บทที่ 1

1541 Words
‘สามเดือนนับจากนี้ ฉันขอให้คำสัตย์ปฏิญาณกับเก้ง กวาง บ่าง ชะนีทั้งหลาย ว่ายายครีมคนนี้จะต้องหาแฟนให้ได้ ก่อนที่... เลขสองของชีวิตจะกลายเป็นเลขสาม สวรรค์ขา ช่วยส่งเนื้อคู่ของหนูมาเกิดสักทีนะคะ พรีสสส... หนูไม่อยากขึ้นคานค่า’ ข้อความระบายทุกข์ถูกลงท้ายด้วยอีโมติคอนหน้าคนยิ้มแป้นแล้นหนึ่งรูป หน้าคนร้องไห้โฮอีกหนึ่ง และรูปหน้าเขินอายอีกหนึ่ง... มันอาจจะน่ารักสำหรับคนที่เข้ามากดไลค์และคอมเม้นท์ไว้ แต่สำหรับคนที่นั่งสอดแนมลับๆ อยู่ตอนนี้คงไม่คิดเช่นนั้น มือหนากร้านคล้ามแดดและแข็งแรงสมชายวัยฉกรรจ์ กำลังคลิกเม้าส์เลื่อนดูสเตตัสหนึ่งในเฟซบุ๊ก พร้อมใบหน้าหล่อคมที่เผยรอยยิ้มหยันตรงมุมปาก แลดูร้ายกาจอย่างที่ไม่ค่อยมีใครจะได้เห็นบ่อยนัก “หมื่น คนนี้แน่ใช่มั้ย” เสียงเข้มกระด้างร้องถามน้องชายเบาๆ แต่ก็มีอานุภาพมากพอให้คนเป็นน้องอย่าง ‘นับหมื่น สิงหโชติเดชา’ ชะโงกหน้าโหย่งตัวขึ้นมาดูหน้าแมคบุ๊กแวบนึง “อะ ใช่ครับ คนนั้นแหละพี่สาวน้องเนย” นับหมื่นตอบเสร็จก็กลับไปเอนตัวเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้เอนไม้คล้ายเปลเหมือนเดิม สองขายกขึ้นพาดโต๊ะตัวเตี้ยข้างหน้าแสนสบาย ตรงหน้าชานระเบียงที่ลมพัดเข้ามาเย็นฉ่ำ เยื้องจากโต๊ะทำงานที่พี่ชายนั่งอยู่นิดหน่อย บนวิวสูงประมาณตึกสามชั้น มองออกไปเห็นอาณาเขตของไร่เหนือฟ้าไกลลิบๆ “สาวแก่ทึนทึกสินะ” หนุ่มหน้าเข้มลูบคางตัวเองเบาๆ พร้อมครุ่นคิด... สงสัยเขาคงได้เวลาสังคายนาสารรูปตัวเองซะที... คนอย่างเขาหากคิดจะทำอะไรแล้วต้องทำจริง และหากอยากจะหว่านเสน่ห์ก็ต้องเอาให้ถึงขั้นละเมอเพ้อพก ไม่เป็นอันกินอันนอนเลยทีเดียว “โหยพี่ คุณครีมเขาก็แค่อายุมากกว่าน้องเนยสามปี อ่อนกว่าพี่แปดปี อ่อนกว่าผม กว่าไอ้พัน ไอ้สิบ หากเทียบกับพวกเราเธอยังดูเด็กอยู่ซะ ด้วยซ้ำ แถมหน้าตาอย่างนั้น...” นับหมื่นชี้นิ้วไปที่หน้าจอแมคบุ๊กอย่างต้องการจะยืนยันคำพูดตัวเอง “บอกผมว่าเธอสิบเจ็ดสิบแปด ผมก็เชื่อ” “ฉันว่าน่าจะสวยแต่รูปโปรไฟล์มากกว่า ไม่อย่างนั้นคงมีใครสักคนเอาไปทำเมียแล้ว ไม่มาร้องโวยวายว่าตัวเองโสดอยู่แบบนี้หรอกมั้ง” นับหมื่นฟังคำพูดของพี่ชายที่มีแต่แง่ลบแล้วให้ส่ายหน้าเบาๆ อย่างรู้ทันกัน ‘นับแสน สิงหโชติเดชา’ หรือ ‘นายแสน’ แห่งไร่เหนือฟ้า ไร่กล้วยไม้ กุหลาบ พืชดอกและพืชเศรษฐกิจหลายชนิดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคนนี้คือพี่ชายของเขา คนที่จริงจัง และเด็ดขาดไปเสียทุกเรื่อง ปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจก็เป็นที่หนึ่ง หากนับแสนบอกไม่ นั่นแปลว่าใช่ ! แต่ถ้าหากเงียบ ไม่พูดอะไรเลย ก็ยากเกินจะคาดเดาว่านับแสนคิดอะไรอยู่ อย่างเรื่องที่เกิดเมื่อ 5 ปีก่อนระหว่างนับแสน กับ ‘น้องเนย’ หรือ ‘เนติกา บุษยากร’ สาวน้อยน้องใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่นับแสนจบการศึกษามา เนติกา กับนับแสนคือพี่บัณฑิตและน้องเฟรชชี่ที่มีใจให้กัน คบหากันมาหวานชื่นกว่า 4 ปี จนเนติกาเรียนจบ ตอนนั้นพ่อและแม่ของเขากับนับแสนประสบอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้พวกเราสูญเสียพวกท่านไปพร้อมๆ กัน ในฐานะที่นับแสนเป็นพี่คนโตจึงถูกเรียกตัวกลับมา ‘เหนือฟ้า’ เพื่อรับต่อช่วงกิจการของครอบครัว พี่ชายเขาเลยตัดสินใจขอเนติกาแต่งงาน หลังจากนั้นสามวัน หญิงสาวก็โทรกลับมาปฏิเสธ ด้วยเหตุผลกำกวมที่ว่าเธอยังไม่พร้อม ไม่แน่ใจเรื่องการแต่งงาน และพี่สาวเธอแนะนำว่าให้ตอบปฏิเสธไปซะเพราะ เนติกายังเด็ก และอาจถูกหลอกได้ง่ายๆ ตอนนั้นเนติกาไม่ได้ตั้งใจจะตัดขาดความสัมพันธ์กับพี่ชายเขา แต่นับแสนผิดหวังรุนแรงจนไม่ติดต่อกลับไปหาทางนั้นอีกเลย... จากที่เป็นเสือยิ้มยากอยู่แล้ว ตอนนี้นับแสนเลยยิ่งยิ้มน้อยเข้าไปใหญ่ “ก็ไม่นะ วันก่อนผมไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ เจอคุณครีมเข้าพอดี ต้องยอมรับเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆ สวยจนผมต้องเหลียวหลังเชียวละ แล้วก็ไม่ใช่ผมแค่คนเดียวด้วยนะ เพื่อนผมที่เป็นเจ้านายคุณครีมยังชอบเธอเลย ผมมองออก” นับหมื่นไม่ได้ว่าเกินจริงแต่อย่างใด วันก่อนเขาเข้าไปทำธุระในกรุงเทพฯ และเพิ่งรู้ว่าหญิงสาวทำงานที่บริษัทเพื่อนรักของเขา นับหมื่นจำเธอได้เพราะครั้งหนึ่งเคยไปรอเจอเนติกาที่บ้านแถวชานเมือง แต่วันนั้นเขาไม่ได้เจอเนติกา แต่เจอพี่สาวของเจ้าหล่อนแทน... และคาดว่า ‘คาริสา’ คงจำเขาไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนไม่ได้แสดงทีท่าใดออกมา นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วด้วย “ดี ! สวยๆ ก็ดี… จะได้ทนทำใจกระเดือกลงหน่อย” ประโยคหลังเจ้าของไร่เหนือฟ้าไม่ได้เอ่ยออกมา เพราะขืนพูดออกไป เจ้าน้องชายผู้แสนดี เห็น (หน้า) อกเห็น (หน้า) ใจผู้หญิงเป็นที่หนึ่งของเขาคงไม่ยอมแน่ๆ “เออ แล้วพี่อยากจะรู้เรื่องของคุณครีมทำไม พี่แสนยังไม่ได้บอกผมเลยนะ” นับหมื่นถามพร้อมๆ กับหยิบขนมในถาดที่เด็กรับใช้เอามาเสิร์ฟให้พร้อมชายามบ่ายแก่ๆ “แล้วแกคิดว่ายังไงล่ะ” ฟังจากน้ำเสียงและดูจากแววตาแล้ว นับหมื่นจะไปคิดอะไรได้ “อย่าบอกนะว่าพี่จะแก้แค้นคุณครีมน่ะ ปล่อยเธอไปเถอะเชื่อผม เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งสี่ห้าปีแล้ว ตอนนี้ผมก็ไม่เห็นว่าพี่จะเดือดร้อนอะไรเรื่องน้องเนยแล้วนี่” ถ้ายกเว้นเรื่องที่พี่ชายเขาไม่ยอมมีใครสักทีน่ะนะ ซึ่งเรื่องนี้เขาเองก็ไม่กล้าฟันธงว่ามันเป็นเพราะเนติกาหรือเปล่า ? “เรื่องอะไร ฉันปล่อยให้แม่นั่นเสวยสุขมาตั้งหลายปี ถึงเวลาเอาคืนสักที !!” สายลมที่พัดโชยเอื่อยเข้ามาที่ระเบียงไม้บนเรือนใหญ่ท้ายไร่ เหนือฟ้า เย็นสบายและพาความคิดบางอย่างไหลเข้ามาในหัวนับแสนราวสายน้ำหลาก ... อยากได้ผัวจนตัวสั่นใช่มั้ย เดี๋ยวพ่อจะจัดให้ ! “ครีมจ๋า วันนี้จะไปไหนหรือเปล่าเอ่ย แต่งตัวซะหวานจ๋อยเย็นเจี๊ยบขนาดนี้ ปกติก็น่ารักจนพี่ๆ ดูจืดกันหมดอยู่แล้วนะ ขืนครีมลุกขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้ทุกวัน มีหวังพี่จะขายไม่ออกแน่แล้ว” ‘หวานขนาดนี้’ ของชฎาพรเพื่อนรุ่นพี่ในที่ทำงานของคาริสาคือผู้หญิงรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นส่วนที่ควรเว้าก็เว้า ส่วนที่ควรมีก็มีเสียจนน่าอิจฉา สวมใส่ชุดกระโปรงแขนตุ๊กตาสีขาวความยาวแค่หัวเข่า ชายกระโปรงบานพลิ้วน้อยๆ ปล่อยความยาวของผมสีน้ำตาลเข้มละมาจนถึงบั้นเอว พร้อมกับการแต่งหน้าอ่อนๆ เน้นโทนชมพู... เธอก็เข้าใจว่าคาริสาเป็นคนสวยหวาน แต่เท่าที่ทำงานร่วมกันมากว่า 7 ปี หญิงสาวผู้นี้ไม่ค่อยได้พิถีพิถันในการแต่งตัวเหมือนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยนี่นา “ไม่ได้มีธุระที่ไหนหรอกค่ะ แต่ครีมต้องเตรียมพร้อมไว้ค่ะพี่พร” เสียงหวานกังวานใสบอกกับเพื่อนรุ่นพี่ “เตรียมตัว ?” “ใช่ค่ะพี่พร ครีมต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อต้อนรับเนื้อคู่ ใครจะรู้คะเผื่อตอนออกไปกินข้าวกลางวัน ตอนเดินออกจากบริษัท หรือตอนที่มีลูกค้ามาติดต่องาน เนื้อคู่ของครีมอาจจะอยู่ในคนกลุ่มนั้นก็ได้” สาวโลกสวยยกมือขึ้นมากุมท่วมอก ทำท่าวิงวอนตาวิ้งๆ ประกอบคำพูด “โอ๊ย... แม่คุณ อีพี่ก็นึกว่าที่ขึ้นเฟซวันก่อนนี่แค่ขำๆ อย่าบอกพี่นะ ว่าจะเอาจริงน่ะ” คาริสาพยักหน้าหงึกหงักหลายครั้ง เพื่อยืนยันคำตอบ “เป้าหมายมีไว้พุ่งชนค่ะ ตอนเรียนครีมก็สนแต่เรื่องเรียน พอจบมาได้งานก็สนแต่เรื่องเลื่อนตำแหน่งขึ้นเงินเดือน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็แทบไม่ทันซะแล้ว ยังไงตอนนี้ครีมก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสาวเลขสองอยู่ ครีมจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปอีกแล้วค่ะ” ชฎาพรทั้งทึ่งทั้งเหนื่อยใจกับแม่สาวน้อยตรงหน้า ผิดกับอีกหนึ่งสาวโสดที่ก้าวเข้ามาในออฟฟิศพอดีพร้อมเสียงปรบมือรัวๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD