ตอนที่ 9 : (nc นิดๆ)

1819 Words
ศศิดาเปิดกระโปรงหลังรถทำเป็นที่นั่ง หยิบเบียร์ที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อออกมาเปิดแล้ววางรอเขา ซึ่งกำลังเดินไปเปิดเพลงสากลในรถ แล้วเดินออกมาหยิบเบียร์ไปยกดื่มอึกใหญ่ ชูบุหรี่กับไลท์เตอร์เป็นเชิงขออนุญาต เธอเลยพยักหน้า เขาเดินออกห่างไปเล็กน้อยจ่อไลท์เตอร์จุดบุหรี่ที่คาบอยู่ที่ปาก สักพักกลิ่นบุหรี่เย็นๆ โชยมาตามลมนิดหนึ่ง แล้วพัดลอยไปทางอื่น ท่าทางสูบบุหรี่ของผู้ชาย ถ้าจะพูดว่าน่าหลงใหลก็น่าหลงใหลมาก โดยเฉพาะผู้ชายอย่างราเมศวร์ บุหรี่ที่คีบอยู่ในมือ มีแสงไฟประกายออกมาเป็นครั้งคราวท่ามกลางความมืดสลัว เขายืนนิ่งปล่อยควันบุหรี่ลอยขึ้นในอากาศ พร้อมๆ กับดื่มด่ำสัมผัสบรรยากาศอันงดงามริมแม่น้ำ ลมเย็นๆ ปัดผมแถวหน้าผากของเขาจนปลิว คอเสื้อที่เปิดกว้างขยับเล็กน้อย ชายเสื้อเชิ้ตสะบัดไปตามแรงลม เขาอัดบุหรี่อีกสองสามครั้งแล้วโยนลงพื้น ใช้ปลายรองเท้าหนังบดเบาๆ ยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่ แล้วบีบกึ่งกลางกระป๋องด้วยมือเดียว หันเดินกลับมาตรงที่เธอนั่งอยู่ เขาช่างเป็นผู้ชายที่น่าหลงไหลเสียจริง ความสุขุมนุ่มลึกทะลุความมืดสลัวจนเห็นเสน่ห์ของบุรุษเพศได้อย่างชัดเจน เธอเชื่อว่า..ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถต้านทานรูปร่างหน้าตา และเสน่ห์ ที่อยู่ในตัวของผู้ชายคนนี้ได้แน่นอน ศศิดานั่งห้อยขาแกว่งเล่นไปมาอย่างเพลินอารมณ์ มองเขาเดินมาหา มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง อีกข้างถือกระป๋องเปล่า เธอเปิดเบียร์ให้เขาอีกกระป๋อง เขารับไปดื่ม แล้ววางมือชิดข้างลำตัวเธอ อีกมือจับมือเรียวบางมากุมไว้แล้วบีบเบาๆ มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย เขาก้มศีรษะลงมาชิด ระยะห่างเพียงน้อยนิดทำให้ได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ผสมกับกลิ่นอายความเป็นผู้ใหญ่บนตัวเขาระเหยเข้าจมูก “สุขสันต์วันเกิดนะ” เขากระซิบข้างหูของเธอด้วยนํ้าเสียงอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติแล้วเสียงของเขาจะค่อนข้างติดโทนตํ่า แต่เป็นเสียงโทนต่ำที่มีความนุ่มทุ้มมาก ชั่ววินาทีที่ได้ยินประโยคนั้นที่เขากระซิบข้างหู เธอรู้สึกเหมือนสมองโล่ง ว่างเปล่าไปหมด มือข้างที่ราเมศวร์กุมไว้กระตุกเล็กน้อย เขารู้ได้ยังไงกันว่าวันนี้เป็นวันเกิด? “คุณรู้ได้ยังไงคะ?” “ทะเบียนสมรส” เขาก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นเคย แล้วอยู่ๆ เขาก็สวมแหวนไว้ที่นิ้วนางของเธอ "คุณราเมศวร์!" ศศิดาตกใจ ยกนิ้วขึ้นดู "แหวนแต่งงานหรือคะ?" มีแต่สามีภรรยาที่รักกันเท่านั้น ที่จะให้แหวนเพื่อเป็นของแทนใจแก่ภรรยา อย่าบอกนะว่า...เขารักเรา? “อืม ถึงแม้ตอนนี้ผมยังจัดพิธีแต่งงานให้คุณไม่ได้ แต่ศิดาเป็นภรรยาผม อย่างน้อยต้องมีแหวนแต่งงานให้ ชอบไหม?” "ชอบมากค่ะ แต่....หลวมไปนิด" "ผมคงกะผิดไป งั้นเปลี่ยนมาเป็นนิ้วนี้ก่อน เป็นของขวัญวันเกิดแทนแล้วกัน ส่วนแหวนแต่งงานให้ศิดาเป็นคนไปเลือกเอง ดีไหม?" เขารูดแหวนออกจากนิ้วนาง แล้วสวมลงบนนิ้วชี้ของเธอ ทั้งคำพูดและการกระทำของเขาน่ารักมาก ถ้าเขารักเธอขึ้นมาจริงๆ ผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเธอ คงไม่สามารถต้านทานผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างเขาได้หรอก สามีแห่งชาติชัดๆ "ค่ะ ขอบคุณนะคะ" เธอโอบแขนไปรอบคอของเขา แล้วจุมพิตประทับไปที่แก้มใกล้ริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวล ตรงจุดนั้นเป็นส่วนที่มีไรหนวดเต็มไปหมด ราเมศวร์คงยุ่งทั้งวัน ถึงแม้ว่าเพิ่งจะโกนมาตอนเช้า แต่วันเดียวก็งอกออกมาบ้างแล้ว เธอไม่ได้รังเกียจการสัมผัสแบบนี้ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความเซ็กซี่ที่เป็นธรรมชาติของเขา แล้วจู่ๆ ราเมศวร์ก็โอบเอวดึงตัวเธอให้ยืนขึ้น แล้วพาก้าวเท้าเต้นรำไปตามเพลง ขยับกายไปพร้อมจังหวะหวานของเพลงสากล ที่กำลังบรรเลงแว่วออกมาจากในรถ บางครั้งเขาก็ส่งจังหวะให้หมุนตัว ก่อนจะรั้งเข้ามาชิด เสียงหัวเราะหวานใสของศศิดา ดังขึ้นมาอย่างนึกสนุกไปด้วยกับเขา เดรสชีฟองยาวที่เธอสวมอยู่ พริ้วเนียนไปตามรูปร่างจนถึงข้อเท้าเรียวยามเคลื่อนไหว ส้นสูงสีเงินส่องประกายระยับสะท้อนแสงไฟ ผมดำมันยาวสยายคลอเคลียเต็มหลัง ดูสวยหวานและเซ็กซี่ชวนให้หลงใหล เขาขยับปากร้องลิปซิงค์ตามเพลง ส่งประกายตาแววหวานมาให้ ปกติเขาจะเป็นคนนิ่งๆ ขรึมมากจนดูเป็นเย็นชา แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ มีประกายตาที่ซุกซน ยิ้มง่าย ดูมีเสน่ห์ คงเป็นเพราะดื่มเบียร์เข้าไป เลยทำให้เกิดอารมณ์นึกครึ้ม ลุกขึ้นมาทำอะไรสนุกๆ ชวนให้เธอหัวเราะ ♫ ~ ผมจะพาคุณที่อยู่ในอ้อมแขน เต้นรำเหยียบย่ำไปบนผืนหญ้า ฟังเพลงที่ชอบไปด้วยกัน วันนี้..คุณช่างสวยเหลือเกินที่รัก งดงามเสียจนดูเหมือนว่า.. ผมไม่เหมาะสมกับคุณเลย คุณช่างสวยสมบูรณ์แบบเหลือเกินในคืนนี้ จนผมดูไม่เหมาะกับคุณเลยจริงๆ ~ ♪ เขาร้องออกเสียงในท่อนซ้ำช่วงสุดท้าย ท่วงทำนองเพลงสากลทุ้มนุ่มด้วยเสียงของเขา จนเธอรู้สึกอินกับเพลงไปด้วย รู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่เขาร้องเพลงหวานซึ้งนี้ให้เธอ ก่อนเพลงจบเขาหมุนตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขน มือแข็งแรงจับไว้ที่ไหล่ รูดลงมาตามท่อนแขนช้าๆ จนถึงข้อศอก แล้วดึงเข้าชิด จ้องนิ่งที่ดวงตาเรียวคู่สวย "ศิดา” “ขา” “ให้ผมรักคุณนะ" เขาพูดเสียงทุ้มต่ำฟังแล้วเซ็กซี่ ศศิดาในใจอ่อนระทวย เวลาอยู่ในอารมณ์กึ่มๆ แบบนี้ ไม่ว่าเขาจะทำหรือพูดอะไร ดูมีเสน่ห์และน่าหลงไหลเหลือเกิน ซึ่งถ้าเป็นอารมณ์ปกติ เขาจะพูดออกมาตรงๆ เลยว่า เขาต้องการ แต่เธอก็ชอบเขาในทั้งสองแบบ ศศิดาเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตที่แก้มแทนคำตอบ แต่เขาเบี่ยงหน้าให้ริมฝีปากมาเจอกัน แทรกลิ้นอบอุ่นดุนเข้าไปในปากนุ่ม มือจับท้ายทอยของเธอไว้ แล้วโน้มตัวไปประทับจูบให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เธอกลั้นลมหายใจไว้จนหน้าแดง เพราะยังผ่อนลมหายใจไม่เป็น แต่กลับไม่อยากผละออกจากเขา มือเล็กๆ จับแขนเสื้อของเขาไว้แน่นราวกับจะใช้แรงทั้งหมดที่มี ราเมศวร์ถอนริมฝีปาก ไฟปรารถนาพวยพุ่งจนเกินระงับ เขาโน้มตัวไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมา แล้วเปิดประตูรถด้านหลังออก หลังจากนั้นก็วางเธอลงบนเบาะหนังแท้อย่างเบามือ ตอนที่แผ่นหลังของศศิดาพิงลงบนเบาะหนังนั้น รู้สึกเย็นวูบไปทั้งตัว เธอยื่นมือเรียวยาวไปโอบคอเขาเอาไว้เพื่อขอความอบอุ่น หลังจากนั้นก็พึมพาออกมาเสียงเบาๆ “ที่นี่เหรอคะ?” “ไม่ได้เหรอ?” เสียงหายใจของราเมศวร์แรงขึ้นและแหบพร่า ทำให้ศศิดาใจเต้นเร็วขึ้นมาทันที ราเมศวร์ไม่รอคำตอบ โน้มตัวลงไปแล้วพรมจูบลงบนซอกคอนุ่มๆ สูดกลิ่นหอมของเนื้อสาวที่เขาหลงใหล แล้วไถลมาประทับตรงแอ่งเล็กหลังใบหู ค่อยๆ ไซ้มาหาโค้งแก้มนวล ศศิดารู้สึกวาบหวิวปานจะขาดใจ ลมหายใจของเธอทวีการเข้าออกถี่เร็ว ความอ่อนหวานซาบซ่านเริ่มกระจายไปตามกระแสเลือด เขากดจุมพิตริมฝีปากรายทางรอบคอไปถึงท้ายทอย ปลุกอารมณ์สาวให้เตลิดโลดขึ้น จุมพิตของเขาเหมือนไฟร้อนๆ ลามเลียไปที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มบดเคล้าคลึงเต็มอารมณ์หวาม เรียกร้องรุนแรงเสียจนหญิงสาวอ่อนเปียกไปทั้งตัว แล้วลิ้นอบอุ่นก็ล่วงล้ำเข้าสู่ความชุ่มฉ่ำภายใน ศศิดาตอบสนองจูบเขาไปตามสัญชาตญาณ ไม่มีความจัดเจนและขาดประสบการณ์ แต่นั่นกลับทำให้ราเมศวร์เห็นว่าหญิงสาวน่ารักน่าเอ็นดู ยิ่งกระพืออารมณ์ที่ลุกเป็นไฟอยู่แล้วของเขา ให้เกิดเปลวลามเลียมากยิ่งขึ้น มือของศศิดาวางราบลงบนแผ่นอกกว้าง บนเสื้อเชิ้ตที่เป็นแพรเนื้อลื่น ไล้เรื่อยไปถึงลำคอแข็งแรง พอยกแขนสูง แขนเสื้อก็ตกลง ผิวเนื้อที่แขนและคอจึงกระทบกันแนบชิด ราเมศวร์ยังจูบไซ้ริมฝีปากนุ่มที่เผยอรับริมฝีปากเรียกร้องของเขา ทวีความหนักหน่วงและดื่มด่ำตามอารมณ์ที่กระเจิงไกล เธอกอดเขาแน่นขึ้น จนฝ่ามือกอดกระชับท้ายทอยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งเสยขึ้นสูงกว่าเล็กน้อย สอดนิ้วอยู่ในเรือนผมดกหนานุ่มมือ ลูบไล้ทั้งต้นคอและในเรือนผมของเขา ยิ่งหญิงสาวตอบสนอง ราเมศวร์ก็ยิ่งเป็นไฟ ศศิดาปล่อยตัวไปตามกระแสเชี่ยวกรากของธารอารมณ์ สอดมือเข้าลูบไล้แผ่นหลังของเขาใต้เสื้อเชิ้ต ค่อยๆ ลูบไล้สูงขึ้น เบียดร่างเข้าประชิดจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นกายของความเป็นชายยิ่งเพิ่มทวีคูณหุ้มล้อมเธอไว้ ราเมศวร์ไม่ได้ละริมฝีปากจากปากของหญิงสาว ขณะที่ปลดกระดุมเชิ้ตของตัวเอง จากนั้นจับคอเสื้อของเธอให้กว้างออก ตามด้วยเสียงขาดแคว่กเบาๆ แล้วรูดลงจากไหล่ตกลงไปกองอยู่ที่เอว มือแข็งแรงอ้อมหลังปลดตะขอบราแล้วดึงออก เลื่อนศีรษะซุกไซ้อยู่ที่เนินอกเต่งตูม หน้าฝังลงระหว่างร่องเนื้อนุ่ม เพื่อจุมพิตหว่างอกก่อนที่จะระขึ้นเนินอกสีชมพูเข้ม ยอดอกชูชันขึ้นรับสัมผัสจากการเสียดสีโดยอัตโนมัติ ศศิดารู้สึกเหมือนอกจะระเบิดด้วยความหวามใจ ขณะเดียวกันมือของเขาก็เลื่อนไปที่ด้านหน้าของกางเกงตัวจิ๋ว เพื่อควานหาเนื้ออ่อนๆ ที่ชุ่มชื้น อุ้งมือคลำคลึงเนินเนื้อ ความวาบหวามระทึกของหญิงสาวทวีขึ้น มือของเขาผละจากเนินเนื้อ จัดการปลดเข็มขัดและถอดกางเกงตัวเองออก แล้วหันไปยกสะโพกหญิงสาวขึ้น เพื่อให้รูดทั้งกางเกงตัวจิ๋วและผ้าที่กองอยู่ที่เอวให้ออกไปได้โดยสะดวก เนินสวรรค์แดงระเรื่ออวดโฉมหรา เมื่อกางเกงตัวน้อยถูกดึงออกไป เขาจับขานวลเนียนแยกออกเล็กน้อย พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปไล้เลียความชุ่มชื้น ริมฝีปากและปลายลิ้นดูดเลียเนินเนื้อนุ่ม แล้วตวัดไล้ลิ้นดุนดันเม็ดน้อย จนทำให้หญิงสาวครางด้วยความเสียวซ่าน ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD