หลายนาทีที่ร่างหนายังคงนั่งอยู่อย่างนั้น ติณณภพรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ห้าปีมาแล้วที่เขาฟ้องหย่าชนิตา และก็ห้าปีมาแล้วที่เธอฟ้องเขาขออำนาจศาลในการเลี้ยงดูบุตรแต่เพียงผู้เดียว
ชายหนุ่มแพ้คดีเพราะมีพฤติกรรมคบชู้ ติณณภพถูกสั่งห้ามเข้าใกล้เธอและลูก เขาไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นเช่นนี้ ชายหนุ่มแค่อยากนอกใจชนิตาเพื่อให้เธอเลิกรักเขาสักที ไม่คิดว่าเธอจะเอาเรื่องนี้ขึ้นศาลเพื่อฟ้องร้องเขาคืน ซึ่งชนิตาก็รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงเขาก็อยากเจอคนเป็นลูก เธอทำแบบนี้...ความรู้สึกของเธอมันคงหยั่งลึกจนยากจะถอดถอน
“เฮ้อ...” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา เขายังไม่ได้พักตั้งแต่เมื่อวาน แต่สำหรับคุณหมอที่มีนาฬิกาชีวิตเป็นของตัวเองอย่างเขาก็ไม่น่าห่วงสักเท่าไร ความเหนื่อยล้าที่ไม่ได้พักผ่อนก็ไม่เหนื่อยเท่าความรู้สึกในตอนนี้ ติณณภพยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตน หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาอยากจะแก้ไขเรื่องนี้ที่สุด ทว่าความรู้สึกรักในตัวคนเป็นลูกก็ไม่อาจทำให้เขาคิดแบบนี้ได้
ร่างหนาลุกขึ้นยืน เขาคงกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลต่อ การทำงานให้เหนื่อยจนเผลอหลับไปคงเป็นทางออกที่ดีในตอนนี้ ความเครียดสะสมหลายอย่างยากจะสลัดทิ้ง มันหนักเอาเรื่อง เส้นทางชีวิตคู่ของเขาไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบเลยสักนิด หากเป็นดอกกุหลาบคงเป็นดอกกุหลาบที่เต็มไปด้วยขวากหนาม มันทิ่มแทงเขาในทุกเส้นทางที่เขาเดินไป...
-น้ำชา –
อาจะเป็นเพราะฉันยังไม่ได้นอน หรืออาจจะเป็นเพราะอายุของฉันที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นี้ พลังงานถึงหมดไวจนน่าประหลาดใจ
“อามาเล่นน้ำกับพิ้งค์ ๆ” ฉันหันไปมองพิ้งค์พลอยที่กำลังวักน้ำใส่ฉัน โอเค...ตอนนี้ฉันกำลังนั่งแช่ก้นในบ่อน้ำ ฉันขออนุญาตไม่เรียกมันว่าสระน้ำก็แล้วกัน น้ำที่พิ้งค์พลอยกำลังเล่นอย่างสนุกสนานนี้สูงเลยตาตุ่มฉันไปเล็กน้อย และที่หลาน ๆ ทำให้ฉันดูแย่ก็คงเป็นการบังคับให้ฉันมานั่งเล่นกับพวกเขา อ้อ...น้ำไนล์อีกคนที่ทำหน้าเหมือนกับถูกบังคับ
“ไนล์...หนาวเหรอ”
“ครับ อยากกลับด้วย” ฉันหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู
“ไม่ได้หรอก พี่พายุยังไม่ได้ไปขับรถเลย”
“ไม่ ไม่ไปแล้ว อยากไปร้านโทรศัพท์” นั่นไง ว่าแล้วเชียว ฉันโดนเด็กต้มซะแล้ว
“หัวหมอเหมือนพ่อนะเรา หึ...”
“อาบอกจะซื้อให้ยุนิ” ฉันส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน “เย่! อาจะไปซื้อโทรศัพท์ให้ยุ”
“หึ ไปฟ้องแม่พายุน่ะสิ”
“อะไรนะ! อย่านะ!....” ฉันขำออกมาเสียงดังให้กับท่าทีตกใจของตัวเล็ก ขณะที่คนอื่น ๆ ที่ยังไม่รู้จักความมากนักกำลังเล่นน้ำที่มีอยู่นิดเดียวนี้อย่างสนุกสนาน
“หึ โอเค ๆ เอาเป็นว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนไหม อาจะพาไปกินข้าว ซื้อโทรศัพท์แล้วก็ไปหาย่าทวดกัน”
“จริงเหรอ!!...อยากไปให้อาหารปลาที่บ้านย่าทวด!” ฉันส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับการเสียงดังของพายุ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีที่คนพูดได้และอายุเยอะที่สุดเป็นพายุ ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ...มองตาแป๋วเชียว
“ลุกได้แล้ว...เล่นน้ำไม่เห็นหนุกเลย” พายุบ่นพร้อมกับเดินขึ้นจากบ่อน้ำนี้ ก่อนที่คนอื่น ๆ จะลุกขึ้นยืนตามคนเป็นพี่ ตอนนี้..พายุไม่ต่างจากหัวโจกของอนุบาลเด็กโข่งเลยสักนิด...
เวลาต่อมา...
เรือนไทยเก่าแก่ตรงหน้าเป็นบ้านของคุณย่า พ่อของฉันเกิดในตระกูลเก่าแก่ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นผู้ดีเก่า แต่นั่นมันก็แค่อดีตฉันไม่ได้เป็นผู้ดีหรอก งานสังคมก็ไม่เคยไป แต่ก็มีคนคะยั้นคะยอให้ไปทุกครั้งก็คือคุณย่าของฉันเอง
“นี่...เมื่อไรหนูจะแต่งงาน” ฉันหันไปมองคุณย่าที่อยู่ ๆ ก็เอ่ยพูดขึ้น บนตักของท่านมีน้ำไนล์ที่นั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่ขณะเดียวกันบนพื้นไม้ก็มีเด็ก ๆ กำลังล้อมหน้าล้อมหลังพายุ เด็ก ๆ กำลังตื่นเต้นให้กับโทรศัพท์เครื่องใหม่
“ไม่แต่งค่ะ...” ฉันตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ขณะที่นั่งเอนแผ่นหลังที่โซฟาตัวยาวภายในห้องรับแขก
“หืม ทำไม ย่าอยากให้หนูแต่งงาน จะได้มีคนอยู่ข้างกายยามแก่เฒ่าเหมือนปู่กับย่า”
“หึ ย่าก็เลยหาคู่หมั้นให้หลานตั้งแต่เกิดน่ะเหรอ”
“โอ๊ะ! จำได้ด้วย” ฉันส่ายหน้าให้กับคุณย่า เธอแก่มากแล้ว มีหลายครั้งที่ฉันอยากย้ายมาอยู่ด้วย แต่ท่านก็ไม่ยอม พูดอยู่ได้ว่าอยากให้ฉันใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่น ไม่ต้องคอยกังวลกับคนชราอย่างท่านและคุณปู่
“และหนูก็จำได้ด้วยว่าฝั่งนั้นเป็นคนยกเลิกเรื่องหมั้นหมาย เพราะไปทำผู้หญิงท้อง หนูไม่อยากจะคิดเลยนะคะว่าถ้าหนูแต่งงานไปแล้วจะเป็นยังไง....”
“โธ่ลูก ตอนนั้นมันก็ไม่ได้แย่นะ”
“แย่สิคะ ผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ หนูไม่เอาด้วยหรอก ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน”
“เอาเป็นว่าลืม ๆ มันไปเถอะ จริง ๆ ทางนั้นเป็นเพื่อนย่า ย่าอยากให้เราเกี่ยวดองกันไว้”
“หึ แต่ย่าโดนหักหน้าก่อนเลย ฮ่า ๆ” ฉันหลุดเสียงหัวเราะออกมา จำได้ว่าตอนนั้นฉันกำลังขึ้นปีหนึ่งมั้ง เรื่องหมั้นอะไรนี่กำลังเป็นที่พูดถึงในครอบครัวของฉัน เห็นว่าจะให้หมั้นตั้งแต่ตอนเรียนเลย ตอนนั้นทำเอาฉันเครียดมาก แต่สุดท้ายผู้ชายที่จะหมั้นกับฉันดันทำผู้หญิงท้องและชิงตัดหน้าแต่งงานไปก่อน จำได้ว่าทำเอาคุณย่าเป็นลมเลย ส่วนฉันน่ะเหรอ...ดีใจจนเนื้อเต้นเลยล่ะ
“แหม่ ดูอาน้ำชาหัวเราะย่าสิลูก น้ำไนล์หรือเปล่านะที่จะเกี่ยวดองให้ย่า”
“ไม่เอานะคะ ไม่บังคับเด็ก”
“ย่าล้อเล่น ๆ จ้ะ....” ฉันยังพูดไม่ทันจบคุณย่าก็เอ่ยพูดขึ้น เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ฉัน
“แล้วย่าจะไปหาหมออีกทีวันไหนคะ หรือจะให้พี่น้ำเหนือมาตรวจสุขภาพให้ ถ้าไม่ให้มา...ก็โทรหาหนูนะ หนูจะพาไป”
“โอ๊ย! คนแก่ก็คู่กับโรงพยาบาล ย่าไปกับปู่เองก็ได้”
“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวนี้สมัยใหม่ ไม่มีคนคอยบอกแล้วนะคะ รับบัตรคิวก็เป็นแบบตู้ ย่าทำไม่ได้หรอก ให้หนูพาไปนะ ๆ”
“เออ ๆ ก็ได้ ดื้อจริง ๆ เลยเรา ดื้อแบบนี้ถึงไม่มีผัว”
“ย่า!! หนูแค่ไม่เอาผัวแค่นั้น ไม่ใช่ไม่มี”
“หึ จ้ะ ๆ มีผัวให้ย่าดูก่อนตายนะ ไม่งั้นย่านอนตายตาไม่หลับหรอก”
“ไม่พูดแบบนี้นะคะ งั้น...หนูจะไม่มีผัว เพราะย่าจะได้อยู่ดูหนูอย่างนี้ไง” ฉันพูดไปหัวเราะไป แต่ก็ได้รับเพียงการส่ายหน้าของคุณย่า ยิ่งพูดถึงการจากลาฉันก็ยิ่งกลัว ฉันไม่พร้อมหรอกนะ...ที่จะเสียท่านไป
-Other-
เวรดึกที่กำลังถูกเปลี่ยนให้กับติณณภพนั้นไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร ก็ตั้งแต่เขาทำงานที่นี่...โรงพยาบาลก็แทบจะเป็นบ้านหลังที่สองของเขาแล้ว
“คนไข้ที่ผ่าตัดไปเมื่อคืน...อาการคงที่นะคะ”
“อืม...รอแผลหายดีก็ให้กลับบ้านได้” ชายหนุ่มนึกเสียดายโอกาสไม่ใช่น้อย เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกชอบใครสักคน พอคิดถึงหน้าของเธอคนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัว เธอน่ารักดี...
“โอเคค่ะ พรุ่งนี้คุณหมออยู่ยาวเลยไหมคะ”
“ครับ...” พยาบาลสาวไม่แปลกใจ เธอพยักหน้ารับเหมือนเคย แต่ความรู้สึกเป็นห่วงก็เกิดขึ้นในฐานะเพื่อนร่วมงาน
“พักผ่อนหน่อยก็ดีนะคะ ได้ยินว่าเพิ่งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ไป” ติณณภพหยักหน้ารับ เขาเข้าใจความเป็นห่วงของใครหลายคนที่แสดงให้เขาเห็น แต่พอได้ยินเรื่องอุบัติเหตุก็นึกเรื่องรถขึ้นได้ คาดว่าจะติดต่อเธอไปแค่เรื่องนี้ และจะไม่ยุ่งกับเธออีก มีหลายอย่างที่ทำให้เขาคิดได้ วันนี้...เขาไม่อยากดึงเธอเข้ามาเอี่ยวด้วย ปัญญาของเขา เธอไม่ควรได้รับรู้ และขณะนั้นเองที่คุณหมอหนุ่มกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังขึ้น
ครืดด ครืดด~
“เอ่อ ฉันไม่รบกวนแล้วนะคะ” พยาบาลสาวค้อมศีรษะให้กับคุณหมอหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขา เธอเดินออกจากห้องตรวจไป ปล่อยให้เจ้าของห้องล้วงโทรศัพท์ออกมากดรับ
ติ๊ด!
“ว่า...”
[มึงอยู่ไหน โรง’ บาลปะ] น้ำเสียงร้อนรนของคนเป็นพี่ทำให้คุณหมอหนุ่มแปลกใจ แต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“อืม...จะมาหาเหรอ รีบมาก็แล้วกันจะรับเวรละ”
[เวร? มึงแลกเวรอีกแล้ว?]
“จะมาก็รีบมา ไม่ได้ว่างตลอดหรอกนะ”
[เออ กูอยู่หน้าห้องมึงเนี่ย...]
“หืม...” ติณณภพเงยหน้าขึ้นมองบานหน้าต่างเล็ก ๆ หน้าประตู ก่อนที่เขาจะพบกับเจ้าของใบหน้าคุ้นเคย และไม่ทันที่จะได้ทำอะไรบานประตูก็ถูกเปิดออกโดยที่เขาไม่ได้อนุญาต
แกร็ก!
แอ๊ดดด...
“ไง...” ร่างหนาที่มีใบหน้าคล้ายกับเขาเดินเข้ามา ดวงตาคมกริบสีนิลจับจ้องใบหน้าอิดโรยของคนเป็นน้องด้วยความละเหี่ยใจ เขาได้ยินเรื่องการบุกมาบ้านของชนิตาจากคุณย่า เลยแวะมาหาคนเป็นน้องด้วยความเป็นห่วง
“ก็ไม่ไง พี่นั่นแหละ...ไง” ตรัยคุณยกยิ้ม เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับคุณหมอหนุ่ม “งานที่บริษัทว่างมากหรือไง”
“ก็ไม่ว่าง แค่เป็นห่วงน้องไง”
“โธ่คนดี เป็นห่วงตัวเองเถอะ”
“เอ้า ไอ้นี่...” ตรัยคุณว่าพร้อมกับหัวเราะ ทำเอาคนที่เหนื่อยล้าอย่างติณณภพส่ายหน้า
“ย่าถามหานะ กลับบ้านบ้าง พี่พิมพ์ไม่โกรธพี่ก็จริง ให้เกียรติพี่เขาหน่อย” ตรัยคุณไหวไหล่ขึ้น โชคดีเหลือคณานับที่เขาได้เมียต่างจากเมียเก่าของน้องชาย ซึ่งไม่ผิดไปจากที่คุณย่าช่อฟ้าว่า...เขามีหลายบ้าน
“ปล่อยเรื่องกูไปเถอะ เรื่องของมึงเป็นไง ยัยนั่นได้ทำอะไรย่าไหม”
“ไม่หรอก เธอไม่ทำต่อหน้ากูหรอก”
“เอ้อ ดีไป...เป็นบ้าอะไรนักหนาวะ...” ติณณภพถอนหายใจออกมา เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อไรชนิตาจะหยุดเสียที พอนึกถึงเรื่องนี้ชายหนุ่มก็เลื่อนสายตามองคนเป็นพี่อีกครั้ง
“เพราะพี่นั่นแหละ แนะนำอะไรก็ไม่รู้”
“หึ ทำไงได้ กลับไปแก้อะไรก็ไม่ได้แล้ว” ตรัยคุณนึกสงสารคนเป็นน้อง เพราะคำแนะนำของเขาแท้ ๆ ในช่วงวัยรุ่นติณณภพถึงตัดสินใจอย่างนั้น
เป็นเรื่องปกติของคนโบราณหรือเปล่าเขาไม่มั่นใจ คุณย่าช่อฟ้าจึงถือคติ เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ท่านอยากให้ทั้งเขาและคนเป็นน้องแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกให้ เขาในฐานะพี่ชายเลยได้แต่งงานก่อน ซึ่งพอแต่งงานเสร็จคนเป็นพี่ก็ไม่อยากให้น้องชายถูกคลุมถุงชนเช่นกัน เขาก็เลยแนะนำให้ติณณภพขัดใจท่าน เพราะสุดท้ายก็จะลงเอยโดยการมีบ้านสองบ้านสามเหมือนกับเขา แต่ติณณภพแย่กว่านั้น
พอเห็นคนเป็นพี่แต่งงานไป ชายหนุ่มก็ไม่อยากแต่งงาน เขาเริ่มใช้ชีวิตเสเพล คบผู้หญิงมากหน้าหลายตาในตอนเรียน ติณณภพเป็นหนุ่มฮอต หนึ่งในคนที่ตกหลุมรักเขาก็คือชนิตา เธอเป็นสาวสวยที่คนทั้งมหา’ ลัยเรียกเธอว่าดาวมหา’ ลัย แล้วชายหนุ่มคนไหนจะไม่อยากสอยดาวกันเล่า เธอเข้าหาเขาก่อนเสียด้วยซ้ำ ทั้งคู่เริ่มคบหากันจากจริตมารยาที่เธอมี และค่ำคืนที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาลก็เกิดขึ้น
เพราะว่าเป็นครั้งแรกของเธอ ความอยากรู้อยากลองทำให้เขาไม่ป้องกัน ขณะเดียวกันเธอก็บอกกับเขาว่าจะคุมกำเนิดเอง ทว่า...เธอไม่ได้ทำมัน หญิงสาวตั้งใจผูกมัดเขาไว้ด้วยสิ่งเล็ก ๆ ในท้องของเธอ
ชนิตาตั้งครรภ์หลังจากนั้น งานหมั้นที่คุณย่าวางไว้ถูกยกเลิกทันทีตามความต้องการของเขา ชายหนุ่มคิดว่ามันคงดีกว่าอย่างน้อยเขาก็ได้เลือกผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยแม้ว่าจะไม่ได้รัก ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความใคร่ชั่วคราว แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงมารยาของเธอ ชนิตาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากที่แต่งงานกับเขา เธอบงการชีวิตของเขาทุกอย่าง ห้ามนั่นนี่...ไม่แม้แต่ให้เขาออกไปไหน ความหึงหวงในตัวของเธอมีมากเกินเหตุ และยิ่งรู้ว่าพี่ชายเขามีหลายเมีย เธอก็ยิ่งบ้าคลั่งในเรื่องนี้...
“เห้ย!! มึงได้ยินกูพูดไหมวะ” ติณณภพสะดุ้งให้กับเสียงร้องเรียกของคนเป็นพี่ เขาลุกขึ้นยืนทันที
“ผมมีงาน พี่กลับไปก่อนก็แล้วกัน...กลับไปหาย่าหาเมียหลวงบ้าง”
“เอ้อ...รู้เหอะน่า” คนตัวโตลุกขึ้นยืน เขาตบไหล่หนาของคนเป็นน้องเบา ๆ “ไม่สบายใจก็ไปหาที่บริษัท หรือไม่ก็โทรหาพี่...”
“หึ...” ติณณภพแค่นหัวเราะให้กับสรรพนามที่คนเป็นพี่ที่ใช้แทนตัวเอง เขาเดินออกมาส่งพี่ชายที่หน้าห้องทำงาน
“ทำเป็นขำอีก กูจริงจังนะ”
“ครับ ไว้ผมไปหา...แต่ตอนนี้...น้ำชา” อยู่ ๆ สายตาของติณณภพก็หลุดโฟกัสไป ทันทีที่ออกจากห้องตรวจเขาก็มองเห็นร่างบางคุ้นตา ชายหนุ่มก้มมองนาฬิกาบนข้อมือ ก่อนจะพบว่ามันมืดค่ำแล้ว หญิงสาวคนเมื่อคืนถึงได้เดินตรงมาหาเขา ในมือของเธอมีเสื้อกาวน์ยาวของเขาอยู่ ดูเหมือนว่าเธอจะเอามาคืน แต่ตอนนี้พี่ของเขาควรกลับ ทว่า
“ใครวะ...สวยดี”
“กลับได้แล้ว...”
“อะไรวะ...หวงอีก หึ” ตรัยคุณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คนหน้าหล่อแต่หน้าด้านอย่างเขาจะรีบกลับทำไมกัน เล่า อยู่รอทักทายสาวสวยที่เดินเข้ามาใกล้ดีกว่าเยอะ แม้จะทำให้คนเป็นน้องมีสีหน้าไม่พอใจก็ตามแต่...เธอเป็นใครทำไมน้องชายเขามีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นนี้ เขาอยากรู้จัก