร่งหยัดตัวลุกขึ้นพลางมองไปรอบกายก่อนจะกลับมาคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
เขาจำได้ว่าตัวเองทรุดตัวลงจากคาถาที่ไกรทอดสวด แต่ก็ไม่นึกว่าตัวเองจะถึงขั้นสลบข้ามวันแบบนี้
เจ้าของใบหน้างดงามหันซ้ายทีขวาทีมองหาร่างของหนุ่มผิวสีโดยรอบ ทว่าก็ไม่พบร่างของไกรทองที่ไหนเลย ในตอนนั้นเองเขาจึงตัดสินใจลุกออกไปข้างนอกกระโจม
"ฟื้นแล้วหรือคนงาม ข้าว่าเอ็งอย่าขยับมากดีกว่า ร่างกายยังไม่หายดี"
"นี่ข้าหลับไปนานขนาดนี้เลยหรือ"
"จะเรียกว่าหลับก็กระไรอยู่ เอาเป็นว่าเอ็งอาจจะเพลียหนักเลยสลบยาวเท่านั้นเอง"
ไกรทองตอบกลับอย่างไม่คิดอะไรมาก แล้วจึงหันไปก่อไฟทำอาหารต่อ ต่างคนไม่มีใครพูดถึงเหตุผลที่คนตัวขาวเป็นแบบนี้
หนึ่งคือเจ้าตัวรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นอะไรจึงไม่อยากพูดถึง สองคือไกรทองที่เริ่มเอะใจแต่ไม่อยากเค้นเอาคำตอบจากคนความจำเสื่อม
ใจลึกๆก็คิดอยู่หรอกว่าคนงามอาจจะไม่ได้ความจำเสื่อมอะไรจริงๆ แต่พอคิดอีกทางมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คนๆนี้ต้องเข้าหาเขา
เพราะงั้นแล้วเหตุผลของการแกล้งทำจึงถูกปัดตกไป
"มากินอะไรรองท้องก่อนเถอะ เดี๋ยวอิ่มแล้วข้าจะดูแผลให้อีกที"
ชายหนุ่มร่างสูงยังคงหวังดี เขาเชิญสหายมานั่งร่วมทานอาหารอย่างเป็นกันเองเพื่อไม่ให้บรรยากาศเลวร้ายไปมากกว่านี้
คนตัวขาวที่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ได้ปฏิเสธเขานั่งลงตรงข้ามชายผิวเข้ม ก่อนจะหยิบไม้ที่เสียบเนื้อย่างตรงหน้ามาพินิจดู
"นี่เนื้ออะไร?"
เจ้าของดวงตาสีปีกกาถามพลางมองไปยังคนที่นั่งตรงข้าม ตอนที่ได้ลองกินเจ้าเนื้อเสียบไม้มันให้ความรู้สึกหยุ่นๆแปลกๆเหมือนไม่ใช่เนื้อปลาเนื้อไก่
และใช่ มันไม่ใช่เนื่อสัตว์ปกติจริงๆ
"อ้อ เนื้อกระต่ายน่ะ"
"..."
ไกรทองตอบกลับหน้าตาเฉย ทว่าคำตอบที่พูดออกมานั้น ทำให้คนตัวขาวจินตนาการไปถึงกระต่ายน้อยน่ารักขนฟูที่ดุ๊กดิ๊กไปมา
ทว่าตอนนี้เจ้าปุกปุยดันลงท้องเขาไปแล้ว
"เลือดเย็นยิ่งนัก..เนื้อปลาเนื้อไก่แถวนี้ไม่มีหรือ เหตุใดจึงต้องเป็นกระต่าย"
คนงามว่าพลางขมวดคิ้ว ทว่าปากก็ยังเคี้ยวเนื้อกระต่ายจนแก้มตุ่ยอยู่ คนที่เหมือนจะถูกดุอย่างไกรทองจึงเค้นหัวเราะในลำคอ มองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูปนขำ
"ก็เจ้านี่มันจับง่าย ทั้งเชื่องช้าแล้วก็มีให้เห็นทั่วไป ส่วนไก่ข้าก็กินจนเบื่ออยากกินอย่างอื่นบ้าง.."
ตอบไปก็กัดเนื้อกระต่ายกินไป ไม่รู้ร้อนรู้หนาวสักนิด
"ส่วนปลาพวกนั้น..ข้าเกรงว่าหากตัวเองลงไปจับ คนงามของข้าจะได้กินเนื้อจระเข้แทนปลานี่สิ อยากกินไหมล่ะ"
ไกรทองว่าพลางเหล่ตาไปทางคนตัวขาว เท่านั้นแหละคนถูกถามถึงกับส่ายหัวจนคอแทบเคล็ด
เขาล่ะอยากจะบ้าตาย หากต้องมากินเนื้อจระเข้จริงๆขอกินกระต่ายไปตลอดเสียยังจะดีกว่า ถึงการกินเนื้อเจ้าตัวนี้จะไม่ได้แปลกอะไรทั้งในยุคนี้และยุคปัจจุบัน
แต่กับคนที่มีตัวปกติๆให้กิน เขาก็ขอกินอะไรง่ายๆแทนดีกว่า
"เอ็งกินไปคนเดียวเถอะถ้าเช่นนั้น"
พอว่าจบกระต่ายเสียบไม้ย่างก็หมดพอดี ถึงก่อนหน้าปากจะบอกว่าสงสาร แต่ในเมื่อมันตายแล้วเขาก็ต้องกินมันให้หมด
บวกกับความหิวไส้กิ่วตั้งแต่เมื่อวาน กระต่ายทั้งตัวจึงลงไปอยู่ในท้องเป็นที่เรียบร้อย
"เอาล่ะ กินเสร็จแล้วก็มาให้ข้าดูแผลหน่อย"
ชายร่างสูงลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายหลักเขมือบเนื้อกระต่ายไปร่วม3ชีวิต คนที่นั่งรอคนทำแผลจนแทบหลับไปอีกจึงยื่นแขนที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลให้อีกคนตรวจดู
ตอนนี้ตามตัวของเขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผล ทั้งแขนทั้งขาเรียกได้ว่าพันจนจะเป็นมัมมี่เลยทีเดียว
"แผลเอ็งนี่ก็หายเร็วดีหนา เมื่อวานยังอาการหนักกว่านี้ตั้งเยอะ"
"ได้ยาดีกระมัง"
"แหม จะชมว่าข้าเก่งก็ว่ามาเถอะคนงาม"
"ที่บ้านไม่มีใครชมหรือถึงได้เอาแต่ชมตัวเองน่ะ"
พูดไปก็ไม่ได้คิดอะไรมากแต่ดูเหมือนคนที่ฟังจะไม่ได้คิดเช่นนั้น ไกรทองถึงกับชะงักมองคนงามด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เท่านั้นแหละคนที่ถูกมองด้วยสายตาแปลกๆจึงถามกลับไปทันที
"อะไร"
"เป็นอย่างที่เอ็งว่า..ที่บ้านข้างไม่มีแม้แต่คนให้ชมด้วยซ้ำ ข้าเสียทั้งพ่อทั้งแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เพียงแค่อยากให้เอ็งชมบ้างไม่ได้หรือ"
เสียงทุ้มเข้มว่าอย่างเศร้าสร้อยพลันดวงตาคู่คมก็หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ร่างโปร่งถึงกับรีบขยับตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายนึกโทษตัวเองที่ไปปากไม่ดีใส่คนตรงหน้าแบบนั้น
"ไกรทองข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว"
เจ้าของนัยตาสีปีกกากล่าวอย่างสำนึกผิดก่อนจะเอื้อมมือไปหวังจะจับตัวคนตรงหน้า ในตอนนั้นเองร่างสูงจึงจับมือเรียวบางไปแนบแก้ม แล้วเลื่อนใบหน้าไปให้ตรงกับฝ่ามือนั้น
ดวงตาคู่คมสบมองใบหน้างามที่ฉายแววกังวลเต็มประดา แม้จะไม่ได้แย้มยิ้มออกมาแต่ใบหน้านั้นก็ช่างน่าเอ็นดูและน่ารังแกในเวลาเดียวกัน
พอรู้ตัวว่าทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีก็รีบเข้ามาปลอบ ใครกันจะอดไม่เอ็นดูไหว
"ปลอบข้าสิ"
"จะให้ข้าทำอย่างไร"
เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มตอบกลับโดยพลัน ตอนนี้สำหรับเขาแล้วความรู้สึกของคนตรงหน้าสำคัญมาก จึงตอบไปแบบไม่คิดอะไร
'ขอจูบสักทีได้ไหมคนสวย'
ได้แต่คิดในใจเพราะรู้ว่าถ้าพูดออกไปคงโดนคนงามกระทืบตายคาตีนแน่ๆ
ก็แหม..เดิมทีเขาก็ชมชอบคนสวยคนงามอยู่หรอก ยิ่งอีกฝ่ายเล่นงามไม่เผื่อไม่แผ่ใครเลยขนาดนี้มีหรือชายหนุ่มวัยกลัดมันอย่างเขาจะอดใจไหว
แต่จะว่าไปก็อดใจมานานแล้วหนา...
"ยิ้มงามๆให้ข้าดูสักที ข้าก็หายโกรธแล้ว"
ไกรทองว่าด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานพลางใช้สายตาออดอ้อนคนงามแบบที่คิดว่าน่ารักที่สุด แต่ถ้าว่ากันตามตรงการที่ชายหนุ่มตัวเท่าควายทำอะไรแบบนี้มันไม่ได้น่ารักเลยสักนิด
"ต้องทำจริงๆหรือ"
คนตัวขาวถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คนที่ยังคงจับมือคนงามไว้จึงพยักหน้าตอบ
เจ้าของดวงตาสีปีกกานิ่งไปครู่หนึ่ง ในเมื่อนี่เป็นวิธีที่อีกฝ่ายเสนอมาให้เขาทำ เขาก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ อีกอย่างเพียงแค่ยิ้มเท่านั้นมันคงไม่มากเกินไปหรอก
"..."
ริมฝีปากบางค่อยๆยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตามที่เขาบังคับ ทว่าภาพที่ได้ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง อันที่จริงไม่ว่าคนงามจะทำอะไรมันก็งามทั้งนั้น เพียงแต่รอยยิ้มนี้เป็นยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตาเอาเสียเลย
"เอาเถอะๆ เอาเป็นว่าข้าหายน้อยใจแล้ว"
"แน่หรือ?"
"แค่เอ็งใส่ใจความรู้สึกของข้าก็เกินพอแล้ว"
พอว่าจบหนุ่มผิวเข้มก็ลุกออกจากที เขาเดินไปหยิบหอกศัตตะโลหะพร้อมสมุดพิธีกรรมบางอย่าง คาดว่าเจ้าตัวคงจะทำพิธีต่อจากเมื่อวานที่ไม่มีโอกาสได้ทำ
"จะทำพิธีต่อหรือ"
"อื่ม ไม่ทำก็ไม่ได้ประเดี๋ยวของจะเสื่อมเอา"
ไกรทองตอบกลับเสียงเรียบ คนที่ได้ฟังดังนั้นจึงตัดสินใจขอปลีกตัวไปทางอื่นก่อน เขาคิดว่าหากอยู่ตรงนี้ต่อไปคงไม่พ้นมีชะตากรรมเหมือนเมื่อวาน
อีกทั้งหากว่าเขายังมีอาการแปลกๆแบบนี้อยู่คงไม่วายถูกจับได้แล้วไกรทองเอาไปเสียบไม้ปิ้งกินแน่ๆ
ร่างโปร่งเดินเข้าป่าลึกไปเรื่อยๆจนสุดระยะเสียงสวด ในตอนนี้เองเขาถึงได้เริ่มหายใจสะดวกขึ้นมาบ้าง
เขาตัดสินใจพักอยู่แถวๆในป่าสักพัก จนกว่าจะมั่นใจว่าไกรทองจัดการกับหอกคู่ใจของตัวเองเสร็จ
แน่นอนว่าระยะเวลานั้นกินไปค่อนข้างนาน หลังจากรอแล้วรอเล่า ร่างโปร่งที่รู้สึกเบื่อหน่ายจึงจะเดินกลับที่พักเสียที ทว่าดูเหมือนเส้นทางขากลับของเขาจะไม่ได้ง่ายดายอย่างขามานี่สิ
"หนีจระเข้มาปะเสือจริงๆ.."
เจ้าของดวงตาสีปีกกาถึงกับสถบออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพราะตอนนี้ตรงหน้าเขามีเสือตัวบะเร้อยืนจ้องอยู่
รู้แบบนี้ยอมดิ้นตายในกระโจมของไกรทองดีกว่า มาตายให้เสือกินแบบนี้ศพไม่สวยแน่ๆ
หนึ่งคนหนึ่งเสือยืนจ้องหน้าไม่พูดไม่จากันนานหลายชั่วอึดใจ หนึ่งก็กลัวสองก็กลัวไม่มีใครกล้าขยับไปไหนทั้งสิ้น จนกระทั่งมีผู้กล้าคนนึงนอกวงกล้าพุ่งเข้ามานั่นแหละ
"ไกรทองเดี๋ยว นั่นเสือเลยนะ!"
คนตัวขาวอยากจะบ้าตายไกรทองมันไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหนถึงได้กล้าพุ่งมารัดคอสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่กว่าตัวเองเป็นคืบขนาดนั้น
แต่น่าแปลกใจที่ร่างสูงสามารถจัดการเสือนั่นได้อยู่หมัด โดยที่ตัวเองมีแค่รอยกิ่งไม้ข่วน
พระเจ้าช่วยไกรทอง เอ็งสู้กับเสือไม่ได้แผลแม้แต่ปลายเล็บ แต่เสียท่าให้กิ่งไม้เนี่ยหนา
"วันนี้เรามีอาหารเย็นกินแล้ว"
ไกรทองพูดพลางยิ้มร่า ไม่ได้ดูสีหน้าคนตัวขาวที่อึ้งกิมกี่อยู่ข้างๆเลย ไม่รู้จะตกใจอะไรระหว่างไกรทองสามารถจัดการเสือตัวใหญ่ได้จริงๆกับการที่เสือตัวนั้นจะกลายมาเป็นอาหารเย็นให้เขา
"โอ้ยๆ แสบมากเลย คนงามช่วยทำแผลให้ข้าหน่อย"
"อย่างไรหนา"
พอกลับมาที่กระโจมจู่ๆไกรทองก็ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นพร้อมทำท่าทีอย่างกับตัวเองเจ็บปวดรวดราวไปทั้งกาย โดยที่แผลตามตัวของเจ้าตัวก็มีแค่รอยกิ่งไม้เฉียดๆที่แก้มเท่านั้น
"หน้าข้าแสบมาก เป็นไปได้ว่ากิ่งไม้ที่เกี่ยวหน้าข้าอาจจะมีพิษ เร็วเข้าคนงามมาช่วยข้าที"
ไม่ว่าเปล่าคนผิวเข้มก็ยื่นผงสมุนไพรมาให้คนตรงหน้า คนที่ไม่รู้จะทำอะไรยังไงเลยได้แต่รับสมุนไพรนั้นมาอย่างจำเป็น ก่อนจะย่อตัวลงไปใกล้ๆอีกฝ่ายเพื่อช่วยทำแผล
"เห็นไม่ค่อยชัดเลย มานั่งตรงนี้ดีกว่า"
ไม่พูดพร่ำทำเพลงมือหนาก็คว้างช่วงเอวของร่างโปร่งให้ลงมานั่งตักอย่างพอดิบพอดี ส่วนประโยคที่ว่าเห็นไม่ชัดนี่..หมายถึงคนทำแผลหรือคนถูกทำแผลกันนะ
"เช่นนั้นก็นั่งนิ่งๆหนา.."
ไม่รู้ว่าเพราะความใสซื่อหรือไม่สนใจกันแน่ คนตัวขาวถึงได้ไม่สนใจสายตาและการกระทำของไกรทองเลย
แต่ดูจากสภาพแล้วก็คงไม่สนใจมากกว่า เพราะคนตัวใหญ่กว่าเล่นจ้องหน้าระยะเผาขนขนาดนี้ คนบนตักยังหน้านิ่งไม่เสียอาการสักนิดเลย
นั่นเองก็นับว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อย เพราะพ่อหนุ่มเมืองนนจะได้เก็บเล็กเก็บน้อยจากคนงามไปตลอด คนดีของเขาก็ไม่ปากไม่บ่น ว่าง่ายเป็นที่สุด
การที่พ่อทำแบบนี้กับลูกเรานั้น??
มันจะเกินปุยมุ้ย ยัยลูกสาวก็ว่าง่ายจริง แต่คือยัยน้องแค่เมินแหละ
น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอก "อ้อ ไม่ได้คิดอะไรอะ"
??❤️?
ขอบคุณสำหรับโดเนทสุดแสนน่ารัก!!
ไรท์แบบปลื้มมาก ดีใจมากเลยที่รีทใส่ใจกัน
ปกติไรท์ชอบสะสมพวกโดเนทเทศกาล เป็นไปได้ก็อยากจะเก็บให้ครบ
ขอบคุณรีทมากเลยที่สานฝัน??✨️