คำถามจากน้ำเสียงทุ้มห้าวทว่าลุ่มลึกที่ดังขึ้นทำให้ดาราวดีที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาบุหนังเหลือบมองบอดี้การ์ดคนใหม่ของเธออีกครั้ง ตอนนี้ภายในห้องกว้างมีเพียงเธอและเขาเท่านั้น โดยปกติหญิงสาวจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนซึ่งเฟอร์นันโดจัดมาเพื่อคอยติดตามดูแลไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนหรือเดินทางไปที่ใด หากแต่วันนี้หญิงสาวกลับรู้สึกแปลกเปลี่ยนมากกว่าที่เคย อาจเป็นเพราะเธอยังไม่ชินกับผู้อารักขาคนใหม่กระมัง ดาราวดีทำสีหน้าเหมือนครุ่นคิดชั่วอึดใจ เธอเลื่อนสายตากลับไปยังบอดี้การ์ดร่างสูงสง่า ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและออกจะเครียดขรึมด้วยซ้ำ ยิ่งประกายตาสีน้ำตาลอมเทาเข้มคู่นั้นยิ่งขับความคมคร้ามของใบหน้าหล่อเหลาชัดเจน
“อืม...ฉันอยากไปร้านหนังสือน่ะค่ะ คุณรู้หรือเปล่าคะว่าในนิวยอร์คมีร้านหนังสือดี ๆ ที่ไหนบ้าง”
“ผมจะพาคุณยูบีอาไปครับ”
ชายหนุ่มตอบก่อนจะหันหลังให้และเปิดประตูออกขณะยืนรอหญิงสาว ดาราวดีรู้สึกแปลกใจในท่าทีของเขา ดูเหมือนโธมัสแทบไม่ต้องใช้เวลาคิดนานในการให้คำตอบ ร่างบางลุกจากที่นั่งและเดินตามบอดี้การ์ดของเธอตรงไปยังลิฟท์ความเร็วสูงเพื่อไปยังลานจอดรถของตึกไดมอนด์ เฟอร์รี่ โธมัสมีหน้าที่เป็นคนขับรถเมอร์เซเดส เบนซ์ กันกระสุนพาลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่อย่างเฟอร์นันโดออกสู่ถนนที่การจราจรคับคั่งในเขตควีนส์ กรุงนิวยอร์คซิตี้ เมื่อรถแล่นไปได้สักพักดาราวดีซึ่งนั่งอยู่บนเบาะด้านหลังจึงเอ่ยขึ้น
“โธมัส...คุณเป็นชาวนิวยอร์คหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ครับ...ผมมาจากกรีซ”
หญิงสาวเลิกคิ้ว “จริงเหรอคะ? คุณเป็นชาวกรีก อย่างนั้นเหรอคะ?”
“ครับ...บ้านของผมอยู่บนเกาะครีต”
“แล้วทำไมคุณถึงมาทำงานถึงที่นี่ล่ะคะ”
โธมัสชะลอความเร็วรถเล็กน้อย ชายหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวร่างบอบบางที่นั่งอยู่ด้านหลังผ่านทางกระจกหน้า เธอกำลังจ้องเขาอยู่ด้วยแววตาแสดงความอยากรู้
“ผมอยากทำงานที่ท้าทาย นิวยอร์คเป็นสถานที่ที่ท้าทายสำหรับผม”
“คุณคิดถึงบ้านบ้างหรือเปล่าคะ...เอ้อ...ขอโทษทีนะคะที่ซักไซ้คุณแบบนี้”
“ไม่เป็นไรครับ...คุณถามและผมมีหน้าที่ตอบ”
“จริง ๆ แล้วฉันมีแพลนว่าจะไปเรียนต่อที่นั่นปีนี้ค่ะ...แต่พอคิดดูอีกทีฉันรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม”
ดาราวดีกล่าวออกมาเหมือนพูดกับตัวเองลอย ๆ ขณะดวงตาคู่งามจ้องมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถที่มีแต่ยานพาหนะเต็มท้องถนน ดวงหน้าสวยหวานใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลเป็นคลื่นอ่อนงดงามยามแสงแดดบางเบาลอดฟิล์มกระจกหน้าต่างเข้ามาอาบไล้ เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทุกอิริยาบถอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่เหลือบมองในแทบทุกวินาทีที่เธอเผลอไผล หญิงสาวไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอมเทาเป็นประกายทุกครั้งที่สะท้อนภาพความงามเปล่งประกายนั้นไว้ สันกรามแกร่งบนใบหน้าคมคายนูนขึ้นเล็กน้อย
“กรีซเป็นประเทศที่เยี่ยมยอดมาก ที่นั่นมีเรื่องราวมหัศจรรย์มากมาย...ขอโทษนะครับ คุณยูบีอา ชื่อของคุณเป็นชื่อเกาะหนึ่งของกรีซ”
ประโยคนั้นของชายหนุ่มดึงสติที่ล่องลอยของดาราวดีกลับมาอีกครั้ง หญิงสาวเลื่อนสายตากลับมามองเขา เธอเห็นสายตาของเขาผ่านทางกระจกด้านหน้า
“พ่อชอบเรียกฉันแบบนั้น มันเป็นชื่อที่ท่านเรียกฉันตั้งแต่เกิด...แม่ตายตอนที่ฉันพึ่งคลอดได้ไม่กี่วัน”
“ท่าทางคุณเฟอร์นันโดจะหวงคุณมากนะครับ...คุณยูบีอา”
“มากเกินไปด้วยซ้ำ...ฉันไม่ค่อยได้ไปไหนอย่างวัยรุ่นทั่วไป บางทีฉันต้องทำความเข้าใจว่าพ่อเป็นนักธุรกิจใหญ่ ท่านมักพูดเสมอว่ากลัวมีคนปองร้าย”
นัยน์ตาเข้มมีบางอย่างสว่างวาบ มือหนาใหญ่ที่กำพวงมาลัยไว้เกร็งเล็กน้อยจนเห็นเส้นเอ็นดันขึ้นมา โธมัสยิ้มในหน้าถ้าหากสังเกตให้ดีมันแฝงไว้ด้วยความเหี้ยมเกรียมในรอยยิ้มนั่น
“แล้วคุณยูบีอา...กลัวหรือเปล่าครับ?”
“บางทีฉันคิดว่าพ่ออาจกังวลเกินไป...อย่างน้อยที่สุดฉันก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหนนี่คะ”
“อย่าไว้ใจอะไรมากเกินไปครับ...บางครั้งความไว้ใจมันอาจจะนำพาหายนะมาให้เราโดยไม่คาดคิด”
“ขอบคุณนะคะโธมัส...ฉันรู้ค่ะว่าคุณหวังดีเพราะคุณทำงานแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่อยากมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอมเทาหรี่ลงเล็กน้อย ภาพเงาสะท้อนในกระจกที่บอดี้การ์ดหนุ่มเห็นด้านหลังคือตัวตนของหญิงสาววัยสิบแปดผู้งดงามราวเทพี ปฏิเสธไม่ได้ว่าความงามของเธอสะกดใจเขาตั้งแต่แรกเห็น นี่คือ ดาราวดี เบนฟอร์ด บุตรสาวบุญธรรมของเจ้าพ่อค้าหุ้นระดับโลกที่หน้าตาของเธอไม่มีอะไรเหมือนเฟอร์นันโดเลยแม้แต่น้อยเพราะเธอมีสายเลือดเอเชียร้อยเปอร์เซ็นต์และฟังจากถ้อยคำพูดดูเหมือนดาราวดีเป็นเด็กสาวช่างฝัน หากเหตุผลที่บิดาบุญธรรมนำเธอมาชุบเลี้ยงแต่อ้อนแต่ออกยังเป็นปริศนาที่น่าสงสัย
บอดี้การ์ดหนุ่มเผลอจับพวงมาลัยรถไว้แน่น ทั้งที่ก่อนทำงานนี้เขาตั้งปณิธานไว้แน่วแน่ว่าจะทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จลุล่วงแต่โธมัสก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอยามเผลอในหลายครั้งแม่มันจะไม่ได้อยู่ในแผนที่เขาวางไว้ก็ตาม หลายหนที่เขาจ้องผู้หญิงคนนี้นานเกินกว่าห้านาที