“กะทิ แกจะไปทำงานที่นั่นจริงเหรอ” สายรุ้งเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพื่อนรัก
กะทิ หรือ กันติมา สาวน้อยอายุ 21 ปี จบปริญญาตรี สาขาการบัญชี รูปร่างน่าตา จัดอยู่ในประเภท น่ารัก น่าทะนุถนอม นัยตาโต ราวกวางน้อย สูง 168 เซนติเมตร สัดส่วนถือได้ว่า เพอเฟค อกเป็นอก เอวเป็นเอว และเป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งหลาย ส่วนสายรุ้งเพื่อนสาว เรียนในสาขาเดียวกัน สายรุ้ง เป็นสาวห้าว แต่หน้าตา สวยคม บรรดาเพื่อนๆ ชอบมองว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกัน ซึ่งในความเป็นจริง เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลก และทั่งคู่ก็ไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดของทุกคน เพราะถือว่าเป็นเกราะป้องกันตัวได้นิดหน่อย จากบรรดาหนุ่มๆ บางคนที่คิดจะขายขนมจีบเธอทั้งสอง รู้แบบนี้ก็ไม่อยากมายุ่งกับพวกเธอเท่าไหร่ กันติมานั้นเป็นสาวน้อยผู้มากับความซุ่มซาม จนสายรุ้งชอบบ่นว่า เมื่อไหร่ นิสัยซุ่มซ่ามแบบนี้จะหายไปซะที
“อือ จริงสิ ฉันต้องรีบทำงานหาเงิน เพราะค่าใช้จ่าย มันจ่อตูดฉันอยู่ จะให้ฉันรองานที่สมัครไว้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ ฉะนั้น ฉันก็จะไปทำงานนี้รอ จะได้มีรายได้เข้ามาไง” กันติมาตอบเพื่อนไป เพราะกันติมานั้นมีภาระ ที่ต้องรับผิดชอบ
กันติมาอาศัยอยู่บ้านกับแม่แค่สองคน เพราะ พ่อของเธอนั้นเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เธอจึงอยู่กับแม่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านที่พ่อกับแม่ซื้อไว้ ตั้งแต่เธอเล็กๆ เป็นบ้านไม้สองชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ทาสีฟ้าทั้งหลังเพราะเธอชอบสีฟ้า เนื้อที่บริเวณบ้าน ประมาณ 2 งาน รอบๆ บ้านปลูกต้นชวนชม มะม่วง มะปราง และก็ส้มโอ ทำให้บริเวณบ้านนั้น ร่มรื่น เย็นสบาย
ตั้งแต่พ่อเธอจากไป พ่อก็ได้ทิ้งเงินไว้ให้เธอกับแม่ก้อนหนึ่ง ถ้าใช้แบบประหยัด มีเงินใช้แบบไม่เดือนร้อน แต่ทุกอย่างมันก็ไม่แน่นอน มีเหตุการณ์ให้ต้องใช้เงิน เพราะเมื่อปีที่แล้ว แม่ป่วยเป็นโรคไต ต้องเข้ารับการฟอกไตตลอด และค่าใช้จ่ายในการฟอกแต่ละครั้งก็มากพอสมควร เงินที่พ่อทิ้งไว้ให้ ก็เริ่มจะร่อยหร่อลงเรื่อย ๆ เพราะแม่ก็ทำงานหนักไม่ได้แล้ว และเธอก็เพิ่งเรียนจบด้วยจึงยังไม่มีงานประจำทำ แต่เธอก็ส่งใบสมัครไปตามบบริษัทต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบเธอมาเลย เธอจึงต้องพยามหารายได้เพิ่มเข้ามา และนั้นจึงทำให้เธอไปสมัครงาน ที่ สตาร์เวิร์ดคลับ ในตำแหน่ง แคชเชียร์ และเขาก็นัดสัมภาษณ์วันเสาร์นี้
“แต่ฉันว่ามันอันตรายไปไหมแก งานกลางคืน แถมมีแต่พวก เสือสิงห์ กระทิงแรด ทั้งนั้น ถ้ามันเห็นแกนะมีหวัง โอ้ยฉันไม่อยากจะคิดเลย ฉันเป็นห่วงแกนะ กะทิ” สายรุ้งพยายาม โน้มน้าวจิตใจให้กันติมาเปลี่ยนใจ เพราะเธอเป็นห่วงเพื่อนรัก การทำงานในสถานที่แบบนั้นย่อมมีอันตรายจากพวกผู้ชายที่ชอบผู้หญิงสวย ยิ่งอย่างกันติมาด้วยแล้ว ยิ่งน่าห่วง ไหนจะขี้เหล้า ที่มีมากมายในนั้น และกันติมา เป็นผู้หญิงที่ ใครๆได้เห็น ยากที่จะปฏิเสธถึงความน่ารัก และเสน่ห์ของเธอ
“คงไม่เป็นไรหรอกแก ฉันทำตำแหน่งแคชเชียร์ ไม่ได้เสิร์ฟ ซะหน่อย คงจะไม่ได้พบใครมากหรอก”กันติมาคิดในแง่ดี
“และอีกอย่าง เขาให้เงินเดือนดีนะ งานสมัยนี้ได้เงินเดือนสูงแบบนี้หายากแล้วนะแก”กันติมาเอ่ยกับเพื่อนรัก
“แต่ฉันก็เป็นห่วงแก่อยู่ดี และอีกอย่างแกจะบอกแม่แก้วยังไง ว่าแกจะไปทำงานในคลับนั้น แล้ว แม่แก้วจะยอมเหรอ”สายรุ้ง บอกกันติมาด้วยความเป็นห่วง
“นี้แหละเป็นอีกเรื่องที่ฉันจะขอความช่วยเหลือจากแก ฉันจะบอกแม่ว่า ฉันทำงานที่โรงแรม และเข้ากะ ตลอด ถ้าแม่ถาม แกบอกแม่ตามนี้นะรุ้ง ถ้าบอกความจริงว่าฉันไปทำงานในคลับ แม่ไม่ยอมให้ไปหรอก”กันติมาบอกสายรุ้ง เพราะถ้าแม่เธอรู้ไม่มีทางที่จะอนุญาติให้เธอไปทำแน่ ๆ
“แกไม่เปลี่ยนใจ จริงๆเหรอ กะทิ “ สายรุ้งเอ่ยอีกครั้ง
“ไม่ และพรุ่งนี้ฉันจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ฉันสัญญาจะดูแลตัวเองให้ดี “กันติมาบอกเพื่อน เพราะเธอรู้ว่าสายรุ้งเป็นห่วงเธอจริงๆ แต่เธอก็ตั้งใจแล้วว่าจะทำให้ได้
“งั้นก็ขอให้แกโชคดี อยู่รอดปลอดภัยจาก ปากเหยี่ยวปากกานะแก” สายรุ้งเอ่ยพร้อมกับกุมมือเพื่อนรักไว้แน่น เพราะเธอรู้นิสัยของกันติมาดี ว่าเมื่อตัดสินใจอะไรแล้วยากที่จะเปลี่ยนใจ เรียกได้ว่าดื้อเงียบ ไม่ยอมอะไรง่าย
“งั้นวันนี้เรามาฉลองกับงานของแกกันเถอะ ฉันเลี้ยงไอติมแก ปะ”สายรุ้งเดินไปร้านไอครีมพร้อมกับดึงมือกันติมาตามมาติดๆ
เมื่อแยกจากสายรุ้งและกลับมาถึงบ้าน กันติมาก็ต้องบอกเรื่องที่เธอจะไปทำงานกับแม่ของเธอ แรกๆ แม่ก็ไม่ยอม เพราะเป็นห่วง แต่กันติมาก็ออดอ้อน ยกสาระพันเหตุผลมาคุยกับผู้เป็นแม่จนแม่ยอมให้เธอไปทำงานจนได้
“ขอบคุณนะคะแม่ ที่เข้าใจกะทิ”กันติมาเดินมาโอบเอวผู้เป็นแม่และหอมแก้ม ซ้ายขวา สองฟอดใหญ่
“แม่ก็ไม่อยากเข้าใจเลย จริง ๆ แม่เป็นห่วง กะทินะลูก”แม่แก้วเอ่ยกับผู้เป็นลูกสาว อย่างเป็นห่วง แต่แม่แก้วก็รูนิสัยกันติกมาดีว่าเป็นเช่นไรจึงไม่อยากขัดความตั้งใจขอลูกสาว
…………………………………………………………………………….