ทัณฑ์เถื่อนเมียบำเรอ บทที่2.เริ่มแผนการ

1568 Words
“นายเหมกินได้หรือเปล่าไม่รู้นะนาย มีแต่เผ็ดๆ กับผักตรึม” เปี๊ยกชวนคุย เด็กชายรู้ว่าภาวะนี้มันตึงเครียด เมื่อคนเป็นพี่กำลังกังวลเรื่องของน้องชาย... “เหมต้องปรับตัว ไม่อย่างนั้นคงอยู่ยาก” ชายหนุ่มเปรยแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว เลื่อนจานเปล่าให้เปี๊ยกตักข้าวสวยร้อนๆ ในปิ่นโตให้ “เหมต้องกินเพื่ออยู่ให้รอด เพราะนับจากวันนี้เป็นต้นไป...เขาต้องฝึกโหด” ตำราลูกผู้ชาย คนอยู่รอดคือคนแกร่ง เขาจะเปลี่ยนน้องชายแสนสำรวย ให้ห้าวแกร่งไม่แพ้ตัวเอง... ข้าวสวยพูนช้อนกับผัดเผ็ดไก่ถูกส่งใส่ปาก สิงหราชเคี้ยวตุ้ยๆ เขาชินกับรสเผ็ดจี๊ดนี่เสียแล้ว เมื่อชายหนุ่มฝังตัวอยู่ในเหมืองมานานนับ10ปี พริกหนึ่งกำมือเป็นเรื่องขี้ผง... เหมราชเดินออกมาจากห้องนอน เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น แต่ก็ยังเนี๊ยบในสายตาของเปี๊ยกอยู่ดี เมื่อเด็กชายอยู่กับสิงหราชเป็นส่วนใหญ่ นายเหมืองของเขา นิยมกางเกงยีนส์พอดีตัวกับเสื้อเชิ้ตสารพัดแบบ เมื่อแดดในเหมืองร้อนขนาดไหน ใครๆ ก็รู้ หากแต่งตัวอย่างเหมราช รับรองได้ ไม่ถึง1อาทิตย์ ตัวดำเป็นตอตะโก... สิงหราชวางแผนการคร่าวๆ เขาให้คนของตัวเองตามดูพฤติกรรมของเพลาพิลาศ เพื่อหาโอกาสลงมือ งานครั้งนี้ต้องสำเร็จ เขาจะทำให้หล่อนรู้ ไม่มีผู้หญิงหลอกลวงคนไหนมีความสุข หล่อนจะได้รับการลงทัณฑ์อย่างสาสม แบบที่ต้องจำไปจนวันตาย... รายละเอียดการทำงานของเพลาพิลาศ ถูกส่งให้เขาดูผ่านอีเมล์ ถึงจะเป็นพื้นที่ห่างไกล แต่การติดต่อสื่อสารไม่ได้ยากเย็นเลย มีไฟฟ้าใช้ มีอินเตอร์เนตแผนการจึงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา...และรอเวลาลงมืออย่างเด็ดขาด แล้วก็ต้องไม่มีความผิดพลาดด้วย... สาวโสภายังใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่าง หล่อนไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่เป็นคู่ควงหายไปจากชีวิต มีเพียงพราวฟ้าคนเดียวที่ชะเง้อหา เธอเป็นห่วงเหมราช กลัวว่าชายผู้นั้นจะคิดสั้น เพราะครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เหมราชเมามายไม่เป็นตัวเอง เขาพร่ำพรรณนาถึงความรักที่มีให้กับเพลาพิลาศ แต่พี่สาวของเธอหาได้ใส่ใจ เพลาพิลาศเดินผ่านชายหนุ่มเหมือนเขาเป็นแค่กองขยะ เพราะเวลานี้หล่อนกำลังขึ้นหม้อ เป็นว่าที่คู่ควงของผู้อำนวยการสร้างหนังคนล่าสุด จะมาสนใจทำไมกับผู้ชายกิ้กก้อกทำงานรับเงินเดือนแค่หยิบมือ ถึงชายหนุ่มจะมีพื้นฐานครอบครัวร่ำรวย แต่มันยังไม่ใช่ของเขาเพราะยังต้องแบมือขอเงินจากมารดา...เมื่อมีเป้าหมายที่ดีกว่า เพลาพิลาศจึงไม่รีรอที่จะเดินหนี “พี่เพลา คุณเหมหายไปเลยเนอะ?” ระหว่างที่กำลังลองชุดสวย พราวฟ้าถามหาเหมราชกับพี่สาว “แกจะใส่ใจทำไมกับผู้ชายเห่ยๆ คนนั้นหะยัยพราว อ่อนแอก็แพ้ไปจ้ะ รวยไม่จริงแกคิดว่าพี่จะเอาจริงรึ!!” กลีบปากสีแดงสดขยับพูด หล่อนไม่สำเหนียกสักนิดถึงความผิดที่ตัวเองทำ หญิงสาวสลัดเหมราชทิ้งแบบไร้เยื้อใย เมื่อมีผู้ชายคนใหม่มาติดพัน “แต่คุณเหมเธอดีกับพี่เพลานะ ฐานะก็ดีด้วย” “เอะ!! ยัยพราว วันนี้แกกินอะไรผิดสำแดงมาไงหะ ถึงได้พร่ำหาแต่ผู้ชายแหยๆ คนนั้น” เพลาพิลาศหันมาตวาด หล่อนแยกเขี้ยวให้น้องสาว ก่อนจะจับยัดเสื้อผ้าที่เลือกไว้ใส่มือน้องสาว ให้พราวฟ้าไปจัดการชำระเงิน... “ฉันเอาทั้งหมดนี่แหละ จัดการให้ด้วย” “พี่เพลาคะ แต่ว่า...” หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาวเหยียด เสื้อชุดสวยที่ถูกยัดใส่มือมา มีไม่ต่ำกว่า4 ชุด สนนราคาไม่ต้องพูดถึง มันคงแพงจนเธอไม่อยากควักกระเป๋าจ่าย เธอเสียดายเงิน “อย่าเรื่องมากน่ายัยพราว แค่ไม่กี่สตางค์ เดี๋ยวคุณพุฒก็คืนมาให้เองแหละ” พุฒิพัฒน์คู่ควงคนล่าสุดของเพลาพิลาศ เขาเป็นถึงผู้อำนวยการสร้างหนัง ถึงจะอ้วนฉุ พูดจาไร้มารยาท แต่กระเป๋าหนักจนเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น และคนล่าสุดคือเพลาพิลาศ หล่อนหวังจะได้เป็นตัวจริง เพราะทีท่าของพุฒิพัฒน์ที่มีต่อตัวเอง เขาหลงใหลหล่อนจนโงหัวแทบไม่ขึ้น “แค่ไปทานข้าว ชุดเดียวก็น่าจะพอนี่คะ” พราวฟ้าพยายามแย้ง เธอจ่ายค่าเสื้อผ้าของพี่สาว ยังไม่ทันถึงครึ่งเดือน หมดเป็นแสนบาท “ไปเลยแกยัยพราว อย่ามาขวางให้ฉันอารมณ์ขึ้น เงินฉันย่ะ ไม่ใช่เงินแก” เพลาพิลาศตวาดก้อง หล่อนเริ่มหงุดหงิดกับความเรื่องมากของน้องสาว หมู่นี้จะท้วงบ่อยเกิน “ค่ะ!!” พราวฟ้าเลยหมดคำทัดทาน เพลาพิลาศเอาแต่ใจตัวเอง หล่อนจะทำใครกล้าขวาง เมื่อพราวฟ้าก็ต้องอาศัยเพลาพิลาศ เมื่อตัวเองต้องคอยดูแล แลกกับเงินเดือน แต่ทำงานไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้ “ยัยนางแบบนั่นกำลังขึ้นหม้ออะเธอ เลยผยอง...ว่าไหมหล่อน” เสียงกระซิบคุยกันเบาๆ ของพนักงานในร้าน พราวฟ้าถอนใจเฮือก คงไม่แคล้วนินทาพี่สาวของเธอ เพราะเรื่องแบบนี้เธอได้ยินจนชิน “ช่ายยย คงไม่รู้ตัว...เสี่ยอ่ะ เขาเบื่อง่าย ดูสิเขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการมากี่ปี คั่วทั้งนางเอกนางร้าย นับประสาอะไรกับนางแบบ” “อืม...คนพรรณนั้นหวังอะไรรู้ๆ อยู่” เสียงหัวเราะคิกคัก หลังชำเรืองมองเพลาพิลาศ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ ผู้ชายที่เปย์ไม่อั้นเขาหวังอะไรจากผู้หญิง...ถ้าไม่ใช่ร่างกาย... “ยัยคนนี้เขาไม่ถือหร๊อก!!...หล่อนฉาวจะตาย” พราวฟ้าหน้าชาแทนเพลาพิลาศ เพราะเรื่องที่เป็นหัวข้อสนทนา...ล้วนเป็นเรื่องจริง...กว่าเพลาพิลาศจะมายืนตรงจุดนี้ได้ หล่อนทุ่มแบบหมดหน้าตัก ไม่สนว่าต้องใช้อะไรแลกกับการเข้ามาเฉิดฉาย จนได้ผงาดอยู่เหนือทุกคน พฤติกรรมเหลานั้น พราวฟ้ารู้ดีแก่ใจ เธอทำได้แค่เป็นห่วง เพราะหากพูดขึ้นมา มีหวังบ้านแตก!! “ช่ายยย หล่อนเป็นผู้หญิงลั๊ลลา...แค่นี้สิวๆ ฮ่าๆ” จบด้วยเสียงหัวเราะ เป็นข่าวฉาวที่คนภายนอกเสพจากสื่อ มันทำให้คนเกิดและดับได้ แต่เพราะพิลาศกลับโดดเด่นขึ้นมา หล่อนไม่แคร์ปากคน เมื่อหล่อนโกยเงินได้จากข่าวฉาวๆ เหล่านั้น ยิ่งเป็นกระแส หล่อนยิ่งมีงานวิ่งชน “อุ้ย!!” สามสาวที่นินทาอย่างออกรสถึงกับสะดุ้ง เมื่อหันกลับมาเจอพราวฟ้า หญิงสาวพยายามวางสีหน้าให้นิ่งที่สุด เพราะหากแสดงความไม่พอใจออกไปเกรงว่าจะไปกันใหญ่ และอาจทำให้ชื่อเสียงของเพลาพิลาศลดลง “ทั้งหมดเลยเหรอคะ” หล่อนยิ้มกร่อยๆ ให้พราวฟ้า ขณะที่ยื่นมือออกมารับชุดสวยๆ ไปจัดการใส่กล่อง “ค่ะ...” หญิงสาวตัดใจ เธอห้ามปากคนไม่ได้ เพราะที่เขาพูดกัน มันก็คือเรื่องจริง กว่าจะยอมออกจากร้านเสื้อ กว่าเพลาพิลาศจะหยุดช็อป พราวฟ้าก็เดินจนขาลาก ไม่มีอะไรเป็นของเธอสักชิ้น ที่หอบหิ้วจนแขนโก่งมีแต่ของพี่สาว เมื่อหล่อนจ่ายไม่อั้นเพราะมีคนเสนอตัวเปย์ให้ เพลาพิลาศเลยสนองความอยากของตัวเองเต็มคราบ ผลพวงคือ พราวฟ้าแทบจะขนกลับไม่ไหว สองมือของเธอหิ้วจนล้า ในขณะที่พี่สาวเดินโฉบเข้าร้านนั้นที ร้านนี้ที แต่ว่า...ทุกทีที่เพลาพิลาศปรากฏตัว...มีสายตาชื่นชม แอบริษยาเสมอ หล่อนสวย หล่อนดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่แปลกหรอกหากจะมีคนมอง รวมทั้งคนของสิงหราชด้วย เขาจับตามองพร้อมกับจดจำกิจวัตรประจำวันของเพลาพิลาศ เพื่อรอจังหวะลงมือ ตามคำสั่งของนายหนุ่ม พราวฟ้ารู้สึกถึงรังสีอันตราย เธอรู้สึกอึดอัดเหมือนมีคนจ้องมองทุกฝีก้าว แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเท่านั้นเอง “คิดมากละมั้งเรา” เธอบ่นอุบ มองไปรอบๆ ตัว แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดใดเลย มีผู้คนเดินสวนไปสวนมาปกติ เมื่อมันเป็นห้างสรรพสินค้า เธออาจจะคิดมาก ระแวงไปเองก็ได้ “พราว...พี่จะเปลี่ยนรถดีไหม?” เพลาพิลาศเปรยเหมือนขอความเห็น เธอมองรถยนต์คันหรูของตัวเอง พร้อมกับอมยิ้มกรุ่มกริ่ม แค่นี้ยังไม่พอ เธอต้องเหนือกว่าทุกคน อะไรที่ช่วยเสริมให้ตัวเองดี ตัวเองเด่น หญิงสาวไม่รอช้าที่จะไขว่คว้า... “คันนี้ยังไม่ถึงปีนะคะพี่เพลา” หญิงสาวท้วง งานของเพลาพิลาศมีตลอดก็จริง แต่หากเป็นขาลง จะเอาสตุงสตางค์ที่ไหนมาผ่อนจ่าย ไหนจะรายจ่ายในบ้านที่อาศัยคุ้มศีรษะ ไหนจะรถยนต์ ไหนจะค่ากิน ค่าใช้ ค่าไฟ ค่าคนงาน จิปาถะเสียจนพราวฟ้ากลัวแทน “แล้วไง ฉันอยากเปลี่ยน!!” คนเป็นพี่หันมาตวาดน้องสาว...เธอเหยียดยิ้มไหวไหล่... “มีคนเปย์ให้ ไม่เอาก็โง่สิ!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD