แบล็คฝุ่น #3
:: ผู้ต้องสงสัย ::
แกร๊ก
เฮือก!
เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ปลายปากกระบอกปืนเย็นเฉียบจดจ่ออยู่ที่หน้าผากของฉัน สีหน้าดุดันบวกกับนิ้วชี้ที่กำลังจะเหนี่ยวไก ทำให้ร่างของฉันยืนแข็งทื่อราวกับวิญญาณได้หลุดออกจากร่างทั้งที่ฉันยังไม่ได้ตาย
“จะตอบดีๆ หรือจะตอบในขณะที่ฉันกำลังจะลั่นไก” ยกมือขึ้นทั้งสองข้าง ในหัวคิดแต่จะหาคำพูดที่มันจะไม่ทำให้ฉันตายในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆ ทำให้ฉันได้รู้ว่า ‘ผู้ชายคนนี้ อันตรายกว่าที่คิด’
“คือฉัน...” ฝุ่น ทำไมเสียงสั่นแบบนี้เล่า! “หลงค่ะ”
“หลง?” เอียงคอมองฉันด้วยสีหน้าจับผิด “ข้อแก้ตัวปัญญาอ่อน”
จากที่กลัวๆ อยู่ตอนนี้อารมณ์ขึ้นมาเลยแหะ ก็คนบอกว่าหลงจริงทำไมต้องไม่เชื่อ (แม้ว่าฉันจะโกหกก็ตามที) แต่ไม่เห็นจะต้องว่ากันแรงขนาดนี้เลยนะ “ฉันมาทำงานที่คลับคุณวันแรก ก็ต้องมีบ้างหรือเปล่าคะที่จะหลงทาง”
“...”
“อีกอย่างคลับคุณแบล็คก็มืด ฉัน... ฉันสายตาสั้นก็เลยมองทางไม่ค่อยชัด” อันที่จริงฉันสายตาสั้นนะ แต่ไม่ได้มากขนาดต้องใส่แว่นหรือคอนเทคเลนส์ ร่างสูงตรงหน้าที่ได้ฟังคำตอบก็ยังคงไม่ลดปืนลงแม้แต่นิด นี่เขาพกปืนแบบนี้... มันไม่ธรรมดาแล้วนะฝุ่น พี่ฟินทำงานกับคนอันตรายแบบนี้ได้ยังไงกัน!
ระหว่างที่ฉันกับคุณแบล็คกำลังยืนจ้องหน้ากันอยู่ ประตูห้องส่วนบุคคลก็เปิดขึ้น แน่นอนว่าฉันรู้สึกดีใจที่ได้เห็นคนที่เดินเข้ามาและเขามาได้จังหวะพอดิบพอดี “คุณแบล็ค”
พี่เขตเบิกตากว้างเมื่อเห็นฉันถูกเอาปืนจ่อที่หน้าผาก เขาก็รีบเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน แผ่นหลังกว้างที่อบอุ่นทำให้ฉันหายใจทั่วท้องขึ้นทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบจะลืมหายใจ “ใจเย็นนะครับ วางปืนลงก่อน”
น้ำเสียงของพี่เขตดูอ่อนลง ฉันจึงชะโงกหน้าจากแผ่นหลังเขาไปมองคุณแบล็คที่ลดปืนลงและเอาไปเหน็บไว้ด้านหลัง จากนั้นพี่ไผ่ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้ามึนงง “มีอะไรกันหรือเปล่าคะเนี่ย ทำไมมาอยู่ที่ห้องไผ่?”
“ตรวจดูเอกสารบนโต๊ะ” คุณแบล็คสั่งทันที
“คะ?”
“เร็ว!” เสียงตะคอกทำให้พี่ไผ่รีบกุลีกุจอไปยังโต๊ะของตัวเองและตรวจเอกสารที่ฉันเพิ่งจะรื้อค้นไปเมื่อกี้
“ไม่มีอะไรหายไปนะคะคุณแบล็ค” ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะฉันมีความสามารถอีกอย่างคือถ้ารื้อค้นของใครฉันจะเก็บมันเข้าที่ราวกับสิ่งนั้นไม่เคยถูกรื้อค้นมาก่อน (ทำบ่อยเวลาเข้าไปส่งงานอาจารย์ เพื่อดูคะแนนของตัวเอง)
แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่เชื่อใจ เขายังคงจับจ้องฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่มันน่ากลัวเหมือนเสือที่รอจะตะครุบเหยื่อหากเข้ามาใกล้ ฉันหลบอยู่ที่หลังของพี่เขตโดยไม่กล้าสบตากับเขาอีกเลย
“อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอทำอะไรเกินหน้าที่ที่ได้รับ” กลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเขาผลักร่างพี่เขตออกและเดินตรงมาผลักไหล่ฉันจนเซกระแทกกับกำแพงห้องจนเจ็บไปหมด
“คุณแบล็คครับ”
“หุบปาก” หันไปชี้หน้าพี่เขตซึ่งจะเข้ามาช่วยฉัน ทว่าคำสั่งของเขาคือเด็ดขาด ทั้งพี่เขตและพี่ไผ่ต่างก็พากันยืนออกห่างมีเพียงสายตาที่ห่วงใยส่งมาให้ฉันเท่านั้น
หมับ
“อึก จะ เจ็บ!” ฝ่ามือแกร่งบีบปลายคางฉันอย่างแรงจนเจ็บแก้มและสันกรามไปหมด
“ถ้ายังไม่อยากตาย” โน้มใบหน้าลงมาใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจที่ฉุนจมูก เนื่องจากกลิ่นเหม็นที่ว่ามันคือบุหรี่ที่ฉันไม่ชอบสักเท่าไหร่ “ทำตัวให้มันอยู่ในกรอบ”
“...”
“เพราะถ้าหลงบ่อยๆ ระวังจะตายไม่รู้ตัว!” ผลักใบหน้าฉันอย่างแรงจนล้มลงกับพื้น ฝ่ามือของฉันยกขึ้นลูบไล้แก้มตัวเองไปมาเจ็บชะมัดเลย! ถ้าไม่ติดว่าจะต้องตามหาพี่ฟิน ฉันคงไม่มาอยู่ที่นี่ให้ตัวเองถูกหมายหัวหรอก เงยหน้าสบตากับเขาที่ยืนกอดอกมองฉันอยู่ก่อนแล้ว “มองทำไม?”
คิดว่าฉันอยากจะมองหรือไง... หล่อแต่เลว หล่อแต่ร้ายแบบนี้ ฉันไม่อยากจะมองให้เสียสายตาหรอก
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” และคงจะมีแต่พี่เขตคนเดียวใช่ไหมที่ดีกับฉัน เขาเอียงคอมองพลางกวาดสายตามายังแก้มของฉันก่อนจะเอื้อมมือมาหวังจะแตะแก้ม
“เขต”
“ครับ” เชอะ ฉันกำลังจะเคลิ้มเลยนะ มาเรียกพี่เขตทำไมเนี่ย!
“ไปทำงาน” คุณแบล็คพยักเพยิดหน้าให้พี่เขตออกจากห้องไป จึงเหลือเพียงพี่ไผ่ที่ยืนมองเราสองคนอยู่ “กลับไปได้แล้ว”
เขาไล่ฉันจึงพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนต่อหน้าเขา อยากจะ... บีบคอจริงๆ แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด เพราะฉันเองก็ยังไม่อยากจะตายถ้าหากยังไม่เจอพี่ฟิน “ฉันเตือนแล้วนะ”
“...” ชะงักเท้าก่อนจะได้ออกจากห้อง
“ถ้ายังมาในที่ที่ไม่ควรมา เธอโดนไล่ออกแน่” หันไปมองเขาคอแทบหลุด ทว่าสายตาของคุณแบล็คทำเอาฉันได้แต่ยืนกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว “อยากโดนไล่หรืออยากตาย เลือกเอา”
“ฉันอยากทำงานที่นี่ค่ะ” ตอบกลับไป “จะไม่หลงอีกแล้วค่ะ สัญญา”
ใบหน้าหล่อเหลาไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น เขาก็เดินชนไหล่ฉันออกจากห้องพี่ไผ่ไป ส่วนฉันก็ยกมือไหว้เธอและเดินออกจากคลับเช่นเดียวกัน ขณะกำลังจะเดินกลับที่พักจึงเบนสายตามองไปยังรถหรูที่กำลังขับเคลื่อนออกไป แน่นอนว่ามันเป็นรถของคุณแบล็ค
“เกือบตายแล้วไงฝุ่น” ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พลางลูบไล้เนื้อตัวไปมาว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่จริงๆ “แบบนี้คงต้องทำงานไปก่อนสักพัก ให้เรื่องซาแล้วค่อยเริ่มตามหาพี่ฟิน”
ตอนนี้คุณแบล็คอาจจะเริ่มสงสัยในตัวของฉันแล้ว เพราะฉะนั้นคงต้องหยุดพักเรื่องนี้ซะก่อน... เพราะถึงยังไงฉันก็เข้าใกล้พี่ฟินมากขึ้นไปอีกก้าวแล้ว
:: BLACK TALK ::
คอนโดใจกลางเมืองชั้นที่สูงที่สุดเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ แสงสีจากตึกราบ้านช่องและท้องถนนทำให้บรรยากาศโดยรอบดีจนใจหาย ในมือขวาถือแก้วเหล้าวิสกี้ มือซ้ายคีบบุหรี่ที่กำลังปล่อยควันให้ลอยคลุ้งไปทั่วห้อง
‘ฉันอยากทำงานที่นี่ค่ะ’
น้ำเสียงเล็กๆ บวกกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่จริงจังทำให้ผมยกวิสกี้ดื่มจนหมดแก้ว ตามด้วยบุหรี่ที่สูบเอานิโคตินเข้าปอดเฮือกใหญ่พร้อมปล่อยควันออกจากริมฝีปาก ‘ฝุ่น’ เด็กคนนี้ที่ผมคิดว่าเธอคงเป็นนกต่อและเป็นคนของไอ้เซ้นส์ศัตรูทางด้านธุรกิจและด้าน ‘หัวใจ’ ของผม
เซ้นส์กับผมเราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนสมัยเรียน แต่หลังจากเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวกัน ผมกับมันก็กลับกลายเป็นศัตรูกันหรือนอกเหนือจากนั้นที่ทำให้เรากลายเป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะ ‘หนูนา’ เพื่อนรักของเรา เธอเป็นผู้หญิงที่สวย น่ารักและมองโลกในแง่ดีมาเสมอ กระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นผมที่ไม่เคยสนใจใครและมักจะเก็บตัว เหมือนคนที่อยู่กับความมืดมิดทว่าหนูนากลับเป็นแสงสว่างให้กับผมมาเสมอ เธอได้ตายจากผมไปทั้งที่เธอไม่สมควรตายด้วยซ้ำ
ฆ่าตัวตาย? ตำรวจสันนิษฐานไว้ แต่ว่า... ผมกลับไม่คิดแบบนั้นเลยสักนิด คนดีอย่างหนูนา คนที่สัญญากับผมไว้ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เธอไม่มีวันฆ่าตัวตายแน่นอนผมเชื่อแบบนั้น
เรื่องนี้ทำให้ผมเจ็บปวดจนแทบจะปิดตายตัวเอง คิดตามหาและสืบเรื่องเกี่ยวกับหนูนาว่าเพราะอะไร ทำไมคนดีๆ ที่เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตของผมถึงได้ต้องฆ่าตัวตายแบบนั้น สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมใจสลายเห็นจะเป็นร่องรอยของการมีเพศสัมพันธ์ของหนูนา หนูนาไม่เคยมีใครนอกจากผมและไอ้เซ้นส์ที่เป็นเพื่อนกัน ระหว่างผมกับเธอมันก็แค่ผมที่คิดชอบเธอเพียงฝ่ายเดียว
ไม่ช้าความจริงก็เปิดเผย ผมได้รู้เรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมัน... เกี่ยวกับไอ้เซ้นส์