ตอนที่1/9
วันนี้ท่านลุงและพี่กุ้ยฉ่ายมาช่วยซ่อมหลังคาบ้าน ท่านตาช่วยทำด้วย ส่วนท่านยายปักผ้าปิดหน้าให้ข้า
ท่านทำเผื่อหยาว หยาวด้วย ที่นางยอมใส่เป็นเพื่อนหลานสาวนาง ความจริงหยาวหยาวไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้
แต่นางยืนยันที่จะใส่เป็นเพื่อนข้า ตอนนี้ข้านั่งใกล้ๆท่านยาย อีกสองเดือนกว่าหิมะจะตกแล้ว ข้าควรเตรียมตัว ใช่ข้านึกแล้ว
เตรียมเสื้อผ้า เครื่องนอนในบ้านก่อน เอ…หรือจะสร้างบ้านก่อนแล้วจะเสร็จทันรึเปล่านะ ไม่ได้ต้องไปปรึกษาท่านตาก่อน
“ท่านยายข้าขอไปคุยกับท่านตาก่อนนะเจ้าคะ”
ท่านยายพยักหน้าแล้วยิ้มให้ข้า แกคงดูออกว่าข้ากำลังมีความคิดแปลกๆ ไปบอกท่านตา
“ท่านตาเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาหน่อยเจ้าค่ะ”
“มีอะไรลูก ไหนว่ามาสิ ตาแกคนนี้กำลังรอฟังเจ้าอยู่”
เขารู้ว่าหลานรักกำลังมีความคิดใหม่ๆที่จะทำออกมา
“ท่านตาเจ้าคะ ถ้าเราจะสร้างบ้านมันจะเสร็จก่อนหน้าหนาวที่จะมาถึงนี้รึเปล่าเจ้าคะ” นี่ไงเขาคิดไม่ผิด
“ถ้าจ้างคนเพิ่งก็เสร็จทัน เหลืออีก 2 เดือนกว่า การสร้างบ้านมันใช้เวลาไม่ถึงเดือนก็เสร็จแล้ว แต่มันก็อยู่ที่แบบบ้านด้วย เจ้าเตรียมไว้หรือยัง”
เขาถามไปแบบนั้น แต่จริงๆแล้วรู้ว่านางมีแบบแล้ว
“นี่ไงเจ้าค่ะ” นางได้ร่างแบบบ้านเหมือนที่จากมา
มันเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร มี 4 ห้อง ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ตรงกลางเป็นห้องโถงเอาไว้ทานเข้าหรือห้องนั่งเล่น
สองฝั่งจะเป็นห้องนอน ข้างละสองห้อง นางบอกว่าเอาไว้เป็นห้องเก็บของให้ท่านยายและนาง
ท่านตาไม่เข้าใจว่าห้องเก็บของทำไมใหญ่เท่าห้องนอน นางต้องอธิบายว่า ห้องนอนก็ส่วนห้องนอน
อีกห้องก็เป็นห้องแต่งตัวห้องเก็บเสื้อผ้าประมาณนั้น ท่านตาพยักหน้าเริ่มเข้าใจ ส่วนห้องครัวจะอยู่ข้างหลัง
“มันจะไม่สิ้นเปลืองไปหน่อยหรือลูก”ก็นางอยากใช้เงินน่ะชีวิตก่อนทั้งนางและน้องลี่เซี่ยงไม่มีโอกาสได้ใช้เงินเลย
“ท่านตาเจ้าคะ ลืมไปแล้วหรือ งั้นวันนี้เราไปขายสมุนไพรอีกสัก 10 ต้นเป็นไงเจ้าค่ะ”
“ครั้งก่อนที่เจ้าให้ตา ยังไม่ได้นำออกมาใช้เลย”
“อันนั้นท่านตาเก็บไว้เถอะเจ้าค่ะ เราไปขายรอบนี้จะนำมาสร้างบ้านและข้าจะไปบอกท่านปู่เยี่ยที่เอาชื่อท่านมาอ้างเจ้าค่ะ” ท่านตาตอบตกลง
นางรีบไปเตรียมตัว ท่านตาไปสั่งงานท่านลุงและไปบอกกล่าวท่านยาย
ก่อนออกจากบ้านนางให้ท่านยายทำแกงฟักเขียวใส่กระดูกหมูที่เราลมควันไว้เป็นกับข้าวตอนกลางวัน และผัดถั่วงอกกับหมูใส่ไข่ด้วย สองอย่างคงพอ
ท่านยายรับปากบอกว่าไม่ต้องห่วงท่านจะจัดการเอง
นางกับท่านตาเดินลงที่หมู่บ้านสุยเจียง ไปสายอีกตามเคยเพราะนางแท้ๆ
นึกได้แล้วลงทำเลย นี่คือวันวิสาตัวจริง นางบอกท่านตาว่าขากลับค่อยนั่งรถม้ามา
ท่านตาแบกตะกร้าให้นาง ส่วนนางถือถุงใบเล็กๆที่ท่านยายเย็บมาให้เอาไว้ใส่เหรียญอีแปะ
วันนี้นางใช้ผ้าปิดหน้าสีครีมไม่มีลวดลายอะไร ระหว่างที่เดินไปเจอชาวบ้านก็ทักทายท่านตาและส่งสายตาน่าสงสารมาให้นางด้วย เพราะแผลเป็นที่หางคิ้วปิดไม่ได้อยู่แล้ว ทุกคนก็เห็น
“คารวะท่านหวังลิ่วและคุณหนูหวังลี่เซียงขอรับ”หลงจู๊คนเดิม ยืนที่หน้าร้านเห็นพวกเราแล้วรีบเดินเข้ามาทักทาย
“เรียกข้าและหลานสาวข้าเหมือนแต่ก่อนเถอะหลงจู๊ พวกเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา”ท่านตาพูดขึ้น
“มิได้ขอรับ เถ้าแก่สั่งไว้ และยังบอกอีกว่าถ้าพวกท่านมาให้รีบไปบอกเถ้าแก่”
“งั้นก็ตามใจเจ้าวันนี้ข้าและหลานสาวได้นำสมุนไพรมาขาย”
“งั้นเชิญทั้งสองคนไปนั่งที่ห้องรับแขกขอรับ”
“รอบนี้พวกข้าได้มาเท่าเดิม หวังว่าเถ้าแก่เจ้ายังจะซื้อเหมือนเดิมนะ”
“ซื้อแน่นอนขอรับ คราวก่อนทางวังหลวงซื้อไปหมดเลย ขุนนางผู้ใหญ่คนอื่นไม่ทันซื้อเลยขอรับ เชิญนั่งครับ ข้าน้อยจะไปเอาน้ำชามาให้"
นางและท่านตามองหน้ากัน จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด ดูสายตาท่านตาก็รู้ว่าเป็นห่วงข้า
“ข้าให้พวกเจ้ารออีกแล้ว เห้อ เด็กๆพวกนี้ไปบอกข้าช้าเอง ว่ายังไงหวังลิ่วไปเข้าป่ากับหลานสาวมาหรือ คราวนี้ได้มันมากี่ต้นล่ะ” ท่านปู่น่ะมาถึงก็ถามๆๆๆ
“คารวะพี่เยี่ย, คาราวะท่านปู่เยี่ยเจ้าค่ะ” พวกเราทั้งสองคนลุกขึ้นทำความเคารพผู้อาวุโสกว่า
“นั่งๆ พวกเจ้ายังไม่ได้รับน้ำชาอีกหรือ แล้ว” สายตาสอดส่องหาหลงจู๊ แล้วเขามาพอดี
“น้ำชามาแล้วขอรับ…ขอโทษที่มาช้า พอดีหน้าร้านลูกค้าเยอะขอรับ” หลงจู๊ โดนสายตาของท่านปู่ดุเอาเขารีบออกไป555555 ท่านปู่ชอบแกล้งลูกน้อง ที่จริงแกใจดีนางรู้
“ท่านปู่เยี่ยข้าและท่านตาเข้าป่า ได้มาแค่ 10 ต้นเหมือนเองเจ้าค่ะ แต่รอบนี้ลำต้นจะอวบและสมบูรณ์กว่ารอบที่แล้วอีกนะเจ้าคะ” ตอนนั้นนางระบุว่าเอาต้นที่อวบๆ
“นี่ขอรับ” ท่านตาเอามันออกมาจากตะกร้า แต่สายตาท่านปู่เยี่ยเหมือนเห็นทองคำกองอยู่ตรงหน้ายังไงอย่างนั่นเลย
“นี่มัน…นี่มัน…โสม 500 ปีเชียวนะ พวกเจ้า พวกเจ้า ขอบใจมาก”
นางและท่านตกใจเพราะท่าทางท่านปู่เยี่ยนี่แหละ อีกอย่างโสมตรงหน้ามีอายุ 500 ปีเชียวหรือ
“พี่เยี่ย ข้าขอร้องท่านไม่ให้บอกใครว่าได้มาจากไหน”
“เจ้าไม่ต้องขอ ข้าก็ทำอยู่แล้ว พวกเจ้าสองคนสบายใจได้ อีกอย่างเราเป็นพี่น้องกันด้วย มีที่ไหนที่จะให้คนในครอบครัวเดือดร้อน”
“ขอบคุณท่านปู่มากนะเจ้าคะ,ขอบคุณพี่เยี่ยขอรับ”
“พอ พอ ไม่ต้องขอบคุณข้าแล้ว คราวก่อนข้าได้เงินมาไม่น้อย แต่คราวนี้ข้าไม่รู้จริงๆว่าจะซื้อในราคาเท่าไร
เอาอย่างนี้ข้าเอาตั๋วเงินให้เจ้า 100,000 ตำลึงทองไปก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน หรือจะให้ข้าเอาไปส่งให้ที่บ้านเจ้าดี”
พวกเราทั้งคู่ ไม่ได้ฟังที่ท่านปู่เยี่ยอธิบายอะไรสักอย่าง ในหัวมีแต่คำว่า 100,000 ตำลึงทองมันเยอะมากเลย ท่านปู่เยี่ยมองหน้าพวกเราทั้งคู่ แล้วบอกว่าดื่มน้ำชาก่อน
ส่วนนางได้สารภาพความจริงที่อ้างชื่อท่านปู่ ด้วยเรื่องที่พวกเรามีเงินต่อเติมบ้านและกำลังจะสร้างบ้านอีก
ว่าเงินส่วนนี้ท่านปู่เยี่ยได้มอบให้ท่านตา ท่านปู่เยี่ยบอกว่าอ้างชื่อแกได้ตามสบาย ท่านอนุญาต และจะช่วยพวกเราออกเงินสร้างบ้านด้วย
ท่านตารีบปฏิเสธ บอกว่าที่ได้มาวันนี้ก็ใช้ไม่หมดแล้ว ดูสายตาท่านปู่เยี่ยจะไม่ยอม
“งั้นเอาอย่างนี้นะเจ้าคะ วันที่เราขึ้นบ้านใหม่เชิญท่านปู่เยี่ยไปเป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาวบ้านที่จะมาขึ้นบ้านใหม่พวกเรา ดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ดี เอาอย่างเจ้าว่าก็ได้ วันนั้นปู่จะไปเป็นเจ้าภาพเอง”
เมื่อตกลงกันได้แล้ว ท่านตาถามท่านปู่เยี่ยว่าจะหาคนงานที่ไหน ท่านปู่เยี่ยแนะนำให้ไปที่ร้านขายอิฐ
แล้วให้นำจดหมายของท่านปู่เยี่ยไปด้วย ท่านปู่เยี่ยบอกว่ารู้จักกับเจ้าของร้านอิฐร้านกระเบื้อง ทางร้านมีช่างฝีมือดีๆอยู่แล้ว
ก่อนกลับท่านปู่ถามถึงใบหน้านางด้วย และเอายาสมุนไพร ให้ทาที่แผลเป็น นางรับไว้ด้วยความยินดี จะไม่รับก็กลัวท่านจะเสียน้ำใจ
วันนี้ท่านชวนพวกเราทานข้าวด้วย แต่ท่านตาบอกว่าต้องรีบไปร้านร้านกระเบื้องก่อน