ความไม่ลงรอย

2133 Words
“สวัสดีค่ะคุณท่าน พอดีฟ้ามาหาพริ้มน่ะคะ ว่าจะพาไปเดินซื้อของกัน” “อ่าว หนูฟ้า มานั่งก่อนมา พริ้มยังไม่ตื่นเลยลูก สงสัยเมื่อคืนนอนดึก มานั่งคุยกับลุงก่อนมา” คุณวัลลภที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ กวักมือเรียกให้ เอื้องฟ้า หรือ ฟ้า เพื่อนสนิทของมัลลิกาเข้ามานั่งข้างตน เพราะทั้งสองรู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีและหญิงสาวก็เดินฉีกยิ้มกว้างไปหาก่อนจะนั่งข้างกายผู้ที่ตนนับถือไม่ต่างจากเพื่อนสาว จากนั้นทั้งสองก็คุยเรื่องนี้เรื่องโน้นจนเสียงหัวเราะดังออกมานอกห้องนั่งเล่น ทำเอาขาที่กำลังจะก้าวผ่านหยุดชะงัก ก่อนจะเดินกลับมาส่องดู “ยัยทอมนี่หว่า มาทำไม” เดลโก้เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นเอื้องฟ้ามาที่บ้านของเขาเลยสักครั้ง แล้วทำไมวันนี้โผล่มาได้ ทันกับความคิดขายาวก็ก้าวเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นทันที “อะแฮ่ม คุยอะไรกันครับ เสียงดัง คงตื่นกันทั้งบ้านแล้งมั้ง” เสียงพูดกวนๆดังขึ้น ทำเอาสองเสียงที่กำลังคุยสนุกถึงกับหยุดลงมองมาที่บุคคลที่สามทันที เอื้องฟ้ามองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เพราะแค่เห็นหน้าเธอก็อยากฟาดปากสีแดงของเขาให้เลือดอาบให้สมกับความปากเสียของเขา ส่วนคุณวัลลภก็มองทั้งสองคนอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “อ่าว ทำไมเงียบกันเลยละครับ ผมเข้ามาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า” “หึ รู้ว่าเข้ามาขัด ยังไม่เดินออกไปอีก” พอเดลโก้พูดจบ เอื้องฟ้าก็พูดดักขึ้นทันที ทำเอาชายหนุ่มถึงกับเริ่มไม่พอใจ เดินเข้ามานั่งลงข้างบิดาทันที “นี่มันบ้านของผม ผมจะเดินไปไหนก็ได้ ส่วนคุณไม่ใช่” “นี่มันบ้านของฉันต่างหาก เรามันก็แค่ผู้อาศัย แล้วไปว่าหนูฟ้าอย่างนั้นได้ยังไง เธอเป็นแขกของฉันนะ” คุณวัลลภพูดออกมาอย่างนึกขันลูกชายตัวดี ที่อยู่ๆก็เดินเข้ามาหาเรื่องเอื้องฟ้าเอาเสียดื้อๆแบบนั้น จนเดลโก้หันไปหาบิดาของตน เพราะไม่พอใจที่ไม่เข้าข้างเขาที่เป็นลูกแท้ๆ “ถ้าอย่างนั่นฟ้าขอตัวกลับก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวเรื่องยัยพริ้มฟ้าจะโทรมาให้ออกไปเจอกันดีกว่าค่ะ ฟ้าลานะคะคุณลุง สวัสดีค่ะ” เอื้องฟ้ารีบลุกขึ้นเอ่ยลาเจ้าของบ้านทันทีพร้อมกับเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้มีหวังเธอได้วางมวยกับเดลโก้แน่นอน ส่วนเดลโก้ที่ยังไม่ยอมแพ้รีบลุกเดินตามไปทันที ทำเอาคุณวัลลภที่พยายามเรียกเอาไว้แต่ไม่ทันได้แต่ส่ายหัวกับบุตรชายคนเล็ก “นี่คุณเดี๋ยวก่อนจะรีบไปไหน ทำอย่างกับผมเป็นตัวเชื้อโรค” “นี่คุณ!!! ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้ อย่าหาว่าไม่เตือน!” เสียงขู่ดังขึ้นเมื่อแขนเล็กถูกชายหนุ่มที่เดินมาจนทันจับเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เธอเดินหนี ก่อนเดลโก้จะรีบปล่อย เพราะรู้สรรพคุณเพื่อนของมัลลิกาคนนี้ดี เพราะเขาเคยโดนเธอจับทุ่มกับพื้นมาแล้ว และที่รู้มาคือ บ้านของเธอเปิดค่ายมวยเสียด้วย “ผมก็ไม่ได้อยากแตะต้องสักหน่อย ทอมๆแบบนี้พิศวาสไม่ลง ดูตรงไหนก็ตรงไปหมด ไหนหน้าไหนหลังมองแทบไม่ออก...โอ๊ย!!” พอได้ยินในสิ่งที่เขาพูด เอื้องฟ้าถึงกับหมดความอดทน กระโจนปล่อยหมัดเข้าที่หน้าหล่อๆของเดลโก้ทันที ทำเอาชายหนุ่มที่ยังไม่ทันตั้งตัว ถึงกับเซล้มลงไปนั่งอย่าหมดท่า ก่อนจะรีบลุกขึ้นมา “นี่เธอ!!! กล้ามากเลยนะที่มาทำร้ายร่างกายเจ้าของบ้าน โอ๊ย ซี๊ด อยากโดนจับเข้าคุกรึไงห๊ะ” “หึ จ้างให้ฉันก็ไม่กลัว แม่ฉันเป็นตำรวจ จับได้แม่ฉันก็พาออกมาได้ ทีหลังจะได้หัดจำเอาไว้ว่าอย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก อย่างนายขาอ่อนก็ไม่ได้เห็นของฉันหรอกย่ะ ชิส์” พูดจบก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้เดลโก้ได้แต่มองตามอย่างแค้นเคือง ที่ดันโดนผู้หญิงเล่นงาน แถมโดนด่าซะเสียเชิงชายหมด หึ ขาอ่อนงั้นเหรอ คอยดูเถอะ เขาจะทำให้เธอรู้ ว่าแค่ขาอ่อนมันน้อยไป เขาจะได้เห็นทั้งตัวของเธอแน่นอน เมื่อเห็นว่าเอื้องฟ้าขับรถออกไปแล้ว ชายหนุ่มก็เดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปบ้าง ส่วนคุณวัลลภก็ได้แต่มองตามออกไปอย่างรู้สึกปวดหัวกับบุตรชายแต่ละคนของตน มีแต่สุภาพบุรุษทั้งนั้น เที่ยวทะเลาะแต่กับผู้หญิงนี่แหละ ก่อนจะมองขึ้นไปด้านบน ที่บุตรชายคนโตของเขาก็ยังไม่ยอมตื่นนอนสักที นี่เวลาก็ล่วงเลยเกือบเที่ยงแล้วแท้ๆ “อื้อ อืมมมม” เสียงครางดังขึ้น ก่อนจะกอดกระชับร่างนุ่มนิ่มที่คิดว่าเป็นหมอนข้างเข้าหาตัวพร้อมกับกอดก่ายขาใหญ่พาดเกี่ยวให้แนบชิดยิ่งขึ้น ก่อนจะสงบนิ่งลงไปอีกครั้ง จนทำให้มัลลิกาที่พึ่งรู้สึกตัว ค่อยๆลืมตาขึ้นมอง หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนที่เรื่องที่เกิดขึ้นจะหลั่งไหลเข้ามาในความคิด เธอถึงกับนอนตัวแข็งทื่อ เพราะกลัวเขาตื่นมาเจอ แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เอาได้ หญิงสาวค่อยๆขยับตัว เมื่อเริ่มรู้สึกถึงลมหายใจที่เริ่มสม่ำเสมอ แต่มันก็ยากเหลือเกิน เพราะตอนนี้เธอเจ็บร้าวไปทั่วสรรพางกาย แต่ต้องอดทนเอาไว้ เพราะไม่อยากให้เขาตื่นมาเห็นเธอในสภาพนี้ “อื้ออออ” ฟรานซิสยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีกเมื่อรับรู้ได้เหมือนมีแรงขยับออก ทำเอาหญิงสาวถึงกับกลั้นหายใจทันที มัลลิกาใช้เวลาอยู่เกือบสิบนาทีถึงจะออกมาจากอ้อมกอดของเขาได้ หญิงสาวรีบเดินไปหยิบชุดนอนมาใส่ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู “เฮ้ย นี่มันห้องเรานี่หว่า โอ๊ย แล้วนี่จะทำยังไงละเนี่ย” มัลลิกากระซิบพูดออกมา เมื่อนี่มันห้องนอนของเธอ แล้วเธอจะออกไปอาบน้ำแต่งตัวที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่ห้องนี้ หญิงสาวหันหลังเดินกลับทันที ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำในห้องนอนพร้อมกับล็อกประตูอย่างแน่นหนา เมื่อได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัว ความเสียใจทั้งหมดก็พลันถูกปลดปล่อย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งริน ก่อนที่หญิงสาวจะตั้งสติแล้วอาบน้ำทันที เพราะกลัวว่าฟรานซิสจะตื่นเสียก่อน เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อย หญิงสาวรีบเดินออกจากห้องนอนของเธอไป ดีที่ชายหนุ่มยังไม่รู้สึกตัว แต่เธอคิดผิด เพราะฟรานซิสนั้นตื่นตั้งแต่ที่เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้ว แต่เขาแค่เพียงยังไม่อยากลุก เขาอยากสังเกตการณ์หญิงสาวมากกว่าว่าจะทำยังไง จนกระทั่งเห็นเธอรีบเดินออกจากห้องไปนั้นแหละเขาถึงยันตัวลุกขึ้น ชายหนุ่มมองไปรอบห้องก่อนจะพบว่าเป็นห้องของมัลลิกา นี่เขาคงเข้าห้องผิดสินะ เขาคิดออกมาพร้อมกับอยากหัวเราะให้กับความผิดพลาดของตัวเอง ที่ดันเข้าห้องผิด แถมยังมาเอาแม่เลี้ยงเป็นเมียอีก แล้วอย่างนี้เขาจะทำยังไง ดูท่าทีมัลลิกาคงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครแน่นอน แล้วเขาล่ะ ควรเงียบหรือบอกบิดาให้รู้ดี ชายหนุ่มไม่รู้จะทำยังไง เลยเดินเข้าไปอาบน้ำอาบท่า ในห้องน้ำของหญิงสาว ตาคมเฝ้าสำรวจทุกซอกทุกมุม ไม่เห็นจะมีอะไรบ่งบอกว่าเธอกับบิดาของเขาเป็นสามีภรรยากันสักนิด รูปสักใบก็ไม่มี แถมของทุกอย่างในห้องก็มีเพียงชิ้นเดียวเหมือนเธออยู่คนเดียวโดยที่บิดาของเขาไม่ได้มายุ่มย่าม ดูจากเมื่อคืน เขาแน่ใจว่าเป็นคนแรกของเธอแน่นอน ฟรานซิสอาบน้ำจนเสร็จเรียบร้อย ก็เดินใช้ผ้าเช็ดตัวสีชมพูของหญิงสาวพันกายออกมา แล้วเดินกลับห้องของตนเองโดยไม่สนใจว่าใครจะมาเห็นเลยสักนิด เพราะป่านนี้ทุกคนคงอยู่ด้านล่างหรือไม่ก็ออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว “อ่าวคุณพ่ออยู่คนเดียวเหรอครับ” ฟรานซิสที่เดินลงมาด้านล่างเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นบิดานั่งอยู่คนเดียว ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาร่างเล็กที่เขาคิดว่าเธอน่าจะอยู่แถวนี้ “แกตาไม่บอดหรอก ฉันนั่งอยู่คนเดียว แล้วนั่นแกมองหาใคร หนูพริ้มรึไง” “จะบ้าเหรอ ผมจะไปมองหาเมียคุณพ่อทำไม แล้วคุณพ่อก็แปลก เรียกเมียตัวเองหนูพริ้ม อืมมมม ผมเข้าใจแล้ว เมียเด็กก็อย่างนี้สินะครับ” ฟรานซิสรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกจับได้ ก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่น แต่ก็ไม่วายจิกกัดผู้เป็นบิดาอยู่วันยังค่ำ “นี่แกจะกัดฉันไปจนตายเลยหรือไง ฉันจะมีเมียกี่คนแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับพวกแก พวกแกก็โตๆกันแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดฉันก็ยกให้พวกแกสองคน เมียฉันไม่มีส่วนสักคน แล้วแกจะมารังเกียจรังงอนอะไรพวกเธอกันนักหนา แล้วเรื่องหนูพริ้ม ฉันก็ไม่เห็นว่าเธอจะร้ายหรือทำอะไรพวกแกเลยสักนิด ยอมลงซะบ้างเถอะน่า ฉันก็แก่จนจะลงโลงแล้ว นี่มันความสุขของฉัน ไม่นานฉันก็ตายจากไปแล้ว” เมื่อได้ฟังที่บิดาพูด ฟรานซิสถึงกับสะอึก ชายหนุ่มมองหน้าผู้เป็นบิดานิ่ง นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่เคยมองดูบิดาของเขาเลย จากแต่ก่อนบิดาของเขาเป็นผู้ชายรูปร่างกำยำแต่พอดูตอนนี้ ก็เหมือนกับคนแก่ทั่วไป ทั้งหน้ามีแต่รอยเหี่ยวย่น ตาดูฟ่าฟาง ไม่เหมือนกับแต่ก่อน ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินมานั่งข้างกันกับบิดา ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ผมขอโทษในสิ่งที่ผ่านมา ผมละเลยการทำหน้าที่ลูก แต่จะให้ผมยอมรับคนที่มาแทนที่คุณแม่ ผมทำไม่ได้ นั่นมันความสุขของคุณพ่อ คุณพ่อก็ทำต่อไป แต่อย่าหวังให้ผมยอมรับ เพราะมันเป็นไปไม่ได้” พูดจบฟรานซิสก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้คุณวัลลภมองตามอย่างรู้สึกหนักใจกับลูกชายคนโตของตนเอง ที่ช่างดื้อรั้นไม่ฟังใคร จนเขาเหนื่อยที่จะพูดแล้ว ด้วยทิฐิที่มีมากมาย ทำให้ฟรานซิสบินข้ามน้ำข้ามทะเลทิ้งเขากับเดลโก้ให้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ทีแรกคุณวัลลภไม่ยอม จะไปเอาตัวเขากลับมา แต่พอคิดๆดูแล้ว การปล่อยให้ฟรานซิสได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง อาจทำให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด เพราะลูกชายคนโตของเขาประสบความสำเร็จในเรื่องธุรกิจมากมายมหาศาล แต่กลับตกม้าตายเรื่องความรัก และเหตุผลส่วนหนึ่งคุณวัลลภก็รู้ดีว่ามาจากตนเอง ที่ทำให้ฟรานซิสไม่ศรัทธาในความรักแบบนั้น คุณวัลลภนั้นรักภรรยาคนแรกของเขายิ่งกว่าชีวิต จนเธอมาจากไปด้วยโรคร้าย ทีแรกเขาทำใจไม่ได้อยากตายตามเธอไป แต่พอมองดูข้างหลัง แล้วลูกของเขาทั้งสองจะอยู่อย่างไรถ้าเขาจากไปอีกคน เขากลับมาตั้งสติ แล้วเลี้ยงลูกน้อยทั้งสองมาเพียงลำพัง จนกระทั่งทั้งสองเติบใหญ่ เขามองดูการเติบโตของลูกๆจนเริ่มคิดอยากมีความสุขอื่นเล็กๆน้อยๆจึงเริ่มมองผู้หญิงบ้าง กระทั่งมีแม่เลี้ยงคนใหม่ให้กับลูกๆ และนั่นเป็นสิ่งที่เขาผิดพลาด เพราะฟรานซิสผู้ซึ่งผิดหวังในตัวเขาเลือกที่จะเดินจากไป ทำให้เขาแทบทำอะไรไม่ถูก แต่ยังดีที่มีเดลโก้ ที่คอยปลอบใจและเป็นทางเชื่อมระหว่างเขากับฟรานซิสอยู่เสมอ เขารู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุตรชายคนโต เพราะเดลโก้คอยรายงานทุกระยะ นั่นก็ทำให้เขาพึงพอใจแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD