ตอนที่ 13 ทวงคำสัญญา

2219 Words
ทวงคำสัญญา ☆☆>>>>>♡ >>>>> 17.00 น. ในชีวิตของเฟรนด์นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสได้เข้ามานอนโรงแรมหรูขนาดนี้ ภากรพาเฟรนด์เดินเข้ามาในโรงแรมพร้อมด้วยลูกน้อง 10 คน เฟรนด์ทิ้งช่วงเว้นระยะห่าง เดินคู่มากับภพและสุวิทย์แทน เพราะไม่รู้เฟรนด์มาในฐานะอะไรมาถึงตราดแล้วยังงงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่ถ่อมาถึงนี่เพราะกลัวตายหรอก ก็อยู่ ๆ กลายมาเป็นคน (เมีย) ของมาเฟียโหดได้ยังไงกัน ภากรเข้ามาในโรงแรมพนักงานทุกคนออกมายืนเรียงแถวรอต้อนรับเจ้านายอย่างพร้อมเพรียงกัน ภากรแค่ทักทายตามมารยาทเพียงเท่านั้นก็เดินขึ้นลิฟท์ “พี่ภพ เฟรนด์นอนห้องไหนอะ ขอกุญแจให้เฟรนด์ด้วยดิ” เฟรนด์แอบถามภพที่เป็นคนยื่นกุญแจให้กับผู้ติดตาม ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างมาก ภพไม่ได้ตอบเฟรนด์เพียงแค่ยิ้มให้ก็แค่นั่น “พี่ภพยิ้มอะไร กุญแจห้องเฟรนด์ล่ะ หรือเฟรนด์ต้องไปนอนที่อื่น?” เพราะเท่าที่เดินมาจากรถจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครบอกอะไรเฟรนด์เลย แม้กระทั้งภากรที่เป็นคนพาเขามา มีลูกน้องคนหนึ่งเดินถือกระเป๋าใบใหญ่ของภากรเข้าไปในห้องข้างในสุดก็เท่านั้น เฟรนด์เห็นท่าไม่ดีเลยเดินไปเอากระเป๋าของตัวเองที่มีคนถือขึ้นมาให้ กำลังจะเดินหันหลังออกไปจากตรงนี้พร้อมกระเป๋าตัวเอง เพราะรู้สึกว่าไม่มีตัวตนตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงแรมนี้แล้ว ภากรบอกว่าเฟรนด์เป็นคนของตัวเอง แต่เขาจะมาปล่อยเฟรนด์ลอยแพแบบนี้นะเหรอ เฟรนด์รู้ชะตากรรมตัวเองทันที ไปก็ได้วะก็ตั้งใจจะมาเองคนเดียวตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ ‘ที่นี่ไม่ใช่ที่ของแกเฟรนด์’ “เฟรนด์ จะไปไหนครับ” เสียงทุ้มดูมีอำนาจดังขึ้น ทำให้ชวนขนลุกไม่น้อย “ไปหาที่พักไงครับ” ก็ที่นี่ไม่มีที่ให้เฟรนด์พักไง เลยต้องออกจากตรงนี้ “ก็พักห้องพี่ไง” ภากรพูดเสียงเรียบไม่ได้แสดงอารมณ์ใดใดออกมาผ่านคำพูดนั้นเลย หัวใจเฟรนด์กระตุกชาวาบไปในทันที “แล้วมีใครบอกเฟรนด์ไหมล่ะ ว่าเฟรนด์ควรอยู่ตรงไหน ใครจะไปรู้ เป็นใบ้กันทั้งหมดเลย ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง” เฟรนด์โมโหถึงขั้นเหวี่ยงมองค้อนไปที่ลูกน้องคนสนิทของภากรทั้งสองคน ภากรเห็นท่าไม่ดีได้แต่เดินมาโอบเอวคนที่ทำหน้างออยู่ตรงทางเดิน ฟอด ฟอด ภากรหอมลงไปที่แก้มใสของคนหน้างอไปสองที “งอนเหรอ?” ก็แค่น้อยใจ เท่านั้นแหละถูกลากมาด้วย พอมาถึงยังดูไร้ค่า ไร้ตัวตนอีก ก่อนมาก็ยังดี ๆ อยู่เลย พอมาถึงที่นี่คืออะไรวะ “ไม่กล้าขนาดนั้นหรอกครับ” “ปะ เข้าห้องกันครับ ไปง้อในห้องดีกว่าเน้อ” นี่ท่าทางอารมณ์ดีมาจากไหนอีกภากร เฟรนด์เดินไปพร้อมกับภากรที่เดินโอบเอวตัวเองเข้าไปในห้องโดยมีลูกน้องอย่างภพถือกระเป๋าเฟรนด์ตามเข้ามา “นายครับ อาหารเย็นเตรียม 2 ทุ่มเวลาเดิมใช่ไหมครับ” “เออ มึงอย่าทำเป็นรู้ดี” ภพยิ้มอย่างรู้ใจเจ้านายแล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างสบายใจ พอเข้ามาในห้องเฟรนด์เดินออกไปดูวิวที่ดาดฟ้า มีสระว่ายน้ำด้วยแต่ไม่ได้เตรียมชุดมา ถึงเตรียมมาก็เล่นไม่ได้อยู่ดี ชีวิตเฟรนด์น่าสงสาร ได้แต่นั่งเอาเท้าจุ่มลงไปแกว่งเล่นในน้ำก็เท่านั้น “อยากลงไปเล่นน้ำไหม พี่พาไป” ภากรถามเฟรนด์ที่นั่งหน้าหงอย ๆ “คงเล่นได้หรอกนะ ก็เมื่อคืน...เอ่อ ช่างมันเถอะครับ เฟรนด์ขออาบน้ำนอนดีกว่า” ใครจะไม่อยากเล่นล่ะ มาทะเลทั้งทีนะ “ก็ใช่นะ คงเล่นน้ำไม่ได้แน่ ๆ งั้นก็อาบน้ำทายานะครับ พี่ขอทำงานก่อน”ภากรก็ลืมคิดไปว่าเฟรนด์เจอศึกรักมาเมื่อคืน ร่างกายคงไม่พร้อมที่จะเล่นน้ำทะเล เฟรนด์อาบน้ำเสร็จก็ออกมาใส่เสื้อยืดสีขาวตัวบางและกางเกงขาสั้น เฟรนด์นั่งพิงหัวเตียงนั่งเล่นมือถือ ยกขาข้างหนึ่งชันตั้งฉากกับที่นอน ทำให้กางเกงขาบานตกลงมา ถ้ามองมาจากประตูก็จะเห็นไปถึงแก้มก้นขาวเนียนของเฟรนด์ได้ไม่ยาก เสียงภากรเปิดประตูเข้ามามองขาเรียวขาว เสื้อตัวบางที่แนบเนื้อมองเห็นตุ่มเล็ก ๆ บนหน้าอกทั้งสองข้างอย่างชัดเจน แถมท่านั่งมันชวนให้... ยิ่งกลิ่นหอมดอกไม้อ่อน ๆ จากตัวเฟรนด์ยิ่งเพิ่มความรัญจวนใจให้ภากรเข้าไปอีก คนมองอยู่ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ภากรเดินมานั่งลงข้าง ๆ อย่างกับต้องมนต์ เอามือข้างที่ถนัดมาลูบที่เข่าข้างที่เฟรนด์ชันขึ้นและลูบลงไปเรื่อย ๆ จนจะถึงก้นงาม “พี่ภากรอย่ากวนเฟรนด์ดิ พี่ต้องทำงานนี่ครับ” “พี่ก็ไม่อยากทำงานแล้วครับ อยากทำอย่างอื่นมากกว่านะ” สายตาเจ้าชู้เอาแต่ได้ มองเฟรนด์แทบจะอยากกลืนลงท้องให้หมดในคราวเดียว คิดดีไม่ได้จริง ๆ “ไปทำงานเลยครับ เฟรนด์จะนอนแล้ว” เฟรนด์ตัดบทรู้สึกจะมีภัยมาถึงตน “เฟรนด์บอกพี่ตอนอยู่บนรถว่าไปต่อที่ตราดไงครับ นี่เรามาถึงแล้วนะครับ”ภากรทำเสียงอ้อนคนตัวเล็กตรงหน้า “เฟรนด์บอกว่าคืนนี้นี่ครับ นี่ยังไม่ 6 โมงเลยนะ” “ไม่เป็นไรพี่ไม่ถือ” ภากรพูดเสียงกระเส่าอยู่ที่ข้างหูคนตัวเล็ก “เฟรนด์ยังเจ็บอยู่นะ เฟรนด์กลัวจะเจ็บหนักกว่าเดิม” เฟรนด์อ้างเหตุผลกับคนเอาแต่ใจเผื่อภากรจะเห็นใจบ้าง “ไม่เป็นไรครับ รอบเดียวเอง ถ้าทำตามพี่บอกเฟรนด์จะไม่เจ็บนะครับ” นี่คือภากรกำลังอ้อน หรือกำลังหลอกจะกินเด็กกันแน่ “รอบเดียวจริง ๆ นะครับ เบา ๆ ด้วยนะ เฟรนด์ยังอยากไปเที่ยวอยู่ กลัวเดินลำบาก” เฟรนด์เริ่มอิดออด “รอบเดียวก่อนกินข้าว ถ้าไม่เจ็บเหมือนที่พี่บอก คืนนี้เราต่อกันอีกนะ”ภากรพูดพร้อมกับขึ้นไปคร่อมร่างบางไว้ เขารู้ว่าเฟรนด์ยังเจ็บอยู่แต่ยั่ว (ตอนไหน) กันขนาดนี้เขาจะอดใจไหวได้ยังไง “...” ไม่ทันที่ร่างบางจะตอบอะไร ปากบางก็ถูกครอบครองด้วยปากภากรทันที ลิ้นอุ่น ๆ ถูกส่งเข้าไปในโพรงปาก หยอกล้อกับลิ้นเล็ก ๆ ของเฟรนด์จน เฟรนด์ตอบสนองการจูบอย่างง่ายดาย “อื้ม อ๊าส์” เสียงภากรครางออกมาด้วยความพอใจ ก่อนจะผละออกมองคนตัวเล็กที่นอนหายใจหอบเหนื่อยกับการจูบ “ปากเฟรนด์หวานจังครับ” เฟรนด์รู้สึกอายกับคำพูดของภากรจนต้องเบือนหน้าหนีสายตาเจ้าชู้ไปทางอื่น ภากรพูดจบก็ประกบปากลงบนปากบางอีกครั้ง เพื่อฉกชิมความหวานที่ตนหลงใหล ก้มลงซุกไซ้เสื้อตัวบางเลียวนและขบกัดผ่านเสื้อนั้นอย่างกระหาย “อ๊าส์ พี่ภากร เฟรนด์ อื้อ เสียว” คนตัวเล็กครางออกมาด้วยความเสียวไปทั่วร่างแอ่นอกไปมา มือเรียวเล็กกดจิกลงบนแขนของภากรอย่างลืมตัวเพื่อระบายความเสียว ภากรใช้จังหวะนี้ถอดเสื้อผ้าของเขาทั้งสอง โยนลงข้างเตียงอย่างไม่ไยดีทำให้เผยผิวขาวเนียนของคนใต้ร่าง ที่ตอนนี้มีรอยแดงเต็มตัวที่เกิดจากฝีมือเขาเอง เฟรนด์นอนบิดไปมาด้วยความเสียวซ่าน หนีบขาตัวเองไว้ด้วยความอายเพราะตอนนี้แก่นกายของเฟรนด์ที่โดนปลุกเร้าจนมันเริ่มแข็งชูชัน ภากรมองอาการเขินอายของคนใต้ร่างแล้วยิ้มอย่างพอใจ ก่อนค่อย ๆ แตะวนส่วนปลายยอดที่บวมแต่งสีชมพู ระเรื่อน่าสัมผัสยิ่งนัก แล้วใช้ลิ้นร้อนลากเลียจากโคนจนถึงปลายหยักที่มีน้ำใส ๆ ไหลปริ่มออกมา “ไม่เอา พี่ภากร อ๊ะ อ๊าส์ สกปรก” เฟรนด์พยายามประท้วงและขยับกายหนีจากการจู่โจมของคนที่มากประสบการณ์ “หวานอร่อยครับให้พี่ทำเถอะ พี่ก็อยากลอง พี่ไม่เคยทำให้ใครเลย เฟรนด์เป็นคนเดียวเลยครับที่พี่จะทำแบบนี้ ให้พี่กินให้อิ่มก่อนนะ ซีด” เมื่อขยับหนีไม่ได้คนตัวเล็กก็ได้แต่สมยอม ให้ภากรเสพสมกับตรงส่วนนั้นจนพอใจ ภากรใช้ปากดูดดึงตรงไข่ใบเล็กและใช้ฟันขอบกัดด้วยความเอ็นดู ลากลิ้นวนสลับไปมา จากปลายมาถึงโคน อมเข้าไปในปากจนเกือบสุดลำแก่นกายเล็กนั้น และใช้ลิ้นตะหวัดหยอกล้อตรงส่วนปลายเบา ๆ มือก็ช่วยประคองให้แก่นกายนั้นตั้งโด่ขึ้นเพื่อรับสัมผัสจากเขาได้พอดีสร้างความเสียวซ่านให้เฟรนด์ไม่น้อย นอนบิดไปมาบางครั้งเด้งสวนแก่นกายตามจังหวะที่ภากรดูดดึงเข้าออกด้วยปาก มือจิกที่หลังภากรแน่น มีรอยเล็บปรากฏบนหลังของภากรหลายรอย นั่นเป็นเพราะภากรเป็นคนทำเองทั้งนั้น ยิ่งภากรทำให้เฟรนด์เสียวมากเท่าไหร่ รอยก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น “อ๊ะ อ๊าส์ อ๊ะ อ๊าส์” เสียงครางของคนใต้ร่างทำภากรพอใจเป็นอย่างมากจนอยากจะแกล้งคนที่ห้ามให้เขาสัมผัสตรงนี้ จึงค่อย ๆ ปล่อยปากรูดขึ้นมาเบา ๆ เฟรนด์ถึงกับลืมตาขึ้นมามองคนที่สร้างความเสียวให้เมื่อครู่ที่อยู่ ๆ ก็หยุดทำไปดื้อ ๆ “พี่ภากร ทำไมหยุดครับ” นี่คือคำถามที่คนฟังอยากได้ยิน 'ติดกับแล้ว' “เฟรนด์ลองทำให้พี่บ้างสิครับ” “เฟรนด์ทำไม่เป็นหรอก พี่ภากรก็รู้เฟรนด์ไม่เคย” “ลองดูนะครับ จำที่พี่ทำให้เฟรนด์ได้ไหม” เฟรนด์พยักหน้าเบา ๆ “ให้เฟรนด์ทำแบบนั้นแหละครับ” ภากรจับพลิกร่างคนหน้าแดงขึ้นมาอยู่บนร่างตน เพื่อให้เฟรนด์ได้ทำ อะไร ๆ ได้สะดวกขึ้น คนแก่กว่าหลอกล่อจนคนอ่อนประสบการณ์หลงกลเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ เฟรนด์มองเรือนร่างของภากรด้วยใจที่เต้นแรง แทบจะทะลุออกมาจากอก นี่เขาอ่อนประสบการณ์กับเรื่องนี้อย่างมากจริง ๆ เฟรนด์ใช้มือลูบวนไปมาตรงจุกสีสวยของภากรแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “เฟรนด์ครับ ใช้ลิ้นเล่นกับมัน นะครับ” เฟรนด์ใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกของภากรอย่างเขินอาย “ดูดด้วยครับ” เลียแล้วยังไม่พอใจ คนเจ้าเล่ห์ยังสั่งคนตัวเล็กต่อไป “อ๊าส์ เสียวจังครับ เฟรนด์ อื้อ” ยิ่งภากรครางออกมา ยิ่งทำให้คนตัวล็กได้ใจ ดูดเลียบนยอดอกของภากรอย่างสนุก มือภากรไม่อยู่สุขลูบวนบีนเค้นสะโพกของคนตัวเล็ก ภากรหยิบเอาของที่เตรียมไว้แล้วข้างเตียง บีบลงบนฝ่ามือหนาแล้วทาลงบนช่องทางรักที่เขาชอบ ใช้นิ้วสอดเข้าออก ขณะความสนใจทั้งหมดของ เฟรนด์อยู่ที่จุกสีหวานของภากร ทำให้เฟรนด์สะดุ้งเผลอกัดเข้าที่ยอดอกอย่างแรง แต่ภากรก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร เฟรนด์ก้มลงไปดูที่แก่นกายของเขาทั้งสองคนที่ตอนนี้เบียดกันอยู่ที่ตรงกลางลำตัว “เฟรนด์ครับ จับมันใส่เข้าไปในตัวเฟรนด์ ” มือก็คอยเบิกทางให้คนตัวเล็ก “เฟรนด์กลัวเจ็บครับ” เฟรนด์ตอบออกไปอย่างลืมอาย ซบหน้าลงบนอกแกร่งของภากรเพื่อหลบสายตาของคนที่จ้องตนอยู่ใต้ร่าง “ถ้าเฟรนด์ทำเอง มันจะไม่เจ็บนะครับลองดูนะ เฟรนด์จะได้กะจังหวะถูกไง ทำเท่าที่ทำไหวนะครับ” ภากรโน้มน้าวหลอกล่อเฟรนด์จนสำเร็จ ภากรจับมือ เฟรนด์ไปกอบกุมแก่นกายของตัวเองที่มีขนาดใหญ่กว่าของเฟรนด์ค่อนข้างมากเพราะถ้าให้จับเองเฟรนด์คงยังไม่กล้าแน่นอน “ยกสะโพกขึ้นนะครับค่อย ๆ ใส่เข้าไป เฟรนด์นั่งลงช้า ๆ ถ้าเจ็บก็หยุดนะ” คนแก่นี่มีวิธีหลอกล่อเด็กหัวอ่อนอย่างเฟรนด์ได้อย่างง่ายดายจริง ๆ สินะ คนแก่เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว เฟรนด์จะรับมือกับความเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจของคนอย่างภากรได้ยังไง ก็ประสบการณ์ชีวิตของคนเรามันต่างกัน คนอ่อนประสบการณ์เมื่อถูกเล้าโลมก็โอนอ่อนตามไปอย่างกับโดนสะกดจิต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD