พราวมุกกอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่แต่ยังจ้องมองเสื้อตัวนั้น ตานั้นตัวสูงและไหล่กว้างขนาดนี้เลยเหรอ ดูเหมือนเขาจะตัวใหญ่กว่าบอสของเธอเสียอีก จะว่าไปก็เป็นผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง แต่ไม่ว่าเขาทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเจอเขาที่บ้านพ่อ หน้าตาดูซื่อๆ จะเดินเข้าออกบ้านของพ่ออย่างกับเป็นคนหนึ่งในบ้าน เธอก็รู้อีกนั้นแหละเพราะพลอยมุกไม่เคยปิดบังอะไร พ่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้คิมหันต์ เธอเคยเห็นลูกศิษย์พ่อมาที่บ้านอยู่หลายครั้ง แต่เขาทำเหมือนเป็นคนในครอบครัว แม้กระทั่งพลอยดาวซื้อของเข้าบ้านก็ยังอาศัยคิมหันต์ขับรถมาส่ง เป็นเธอต่างหากที่รู้สึกเป็นส่วนเกิน คงเพราะเหตุนี้ละมัง? เธอถึงไม่ค่อยชอบหน้าตาคิมหันต์นัก
หญิงสาวส่ายหน้าไปมา ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อตัวนั้นไว้บนเตียง เดินหาถุงกระดาษสวยๆ แล้วเอาเสื้อใส่ถุง ตั้งใจว่าตอนเช้าจะหิ้วไปใส่ในรถไว้ จะได้ไม่ลืม เจอหน้าเมื่อไหร่ก็คืน แต่พอหยิบมาแล้วก็นึกไม่อยากคืนเสียอย่างนั้น เธอไม่ชอบเขาจริงๆ หรือเปล่านะ หรือจริงๆแล้วเธอก็ชอบเขานั้นแหละ แต่เพราะเห็นเขาสนิทกับพลอยมุกมาก เธอถึงได้กลัวว่าจะเป็นรักสามเส้า แต่ตอนนี้พลอยมุกคบกับบอส ของเธออยู่ เธอกลัวว่าเขาจะเห็นเธอเป็นแค่ตัวแทนของพลอยดาว
“ว้อย!” พราวมุกร้องโวยวายอยู่คนเดียว “นี่มันไม่ใช่ตัวเธอเลย! ลำไยเธอจริงๆ ยัยพราวมุก! จะเข้าไปจีบก็จีบไปเลยสิ! ยังไงฉันก็โสดอยู่แล้วเขา...เอ่อ...โสดหรือเปล่า หรือเป็นพวกโสดแต่หัวใจไม่ว่าง”
พราวมุกดีดตัวเองขึ้นจากที่เตียงแล้วหยิบมือถือมาลอง ‘ส่อง’ เฟซบุ๊คของคิมหันต์ เรื่องแต่งงานนั้นนะ เธอมั่นใจว่าเขายังไม่ได้แต่งงาน แต่มีใครที่คบหรือคุยอยู่หรือเปล่า อันนี้เธอไม่แน่ใจ เขาเป็นผู้ชายประเภทใจดีกับผู้หญิงทุกคน สิ่งที่เขาทำให้เธอก็อาจแค่เพราะเธอคือพราวมุก ลูกสาวอาจารย์วิทยา หรือต่อให้เป็นผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้จักแต่อยู่ในสถานการณ์นั้น เขาก็ต้องยื่นมือเข้าช่วย เป็นคนดีจนน่าหมั่นไส้เสียจริง จากที่คิดจะพับเสื้อเชิ้ตอย่างดี เธอเผลอขยุ้มเสื้อจนยับยู่ยี่ ดีที่รู้ตัวทันไม่งั้นเธออาจพลั้งมือทำเสื้อขาดแน่ พราวมุกสะบัดๆ เสื้อในมือแล้วดูที่คอปกเสื้อ ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยแล้วเพ่งดูอีกที
“อือหือ อีตานี่ใส่เสื้อแบรนด์เนมด้วย” เธอเอียงคออย่างสงสัย “เงินเดือนอาจารย์มหา’ลัยเท่าไหร่กันนะ โอ๊ย! ตายแล้ว! เดี๋ยวเข้าใจผิดว่าดูถูก เอาเป็นว่าอีตานี้ก็มีรสนิยมดีเหมือนกันนะเนี้ย”
แต่เธอเผลอขย้ำเสื้อจนยับขนาดนี้ คงจะต้องรีดให้ใหม่แล้วล่ะ พราวมุกเบ้ปากใส่เสื้อเจ้าปัญหาแล้วคิดจะลุกขึ้นไปรีดเสื้อให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานเพราะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถึงเธอจะชอบทำงานแต่ไม่ได้หมายความว่าทำทุกวันไม่ได้หยุดพัก แต่หยุดแค่วันเดียวจึงไม่คิดจะไปเที่ยวอะไร เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น พราวมุกดูชื่อคนโทรเข้าแล้วกดรับสาย
“ว่าไงจ๊ะมิลลี่” พราวมุกทักทายเพื่อนสาว เธอรู้จักมิลลี่ตอนที่เธอยังอยู่ต่างประเทศ มิลลี่เป็นนักเรียนไทยที่มาเรียนซัมเมอร์ แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่า
“อะไรคือว่าไง อย่าบอกว่าลืมนัดนะ”
“เอ่อ...” พราวมุกขมวดคิ้ว ไม่เอาน่า คนอย่างเธอไม่น่าจะลืมอะไรนะ บอสยังชมว่าเธอทำงานเก่งเลย
“ปาร์ตี้คืนนี้ไง”
“คืนนี้” พราวมุกหันไปมองปฏิทิน เธอจดไว้ก็จริง แต่เพราะเธอไม่ได้รับปากว่าจะไป ก็เลยไม่ได้ลงในบันทึกงานของเธอ
“มาเร็วๆ รออยู่ พรุ่งนี้วันหยุดนี้” มิลลี่เร่ง “อยู่เมืองไทยแล้วแท้ๆ ยังจะตามตัวยากอีก มาให้ไวเลยนะ มาถูกหรือเปล่า เรียกแกร๊ปไปรับให้นะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมุกไปเอง”
“ไม่เอา เดี๋ยวเธอเบี้ยวนัด ฉันเรียกแกร๊ปไปรับให้เอง แต่งตัวสวยๆแล้วมานั่งรอเลย”
“ก็ได้ๆ งั้นเดียวเจอกัน”
“โอเค.”
พราวมุกรู้ว่ามิลลี่ไม่ชอบถูกขัดใจ เธอเป็นลูกสาวเศรษฐี ถึงจะเอาแต่ใจไปหน่อยแต่เรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นคอนเนทชั่นที่ดีสำหรับเธอด้วย หญิงสาวยักไหล่แล้วโยนเสื้อเชิ้ตทิ้งไว้บนเตียง รีบเดินไปหยิบชุดกระโปรงมาเปลี่ยน ดีที่อาบน้ำแล้วจึงไม่ใช้เวลามาก จัดผมเสียหน่อย แต่งหน้าอีกนิดตามด้วยพรมน้ำหอมให้ฟุ้ง แค่นี้ก็สวยเสร็จได้ในสิบห้านาที เธอออกมารอรถที่หน้าคอนโค รถเก๋งคันหรูกดแตรเรียกพร้อมกับกระจกรถที่เลื่อนลงมา พราวมุกขมวดคิ้วไม่คิดว่าแกร๊ปที่มิลลี่พูดถึงจะเป็น...
“แฟรงค์?” เธอมองชายหนุ่มที่ลงมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูรถให้เธอด้วยตัวเอง
“ไง ทำไมทำหน้าเหมือนลืมกัน” ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันส่งยิ้มกว้าง
“นายมารับฉันเหรอ”
“อื้ม มิลลี่บอกว่าถ้าอยากเจอเธอให้มารับที่คอนโด”
พราวมุกฉีกยิ้มให้ แฟรงค์เป็นลูกพี่ลูกน้องของมิลลี่ ก๊วนของมิลลี่เป็นพวกลูกเศรษฐีทั้งนั้น แตกต่างจากเธอลิบลับ แต่มิลลี่กับเพื่อนๆ นิสัยดี คบง่าย ไม่ใช่พวกคุณหนูแล้วเหยียดคนอื่นแบบในละครหรือนิยาย แค่มีเงินเยอะแล้วอยากทำอะไรก็ทำ เหมือนนัดปาร์ตี้กันคืนนี้
“ไปเถอะ” แฟรงค์คะยั้นคะยอ เขารู้ว่าพราวมุกไม่เหมือนคนอื่น สาวเอเชียที่มีใบหน้าสวยหวานแต่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ เขาชอบเธอและเคยพูดกับเธอไปแล้ว แต่คำตอบนั้นที่ได้รับคือเธอไม่คิดอะไรกับเขาเลยสักนิด ก็น่าแปลกที่เธอพูดตรงไปตรงมาขนาดนี้แล้ว เขาไม่โกรธเธอ แต่กลับชอบมากขึ้นอีก
พราวมุกเข้าไปนั่งด้านในแล้วรีบรัดเข็มขัดนิรภัยด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้แฟรงค์ยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงยิ้มแล้วเดินอ้อมรถมาฝั่งคนขับ และเครื่องรถออกไป