แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูเมฆ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูฝน~ เสียงร้องเพลงดังกึกก้องในห้องโถงของบ้าน วันนี้เป็นวันเกิดของน้องเมฆกับน้องฝน ผ่านมา 1 ปี เวลานั้นช่างเดินไปอย่างไม่รอใครจริงๆ
"ขอให้น้องเมฆกับน้องฝนมีความสุขมากๆ นะลูก" คุณน้าทานตะวันก้มลงอวยพรหลานๆ ตอนนี้ทานตะวันคลอดลูกสาวที่แสนน่ารักออกมาแล้วชื่อน้องอันดา แต่ความรักที่มีให้กับน้องเมฆกับน้องฝนก็ยังมากเท่าเดิม
"ขอให้เป็นเด็กดีของแม่นะเด็กๆ " แดเนียลอวยพรก่อนจะก้มลงหอมแก้มหลานๆ
"ขอให้หลานๆ มีสุขภาพที่แข็งแรงนะจ๊ะ" วันนี้เป็นวันเกิดของหลานทั้งทีเหล่าป้าๆ น้าๆ ก็มารวมตัวกันร่วมฉลองวันเกิด ทั้งแดเนียลกับทานตะวันที่หอบสาวมาไกลถึงปาย ไหนจะจูเลียกับวีรญาที่ตามมาด้วย ตอนนี้แดเนียลมีรีสอร์ตที่เปิดขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองอยู่ 2-3 ที่ในไทย ที่ปายนี้ก็เป็นของเขาเช่นกันแต่ฟ้าอาสามาดูแลให้เพราะอยากมาเลี้ยงลูกสงบๆ ที่พัทยาค่อนข้างวุ่นวาย
“ไม่น่าจะต้องลำบากกันเลย” ฟ้ารับของขวัญจากวีรญาไปวางไว้บนโต๊ะแล้วพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ แค่ทุกคนมาหาถึงปายนี่ก็ดีใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาข้าวของมาให้เลย
“นี่ฉันให้ลูกฉันนะ ไม่ได้ให้เธอ” จูเลียหันไปทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ฟ้า เพราะด้วยความเป็นเพศทางเลือกทำให้จูเลียกับวีรญาไม่สามารถมีลูกได้เลยเอาความรักส่วนนี้มาทุ่มเทให้กับน้องเมฆน้องฝน แล้วก็น้องอันดา นอกจากนี้ก็ยังหมั่นไปเยี่ยมเยือนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่บ่อยๆ
“แล้วพ่อเด็กไม่ติดต่อมาเลยเหรอ” ทันทีที่จูเลียถามออกไปแบบนั้น ภาพของคนที่คิดว่าตายจากใจไปแล้วก็ผุดขึ้นมาทันที
“จูลี่!!”
“โอ๊ย” วีรญาหยิกที่แขนของจูเลียพร้อมทั้งตวาดลั่น
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันลืมไปหมดแล้ว” ฟ้าฝืนยิ้มและตอบ แต่ทานตะวันก็ยังดูออกอยู่ดีว่าลึกๆ ในใจแล้วฟ้ายังรักและคิดถึงลูอิสอยู่ ยิ่ง ดีเอ็นเอบนหน้าลูกผูกกับหน้าพ่อไว้ขนาดนี้ เห็นลูกทุกวันก็เหมือนเห็นหน้าลูอิสไปด้วย ปาร์ตี้ได้ไม่นานทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนเพราะอยู่ดึกไม่ได้เด็กๆ ต้องเข้านอน
ก๊อก ก๊อก
“ขอเข้าไปได้มั้ย” ทานตะวันเคาะที่ประตูห้องแม้ว่ามันจะไม่ได้ปิดอยู่ แต่ก็ถือเป็นมารยาท
“เข้ามาสิ เด็กๆ หลับแล้ว”
“ไหวมั้ย ทั้งทำงาน ทั้งเลี้ยงลูกแฝดคนเดียวแบบนี้” ทานตะวันนั่งลงข้างๆ เพื่อนสนิทพร้อมทั้งถามด้วยความเป็นห่วง
“คนเดียวที่ไหนมีอาจูกับมะขิ่นช่วยดูตั้งสองคน” อาจูกับมะขิ่นเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ฟ้าจ้างมาช่วยงานทั้งงานที่รีสอร์ตและงานเลี้ยงลูก ด้วยความใจดีของฟ้าทำให้ทั้งอาจูและมะขิ่นรักฟ้าเหมือนพี่สาวและดูแลเด็กๆ อย่างดี
“แล้ว…” ทานตะวันไม่รู้ว่าควรจะถามดีมั้ย แต่มันก็สงสัยเหลือเกิน
“เรื่องเขาคนนั้นน่ะ ฉันไม่ได้นึกถึงอีกแล้ว วันๆ ก็ไม่มีเวลาคิดอะไรแล้วทั้งทำงานทั้งดูแลลูก ไม่ต้องห่วงนะตะวันฟ้าสบายดี” ฟ้าพูดพร้อมกับกุมมือทานตะวันแสดงให้เห็นว่าตัวเองนั้นสบายดีจริงๆ ไม่ต้องเป็นห่วง
“ตะวันเป็นห่วงฟ้า ไม่น่ามาอยู่ไกลกันขนาดนี้เลย”
“คิดถึงก็มาหาได้ ตาเมฆกับยัยฝนโตอีกหน่อยฟ้าก็ไปหาตะวันเองก็ได้”
“เรื่องไปมาหากันมันไม่ยากหรอก เจ็บป่วยขึ้นมาจะได้ดูแลกันได้ง่าย”
“คิดมากจริงๆ เลย รู้แล้วว่าเป็นห่วงเป็นแม่คนกันแล้วนะ ดูแลตัวเองไม่ได้ จะดูแลใครได้” ฟ้าพูดพร้อมกับเอานิ้วไปจิ้มที่จมูกของเพื่อนสาว
“ตะวันก็รักของตะวันนี่” ทานตะวันพูดเสียงอ้อนพร้อมกับโผเข้ากอดฟ้า
“อื้อ ตะวัน”
“ว่าไง” ตะวันตอบรับทั้งทียังอยู่ในอ้อมอกของฟ้า
“ฟ้าขออะไรอย่างนึงสิ”
“อะไร”
“ถ้าเค้ามาตามหาฟ้ากับลูก อย่าบอกเค้าได้มั้ยว่าฟ้าอยู่ที่นี่” ลึกๆ ในใจแล้วนั้นฟ้าก็ยังคิดว่าเขา อาจจะกลับมา สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือ ถ้าเขามาแย่งลูกไปฟ้าคงขาดใจตายแน่ๆ ความคิดตีกันวุ่นไปหมด เหมือนมันมีบางอย่างเตือนว่า เขาจะกลับมาในไม่ช้านี้แน่ๆ
-มิลาน, อิตาลี-
ร่างกำยำนอนราบอยู่บนพื้น ผับปิดแล้ว ผู้คนต่างแยกย้ายกันไปจนหมด เหลือเพียงเขาที่นอนเมาแอ๋อยู่คนเดียว ขวดเหล้ากระจัดกระจายทั่วบริเวณรอบๆ บ้างก็เป็นของเขา บ้างก็ของนักท่องราตรีคนอื่น แต่จากสภาพแล้วร่างที่นอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตอนนี้แอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายก็คงไม่น้อยเช่นกัน
“นายครับ นาย” ลูกน้องเดินเข้ามาตามหาตัวเขาอยู่สักพัก จนในที่สุดก็เดินมาพบว่านอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นในสภาพไม่ต่างจากหมา
“ปล่อยยยย” ชายผิวสีค่อยๆ ประคองคนเมาให้ลุกขึ้น แต่เขากับปัดป้อง ไม่ยอมลุก
“กลับไปนอนที่บ้านเถอะนะครับ”
“จะนอนนี่ เอิ้กกก ปล่อยยย!!” ยิ่งจับก็ยิ่งดิ้น ยิ่งโวยวาย จนลูกน้องต้องยอมให้นอนอยู่อย่างนั้น จริงๆ ถ้าจะปล่อยให้นอนอยู่แบบนี้ทั้งคืนก็ได้เพราะผับนี่ก็เป็นของเขาเอง แต่ใครจะอยากให้นอนคลุกฝุ่นที่มันกระจายตัวเบาบางอยู่บนพื้นทั้งสกปรก ทั้งเหม็น ไม่รู้มาจากใต้รองเท้าใครบ้าง ไหนจะมดแมลงที่จะมาไต่ตอมอีก
“ปล่อยมัน ให้มันบ้าซะให้พอ” คาเลนร้องบอกกับลูกน้อง ทำให้เขาลุกขึ้นและน้อมตัวแสดงความเคารพต่อหัวหน้า ตั้งแต่นิโคลัสประกาศตัวลาวงการไป แก๊งของคาเลนก็พอได้หมดคู่แข่ง และเจริญเติบโตเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“พ่อ” ลูอิสลืมตาขึ้นมองร่างท้วมที่ยืนมองดูเขาอยู่ข้างๆ
ซ่า…. ก่อนที่น้ำในถังที่คาเลนถือมาด้วยจะถูกเทราดลงบนตัวของคนเมา
“พ่ออออ” เขาโวยลั่นเมื่อน้ำสัมผัสกับร่างกาย
“แกจะเลิกบ้าได้รึยัง” คาเลนนั่งลงข้างๆ ลูกชาย ช่วงนี้เขารู้สึกว่าลูอิสผิดปกติไปเยอะ จริงๆ ก็เป็นมาสักพักแล้วร่วมปีได้ที่เอาแต่เมาไม่ค่อยจะสนใจงานการขอไปเที่ยวพักผ่อนกลับมาดูจะดีขึ้นแต่พอเวลาผ่านไปก็กลับแย่ลง จนกลายมาเป็นสภาพนี้ในที่สุด
“แกเหลวไหลเกินไปแล้วนะลูอิส” คาเลนยังคงเป็นคนพูดอยู่ฝ่ายเดียว
“พ่อรักกับแม่ได้ยังไง” ในที่สุดคนเมาก็เริ่มก่อบทสนทนาขึ้น
“พ่อแม่จับคลุมถุงชน ตอนแรกไม่ได้รักกันหรอก อยู่ๆ กันไปก็มีแกออกมา”
“พ่อทำยังไงถึงมือผม” คาเลนนิ่งไปคู่หนึ่งเมื่อเจอคำถามแบบนี้ ไอ้ลูกเวร ถามโง่ๆ
“นอนจับมือกันมั้ง จะให้สาทรยายจริงๆ เหรอ”
“ตอนที่พ่อเป็นมาเฟีย พ่อไม่ห่วงแม่เหรอ” คำถามนี้ค่อนข้างมีผลกับใจคนฟัง เพราะสิ่งที่เขาเป็นอยู่มันได้พรากผู้หญิงที่เขารักไปจากเขา ก่อนเวลาอันควร
“จริงๆ ก็ห่วง แต่พ่อก็คิดว่าถ้าพ่อดูแลแม่ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะแน่ใจได้ยังไง ว่าคนอื่นจะดูแลได้ดีกว่า” ลูอิสนิ่งและคิดตามสิ่งที่พ่อบอก ไม่รู้ว่าตอนนี้ฟ้ากับลูกจะเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้จะลำบากกันหรือเปล่า ลูอิสได้แต่ด่าทอตัวเองในใจว่าไอ้ขี้ขลาด ลูกกับเมียก็ไม่มีปัญญาดูแล แล้วยังจะหวังให้ใครมาดูแลอีก ลูกตัวเองยังไม่ดูแล แล้วใครจะมาดูแลได้ดีเท่า
“ผมมีหลานให้พ่อแล้วนะ” อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมา
“เมาหนักจนเพ้อหรือไง” คาเลนหันไปมองลูกชาย มันจะเอาเวลาที่ไหนไปมีเมีย วันๆ เห็นมันเอาแต่เมา
“ผมพูดจริงๆ พ่อถึงตอนนี้ก็คงได้ขวบนึงแล้ว” คาเลนยังคงไม่ปักใจเชื่อคำพูดของลูกชาย ดูท่าไอ้ลูอิสมันคงเมาหนัก หนักจนเพ้อเจ้อไปเรื่อย
“เมาก็นอนมันตรงนี้แหละ ไอ้คริสไม่ต้องปลุกมันนะ ปล่อยมันบ้าอยู่นี่แหละ” คุยกันจบแล้วคาเลนก็ลุกขึ้นแล้วทิ้งให้ลูกชายนอนแอ้งแม้งแฮงค์เหล้าไว้อย่างนั้น
-อำเภอปาย, ประเทศไทย-
ฟ้าตื่นแต่เช้าเพื่อจัดการธุระต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกๆ จะตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่ได้ทำอะไรเลย ในส่วนของรีสอร์ตนั้นแดเนียลกับทานตะวันได้จ้างแม่บ้านคอยดูแลเรื่องการทำความสะอาดแล้วฟ้ามีหน้าที่แค่คอยรับแขกเข้าออกอยู่ที่เคาท์เตอร์และดูแลเอกสารต่างๆ
“พี่ฟ้าน้องเมฆตื่นแล้วนะคะ” อาจูวิ่งมาบอกฟ้าที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว ก่อนหน้านี้ก็คงเผาหม้อ เผากระทะไปแล้ว แต่ตั้งแต่ไปอยู่กับทานตะวันก็ได้วิชาการทำอาหาร เสน่ห์ปลายจวักมาจากเพื่อนสาวคนสวยบ้าง ทุกวันฟ้าจะทำกับข้าวให้อาจูกับมะขิ่น รวมไปถึงคนงานคนอื่นๆ ด้วย อีกข้อหนึ่งคือฟ้าไม่อยากให้ใครเรียกคุณฟ้า หรือคุณนายเลย มักจะพูดกับคนงานเสมอว่าให้เรียกฟ้าเฉยๆ หรือถ้าเด็กกว่าก็ให้เรียกพี่ฟ้า
“น้องร้องมั้ย ถ้าไม่อาจูดูเลยเดี๋ยวพี่ทำกับข้าวก่อน” อาจูดูไม่ค่อยจะเป็นงานสักเท่าไหร่มีอะไรมักไม่กล้าตัดสินใจเองจะต้องวิ่งมาถามฟ้าทุกครั้ง ต่างจากมะขิ่นที่เก่งทุกอย่างพอเบาแรงไปได้บ้าง
“อ้าว อาจูมีอะไร” เมื่อหันไปเจอเด็กสาวยืนหอบแฮกอยู่หน้าประตู ฟ้าเลยถามขึ้น
“มีแขกมาหาพี่ฟ้าค่ะ”
“ใครมาแต่เช้า” ฟ้าทำกับข้าวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพอดีเลยเดินออกมายังห้องรับแขก เมื่อมาถึงก็เจอพิทักษ์ หนุ่มเจ้าของไร่สตรอเบอรี่ใกล้ๆ กับรีสอร์ตที่มาตามขายขนมจีบให้ฟ้าได้สักพักแล้ว แต่เพราะตัวเองไม่ได้ตัวเปล่าฟ้าเลยไม่ได้แสดงท่าทีว่าชอบ แต่ก็ไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ ยังคงรักษาความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันไว้ เพราะพิทักษ์เองก็เป็นคนดี เป็นคนเรียบร้อย ดูสะอาดสะอ้าน ลุคคุณหนูมากๆ นี่ยังแปลกใจเลยทำไมถึงมาทำไร่ไหว
“สวัสดีครับคุณฟ้า พอดีทดลองปลูกองุ่นไว้ที่บ้านแปลงนึงว่าจะเอามาลองทำดู มันเพิ่งออกลูกผมเลย…เก็บมาฝากคุณฟ้าครับ” พิทักษ์ส่งตะกร้าองุ่นให้ฟ้าด้วยท่าทางเขินอาย แม้จะรู้ว่าฟ้าไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าฟ้าเป็นแม่หม้าย ทางบ้านของพิทักษ์ก็ไม่ได้รังเกียจเพราะเห็นว่าฟ้าขยันทำงาน แถมยังนิสัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนละแวกนี้ต่างก็รักใครเอ็นดู
“ขอบคุณนะคะ ไม่น่าจะต้องรับบาปเลย” ฟ้ารับตะกร้ามาส่งให้อาจู
“ไม่เลยครับ ไม่ลำบากสักนิดเดียว” คุณชายชาวไร่รีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“ตลอดเวลาที่รู้จักกัน ฟ้าแทบไม่ต้องซื้อผลไม้กินเลย คุณเอามาให้ฟ้ากินไม่เคยขาด”
“ไม่ต้องเกรงใจนะครับคุณฟ้า ผลไม้พวกนี้ผมปลูกไว้ที่บ้านทั้งนั้น ไม่มีซื้อมาเลยครับ”
“บ้านคุณทักปลูกทุเรียนด้วยหรือคะ” ฟ้าแกล้งแหย่ ทำเอาคุณหนูชาวไร่ถึงกับสะตั้นไปเลย
“เอ่อ…”
“ฟ้าล้อเล่นค่ะ” พอดูท่าจะไม่ดีแล้วฟ้าเลยเฉลย
แอ้ แอ้ แอ้ เสียงเด็กๆ ร้องกันระงมจนทำให้ฟ้าและพิทักษ์ต่างก็หันไปให้ความสนใจ
“ฟ้าขอตัวไปดูเด็กๆ ก่อนนะคะ”
“ครับๆ” พิทักษ์ได้แต่มองตามหุ่นบางที่ก้าวหายไปในบ้านก่อนจะเดินกลับไปไร่ตัวเอง
-พัทยา, ประเทศไทย-
หลังจากที่ทานตะวันหาเชฟที่ถูกใจได้แล้วจึงเกษียณตัวเองออกมาเลี้ยงลูกอย่างเต็มตัว ที่บ้านติดชายทะเลหลังใหม่ แดเนียลเองธุรกิจก็กำลังไปได้ดีแต่ก็หาเวลามาอยู่กับลูกเมียไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
“คุณตะวันคะ มีแขกมาขอพบค่ะ” เด็กรับใช้ในบ้านเดินมาบอกทานตะวันที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างแปลลูกสาว หญิงสาววางหนังสือลง แล้วลุกขึ้น
“ฝากน้องอันดาด้วยนะ เดี๋ยวฉันมา” คนเป็นนายหันไปสั่ง ก่อนจะเดินออกมาหาแขกที่หน้าบ้าน
“ตะวัน จำน้าได้หรือเปล่า” เมื่อเห็นคนที่มาหา ทานตะวันก็ถึงกับตะลึง คนที่เห็นตรงหน้าคือน้าแดงแม่ของฟ้า แต่สภาพที่เห็นคือผู้หญิงร่างซูบผอม มอมแมม ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
“น้าไปอยู่ที่ไหนมา รู้มั้ยว่าฟ้าตามหาน้ากับน้าพันแทบแย่”
“น้าเป็นหนี้ต้องหนีกันหัวซุกหัวซุน ไอ้ผัวเฮงซวยมันหนีไปทำงานที่เกาหลีไปแล้ว น้าต้องมาหาเก็บขยะขาย แล้วอีฟ้ามันอยู่กับเอ็งรึเปล่าได้ข่าวว่าเอ็งมีผัวฝรั่งได้ดิบได้ดีเลยนี่”
“ฟ้าไม่ได้อยู่นี่จ่ะ ฟ้าไปดูแลรีสอร์ตให้ตะวันอยู่ที่แม่ฮ่องสอนโน่น เข้ามาในบ้านก่อนมั้ยจ๊ะ ข้างนอกแดดมันร้อน”
“อย่าเลย…” หญิงเร่ร่อนก้มดูเนื้อตัวของตัวเอง
“น้าไม่อยากไปทำบ้านเอ็งเปื้อน”
“น้าแดง ตอนตะวันเด็กๆ ตะวันไปอาศัยกินข้าวบ้านน้าก็บ่อย บางทีน้ายังให้เอามาฝากยายอีก ตะวันไม่ลืมหรอกนะจ๊ะ” ตอนที่ยังมีทุกอย่างไม่ได้ติดการพนันบ้านของฟ้านั้นเอ็นดูทานตะวันมาก มีอะไรก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ตลอด พอถึงเวลาที่ตัวเองมีบ้างจะให้ลืมบุญคุณคนอื่นได้ยังไง ยายสอนเสมอว่าอย่าลืมว่าใครให้อะไรกับเรา แต่อย่าจำว่าเราเคยให้อะไรกับใคร ในที่สุดแดงก็ยอมเข้ามาในบ้าน หญิงเร่ร่อนเดินดูสิ่งของในบ้านอย่างตื่นตาตื่นใจ ทุกอย่างในบ้านมีแต่ของแปลกตา เรื่องราคาก็คงแพงน่าดู ขืนเผลอไปทำของเขาพังล่ะไม่มีปัญญาจ่ายแน่
“เดี๋ยวตะวันโทรหาฟ้าให้ น้าแดงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” ทานตะวันยื่นเสื้อผ้าของป้าแม่บ้านที่หุ่นเดียวกับแม่ของฟ้าให้ ไอ้ครั้นจะให้เสื้อผ้าตัวเองคงไม่ยอมใส่แน่
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็พากันมานั่งที่ห้องนั่งเล่น
“นี่ลูกเอ็งเหรอตะวัน” แดงก้มดูเด็กน้อยที่หลับอยู่ในเปล
“จ่ะ” ทานตะวันได้แต่ตอบไปสั้นๆ เพราะไม่รู้ว่าถ้าน้าแดงรู้ว่าลูกสาวมีลูกแล้วเหมือนกัน จะตกใจแค่ไหน
“ฮัลโหลฟ้า”
“ว่าไงตะวัน”
“คือ…มีคนมาหาฟ้าที่บ้านตะวันอะ” พอฟ้าได้ยินแบบนี้ใจมันก็เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ลึกๆ ก็แอบคิดว่าเป็นลูอิสแต่ก็ไม่แน่ใจ
“แล้วตะวันบอกเค้าว่าไง”
“ตะวันไม่ได้บอกอะไร รอให้ฟ้าคุยกันเอง” ทานตะวันตั้งใจจะเซอร์ไพรซ์เพื่อน แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนนั้นเข้าใจไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ไม่เอาอะตะวัน ฟ้าไม่คุย”
“เอ้าฟ้า คุยก่อนนะ ฟังเสียงก่อนแล้วค่อยว่าอีกที” พูดจบทานตะวันก็รีบส่งโทรศัพท์ให้กับแม่ของฟ้าทันที
“ตะวันฟ้ามะ…”
“โหลฟ้า” ฟ้าพูดไม่ทันจบประโยค พอได้ยินเสียงของอีกฝั่งใจมันก็วูบขึ้นมาทันที
“แม่ แม่ใช่มั้ย”
“เออ แม่เอง สบายดีมั้ย”
“แม่ แม่ไปอยู่ไหนมา แม่ทิ้งฟ้าทำไมอะแม่ แม่ แม่ได้ยินฟ้ามั้ย” ฟ้าดีใจจนพูดอะไรไม่ถูก สติหลุดโวยวายลั่น
“เออค่อยๆ พูดแม่ฟังไม่ทัน แม่อยู่กับตะวัน ฟ้าอยู่ไหน” ใจของผู้เป็นแม่พอได้ยินเสียงลูกสาวก็รู้สึกดีไม่ต่างกัน
“ฟ้าอยู่แม่ฮ่องสอน แม่สบายดีใช่มั้ย”
“เออ แม่สบายดี ฟ้าสบายดีมั้ยลูก”
“สบายดีแม่” แม่ลูกคุยกันอยู่นานในที่สุดฟ้าก็สรุปได้ว่าจะรีบบินมารับแม่ไปอยู่ที่ปายด้วยกัน โดยลูกๆ จะให้มะขิ่นกับอาจูดูแล รีบไปรีบกลับ ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง วันที่จะได้อยู่กับครอบครัวอีกครั้ง เพียงแค่นี้ก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว