bc

ปกรณัมใต้แสงดาว

book_age18+
569
FOLLOW
1.9K
READ
reincarnation/transmigration
second chance
comedy
bxg
soldier
first love
weak to strong
virgin
ancient
like
intro-logo
Blurb

นางไม่อยากเชื่อเลยสักนิด

เมื่อครู่นางยังชื่นชมความงามของทัศนียภาพข้างทาง

ทว่าเพียงพริบตา รถม้าวิ่งเร็วผิดจังหวะ นางกำลังจะตะโกนถามสารถีว่าเกิดเรื่องใดขึ้น

รถม้าของนางก็เหมือนถูกกระแทกอย่างแรง รถม้าหมุนคว้าง

ร่างของนางกระแทกผนังของรถม้าหลายครั้ง ราวกับกระดูกทุกชิ้นหลุดออกจากข้อต่อ นางหวีดร้องอย่างลืมตัว จนกระทั้งทุกอย่างสงบลง

นางขยับตัวเพียงเล็กน้อยแต่เจ็บปวดจนต้องหลั่งน้ำตา

หูสองข้างยังอื้ออึง สมองยังมึนงง นางรับรู้การเคลื่อนไหวที่เข้ามาใกล้ ดวงตากลมพยายามเบิกกว้างจ้องมองภาพผ่านม่านน้ำตา

มือที่พอขยับได้ควานหาอาวุธ ทว่านางกลับพบมีดสั้นที่อาจารย์มอบให้ติดตัว นางกำมีดพกแน่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่นางจะไว้ป้องกันตนเองได้

“อย่าขยับ!”

น้ำเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นทำเอาร่างของจางฟางซินชะงักงันไปชั่วขณะ

นางมองเห็นใบหน้าผู้เข้ามาไม่ชัด

แต่เป็นกระบี่เปื้อนโลหิตนั้นกลับทำให้เบิกตากว้าง

ปลายกระบี่อยู่ใกล้ใบหน้านางมากจนแทบจะรู้สึกได้ถึงรสชาติคาวเลือดที่ติดอยู่ที่กระบี่

ความเจ็บปวดถาโถมปล้นชิงสติของนางไปจนหมดสิ้น

รสชาติความตายเป็นเช่นนี้หรือ?

แล้วผู้ที่อยู่เบื้องหน้านางคือผู้ใดกัน

มัจจุราชมารับดวงวิญญาณนางหรือ?

เหตุใดใบหน้ามัจจุราชจึงดูคุ้นตาเหลือเกิน

chap-preview
Free preview
บทที่ 1.จุดเริ่มต้น
จางฟางซิน บุตรสาวเสนาบดีตกอับสกุลจาง ในยุคสมัยที่ตระกูลจางยังรุ่งเรื่อง บิดามีภรรยาสองคนทั้งสองเป็นพี่น้องกันตกลงปลงใจใช้สามีร่วมกัน บิดามีบุตรเพียงสองคนคือจางฟางซิน และจางฟางหรง น้องที่เกิดหลังนางแค่ครึ่งชั่วยาม  มารดาของนางจากไปตั้งแต่วันที่นางถือกำเนิด หลังจากนั้นสามปีภรรยาอีกคนก็จากไป บิดาเศร้าโศกเสียใจจนร่างกายเจ็บป่วย ก่อนจะสิ้นใจบิดาได้ฝากฝั่งจางฟางซินและจางฟางหรงให้สหายรักช่วยดูแลพร้อมทรัพย์สินก้อนสุดท้ายที่เหลือน้อยนิด      จางฟางซินในวัยสิบสองจูงมือจางฟางหรงมายังสำนักศึกษาไผ่หยก ภายใต้การดูแลของสหายรักของบิดานามหยางอี้เสียง และด้วยความสงสารเวทนาจึงรับบุตรของสหายเป็นบุตรบุญธรรม ชีวิตของจางฟานซินจึงเริ่มต้นใหม่ที่นี่ จนกระทั้งวันที่นางอายุสิบเจ็ด ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปตลอดกาล  .............. นางไม่อยากเชื่อเลย  อีกเพียงไม่กี่ลี้นางจะไปถึงที่หมายแล้วแท้ๆ เหตุใดถึงถูกตามไล่ล่าอย่างไร้หนทางเช่นนี้   จางฟางซินเคยอ่านเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับชายแดนตะวันออก นางศึกษาทุกอย่างจนมั่นใจว่าตัวเองเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างดียิ่ง ทว่านางไม่คิดว่า การลอบเดินทางที่ใช้เวลาครึ่งเดือนนี้จะมาจบลงที่รถม้าของนางพลิกคว่ำหลายตลบเช่นนี้ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้รู้ว่านี่ไม่ได้ฝันไป แม้นางเตรียมใจไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นเร็วเพียงนี้ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น ขอเพียงนางได้ส่งสาส์นลับนี้ให้ถึงมือแม่ทัพพิทักษ์บูรพาเสียก่อน   หลังจากรถม้าของนางหยุดตีลังกาแล้ว นางได้ยินเสียงการต่อสู้ด้านนอก สารถีที่จ้างมาคงไม่อาจเป็นช่วยนางได้ และอาจรักษาชีวิตตนเองไม่ได้เช่นกัน  เพียงการขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วร่าง นางหลุดเสียงร้องอย่างเจ็บปวด นางเป็นคนมีความอดทนสูงหากไม่เจ็บปวดเจียนตายเช่นนี้ นางคงไม่หลั่งน้ำตาออกมาเช่นนี้  นางควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้...ไม่งั้นลำบากแน่ ... หญิงสาวตื่นจากอาการมึนงงแล้วเริ่มขยับกาย แต่ข้อเท้าของนางเจ็บจนไม่อาจขยับได้ นางนั่งนิ่งๆ และพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงเอื้อมมือไปผลักตั่งเตี้ยเคยเป็นที่เขียนจดหมายออกจากข้อเท้าของนางออก  นางรับรู้การเคลื่อนไหวที่เข้ามาใกล้ ดวงตากลมพยายามเบิกกว้างจ้องมองภาพผ่านม่านน้ำตา มือที่พอขยับได้ควานหาอาวุธ ทว่านางกลับพบมีดสั้นที่พ่อบุญธรรมมอบให้ติดตัว นางกำมีดพกแน่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่นางจะไว้ป้องกันตนเองได้   “อยู่นิ่งๆ” จางฟานซินได้ยินเสียงดุดัน แต่คำพูดเหล่านี้ไม่ได้แทรกเข้ามาในสมองเลย นางพยายามดิ้นให้เป็นอิสระ “อย่าขยับ!” น้ำเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นทำเอาร่างของจางฟางซินชะงักงันไปชั่วขณะ นางมองเห็นใบหน้าผู้เข้ามาไม่ชัด แต่เป็นกระบี่เปื้อนโลหิตนั้นกลับทำให้เบิกตากว้าง ปลายกระบี่อยู่ใกล้ใบหน้านางมากจนแทบจะรู้สึกได้ถึงรสชาติคาวเลือดที่ติดอยู่ที่กระบี่             ความเจ็บปวดถาโถมปล้นชิงสติของนางไปจนหมดสิ้น รสชาติความตายเป็นเช่นนี้หรือ? แล้วผู้ที่อยู่เบื้องหน้านางคือผู้ใดกัน มัจจุราชมารับดวงวิญญาณนางหรือ? เหตุใดใบหน้ามัจจุราชจึงดูคุ้นตาเหลือเกิน!  หลัวหลิวหยางสบถเมื่อคนตรงตรงหน้าเป็นลมหมดสติ เขาขมวดคิ้วมอง ‘เด็กหนุ่ม’ บอบบาง ตรงหน้า เขายกตั่งที่ทับท่อนล่างนั้นออก ยื่นมือไปตบแก้มเรียกสติ แต่อีกฝ่ายยังไร้การปฏิกิริยา เขาต้องวัดดวงเอาแล้ว รถม้าคันนี้หลุดจากม้าตีลังกามาเกือบจะตกเขา รถม้าพาดกับต้นไม้ใหญ่ เพียงการขยับตัวเล็กน้อยทำให้รถเสียสมดุลพร้อมจะตกลงไปหุบเขาเบื้องล่าง  เขาไม่วางใจให้ผู้อื่นเข้ามาช่วยคนในนี้จึงต้องเข้ามาด้วยตนเอง ชายหนุ่มเก็บกระบี่ที่เปื้อนเลือดแล้วอุ้มร่างที่เบาหวิวขึ้น เสื้อผ้าที่สวมเป็นสีทึมแต่กลิ่นเลือดโชยแตะปลายจมูกของเขา  เขาอุ้มเด็กหนุ่มที่อ่อนปวกเปียกออกมา ใช้ปลายเท้าแตะหลังคารถม้าถีบตัวเองออกมาได้ทันเวลาก่อนที่รถม้าจะร่วงลงไปด้านล่าง    หลัวหลิวหยางกวาดตามองทหารยี่สิบนายของตนที่กวาดต้อนโจรป่าเสร็จสิ้นแล้ว น่าเสียดายที่ไม่อาจช่วยสารถีชะตาขาดผู้นี้ได้  เดิมทีเขาคิดจะส่งเด็กหนุ่มผู้นี้ให้นายทหารคนอื่นอุ้มกลับไปรักษาที่จวนแม่ทัพ แต่ลางสังหรณ์บอกเขาว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดา เขาจึงเปลี่ยนใจอุ้มร่างที่หมดสติขึ้นหลังม้า สั่งการให้ทหารเก็บกวาดให้เรียบร้อย ส่วนตัวเขามุ่งหน้ากลับจวนแม่ทัพพิทักษ์บูรพาทันที ความเจ็บปวดปลุกจางฟานซินเป็นระยะๆ นางมึนงงเกินกว่าจะเข้าใจเสียงพูดคุยที่ได้ยิน ทว่านางกลับผ่อนคลายเมื่อรู้สึกว่าร่างกายถูกโอบกอดด้วยกรุ่นไออบอุ่นและเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ ไร้ความตื่นตระหนก นั้นย่อมหมายความว่านางจะปลอดภัยในวงแขนนี้  มีแต่เรื่องฉุกเฉินเท่านั้นที่จะทำให้หลัวหลิวหยางยอมแตะต้องกายของผู้อื่นเช่นนี้ อาชาศึกงามสง่าถูกควบขี่เข้าประตูเมืองอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านหลบหลีกแล้วชะเง้อมองแผ่นหลังองอาจของแม่ทัพรักษาชายแดนตะวันออก  นอกจากความน่าเกรงขามแล้ว เขายังครอบครองฉายา ‘ดวงกินภรรยา’ อีกด้วย   แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจของหลัวหลิวหยาง เขาหยุดม้าเมื่อมาถึงจวน ออกปากสั่งให้บ่าวไพร่เชิญหมอทหารมาดูอาการคนเจ็บ เพราะเป็นคนเสียงดังอยู่แล้ว คำพูดธรรมดาจึงทำให้บรรดาบ่าวไพร่ตัวสั่นรีบทำตามทันที   หลัวหลิวหยางอุ้ม ‘เด็กหนุ่ม’ ไปนอนบนเตียงในห้องปีกซ้าย เขาอยู่ในสนามรบมานานกว่าสิบปี  บาดแผลน้อยใหญ่ล้วนผ่านตามาแล้ว  ร่างสูงหมุนตัวไปหยิบกรรไกรมาตัดเสื้อของ ‘เด็กหนุ่ม’ออกมาเพื่อจะได้สำรวจบาดแผล

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.8K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook