หลายวันต่อมา
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้น้ำรินก็เข้ามาอยู่ในบ้านนี้ได้นานเป็นเวลา1เดือนแล้ว เธอได้อาศัยอยู่ในฐานะหน้าจะเป็นคนใช้มากกว่าเพราะหลังจากที่คุณหญิงบัวกับคุณท่านเอก กลับไปทำงานที่จีนน้ำรินเธอก็ไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายอีกเลย
“ คุณน้ำรินคะ คุณน้ำรินขึ้นไปแต่งตัวไปเรียนเถอะคะเดี๋ยวป้ากับนังทิพย์ช่วยกันทำเองคะ คุณน้ำรินไปเถอะคะ “ แจ๊ม หัวหน้าแม่บ้านที่เห็นหญิงสาวตื่นมาทำงานบ้านตั้งแต่ตี5 จนถึงตอนนี้ก็6.30ครึ่งแล้ว ป้าแจ๊มกลัวว่าน้ำรินจะไปแต่งตัวไปโรงเรียนไม่ทัน น้ำรินเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็หันมองนาฬิกาที่พนัง เมื่อเธอเห็นว่าตอนนี้6โมงครึ่งแล้วแล้วเธอก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออกทันที เพื่อที่เธอจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัว เรื่องที่น้ำรินบอกให้ทุกคนในบ้านเรียกเธอว่าน้ำรินเฉยๆนั้นเห็นทีว่าจะไม่ได้เพราะเอกกับบัวผู้เป็นเจ้านายสั่งห้ามเอาไว้ให้เรียกเธอว่าคุณ แล้วก็ให้ทุกคนปฏิบัติกับเธอเหมือนอย่างที่ปฏิบัติกับลูกชายของเธอ ซึ่งทุกคนในบ้านต่างก็เห็นด้วยและก็ไม่คัดค้าน มีเพียงแค่นนท์เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยแถมยังทำไม่ดีต่างๆนาๆกับเธอ
“ ป้าคะถ้าอย่างนั้นน้ำรินฝากด้วยนะคะ ขอบคุณคะ “ น้ำรินถอดผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะไหว้ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในครัวแล้วก็รีบเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปเรียน
เวลาต่อมา
“ อ้าวแล้วนั้นจะรีบไปไหน ไม่ทานข้าเช้าก่อนเหรอ” นนท์ที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าฝีมือของริน อยู่นับตั้งแต่น้ำรินมาอยู่ที่นี้นนท์ก็กลับบ้านมาทุกวันเพื่อที่จะได้กลับมาแกล้งน้ำริน น้ำรินที่กำลังทำท่าเหมือนจะรีบร้อนเพราะวันนี้มีสอบเธอก็หันมาบอกนนท์ทันที
“ ไม่คะคุณนนท์ วันนี้น้ำรินมีสอบ เอาไว้วันหน้านะคะวันนี้น้ำรินรีบจริงๆคะ / สวัสดีคะคุณนนท์ ป้าแจ๊ม พี่ๆ หนูไปก่อนนะคะเดี๋ยวไม่ทันรถเมย์ “ น้ำรินบอกนนท์เจ้าของบ้านและก็ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นเจ้าชีวิตเธออีกด้วย เมื่อน้ำรินสวัสดีทุกคนเสร็จแล้วเธอไม่รอให้นนท์อ้าปากพูดอะไรได้อีกเธอก็รีบวิ่งออกไปทันทีเพราะกลัวว่าจะไม่ทันรถเมย์ ถึงแม้ว่าบานหลังนี้จะรวยมากแต่ รถก็มีหลายคัน คนขับรถก็มีแต่ว่านนท์ไม่ให้คนขับรถที่บ้านไปส่งน้ำริน โดยเขาให้เหตุผลว่าน้ำรินเป็นแค่คนมาขออาศัยไม่ใช่เจ้านาย เขาสั่งห้ามทุกคน ห้ามไม่ให้รับใช้น้ำริน หรือว่าให้ความช่วยเหลือเธอ ไม่อย่างนั้นเขาจะหักเงินเดือนทุกคน ด้วยความที่เขาเป็นผู้บริหาร ถึงแม้ว่านนท์อายุยังน้อยและก็ดูเหมือนเสเพลหน่อยๆแต่ด้วยความที่เขาฉลาดมากเรื่อง ตัวเลขและก็เรื่องบริหารเลยทำให้พ่อกับแม่ไว้ใจให้ลูกชายบริหารงานที่ไทย ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อน้ำรินรีบวิ่งออกไปแล้วป้าแจ๊มป้าแม่บ้านที่อยู่มานานตั้งแต่นนท์ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ เธอก็เข้ามาพูดกับผู้เป็นเจ้านายด้วยเสียงออ่ยๆว่า
“ คุณนนท์คะ ช่วยทำดีกับคุณรินหน่อยไม่ได้เหรอคะ ป้าว่าคุณน้ำรินหน้าสงสารมากเลยนะคะ คุณน้ำรินตื่นมาตั้งแต่ตี4ทุกวันมาทำอาหารให้คุณนนท์ และก็ซักผ้า รีดผ้า อีกด้วยนะคะป้าว่า…..” ป้าแจ๊ม พูดออกมาด้วยความเป็นห่วงหญิงสาวเพราะเธอยังเด็กและก็เพิ่งจะเสียพ่อแม่อันเป็นที่รักไปด้วย เลยทำให้คนแก่อย่างเธอทนเห็นความใจดำของผู้เป็นเจ้านายไม่ได้ นนท์เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็หันมองหน้าป้าแจ๊มก่อนจะพูดบางอย่างออกมา
“ ป้าครับ ผมหรือยัยเด็กนั้นเป็นเจ้านายของป้า ผมเป้นคนจ่ายเงินเดือนของป้า ผมว่าเรื่องนี้เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะครับ เอาเป็นว่าเรื่องวันนี้ที่ป้าพูดผมจะคิดว่าป้าไม่ได้พูดก็แล้วกันนะครับ / ผมอิ่มแล้ว เก็บไปได้เลย “ นนท์เอาผ้าเช็ดปากของตัวเองก่อนจะวางผ้าเช็ดปากลงอย่างแรงเหมือนไม่พอใจที่ ป้าแม่บ้านมาบอกเรื่องของหญิงสาว จากนั้นเขาก็เดินออกไป ที่โรงรถแล้วก็ขับรถออกไปย่างไว ทำให้ป้าแจ๊มมองด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายเจ้านายที่เอาแต่ใจ เมื่อนึกถึงคำพูดที่เจ้านายใหญ่เคยพูดไว้ก่อนไปทำงานที่จีนว่า
*ป้าแจ๊ม ฉันอยากได้หนูน้ำรินมาเป็นลูกสะไภ้เพราะคนอย่างตานนท์ไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาเขาอยู่ได้หรอก คนเก่งต้องคู่กับคนออ่นและก็ฉลาดอย่างหนูน้ำริน ถึงจะเอาตานนท์อยู่และก็ช่วยส่งเสริมตานนท์ ป้ารองคิดดูสิว่าถ้าตานนท์ได้กับหนูเจนนี่ สิ่งที่ฉันกับคุณเอกและก็พ่อแม่ของหนูน้ำรินช่วยกันสร้างมาจะเหลืออะไร * ป้าแจ๊ม เมื่อนึกได้แบบนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความออ่นล้าเพราะ ลูกชายของเจ้านายใหญ่รู้สึกว่าจะเอาแต่ใจและก็ใช้อำนาจข่มแหงรังแกน้ำรินมาก เธอกลัวว่าน้ำรินจะทนนายน้อยของตัวเองไม่ได้ พอถึงตอนนั้นคนที่เสียใจที่สุดดูท่าจะเป็นคนที่กำลังคิดว่าตัวเองดีใจและสนุกที่สุด
บรื้น….บรื้น….บรื้น
เสียงรถหรูของนนท์วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะมาจอดที่ป้ายรถเมย์ก่อนจะเห็นน้ำรินที่ยืนรอรถเมย์พร้อมกับผู้คนที่แออัดยัดเยียดกัน
บี๊บๆ บี๊บๆ
“ ขึ้นมา “ นนท์ บีบแตร่รถเสียงดังลั้นป้ายรถเมย์โดยไม่สนเลยว่าใครจะมองหรือไม่มอง เพราะคนอย่างเขาไม่สนใจใครอยู่แล้ว น้ำรินเมื่อได้ยินเสียงบีบแตร่อย่างไม่มีมารยาทเธอก็หันไปมองก่อนจะเห็น นนท์เจ้านายขี้หงุดหงิดของเธอก่อนจะได้ยินเสียงเขาเรียกเธอ ด้วยความที่คนที่ป้ายรถเมย์เยอะและก็มองมาที่รถแล้วก็มองมาที่เธออย่างให้ความสนใจ เมื่อหญิงสาวเห็นแบบนั้นเธอก็รีบเดินเข้าไปหาที่รถของเจ้านาย เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมองไม่ดี
“ มีอะไร รึเปล่าคะคุณนนท์ “ น้ำรินวิ่งเข้ามาหาเจ้านายหนุ่มก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลเหมือนอย่างทุกครั้งที่เธอพูดกับเขา นนท์ที่เรียกหญิงสาวให้ขึ้นมาตอนนั้นเมื่อได้ยินเธอถามแบบนั้นเขาก็รู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
“ ฉันเรียกเธอให้ขึ้นมายังจะมาถามเร็วๆ ไหนบอกว่ารีบไง ยืนทำบื้ออะไรอีกละ” นนท์พูดออกมาอย่างหัวเสีย น้ำรินเมื่อได้ยินแบบนั้นด้วยความที่รถเมย์ก็วิ่งมาใกล้แล้วบวกกับคนที่ป้ายรถเมย์มองมายังเธออย่างสนใจ เธอก็เลยตัดสินใจขึ้นมาบนรถ เมื่อหญิงสาวขึ้นมาบนรถเสร็จแล้ว รถหรูของนนท์ก็รีบบึ้งออกมาด้วยความเร็ว เรีสยกว่าเร็วมาเลยละ เร็วจนน้ำรินนั่งเกร็งจนเยียวแทบเล็ดเลยละ ขนาดรถที่แออัดมากขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถปิดกั้นรถหรูของเขาได้
บรื้น….บรื้น….บรื้น