'เช้าวันต่อมา'
หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตารอมาทั้งคืนและเเล้วเช้าวันใหม่ที่หน้าตื่นเต้นก็มาถึงเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จสามพี่น้องก็ขับรถหรูแล่นออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้าโดยมีจุดหมายปลายทางคือบ้านนอัศวะโยธินหรือบ้านของข้าวหอมนั่นเอง
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางอยู่นั้นพวกเขาก็หาเรื่องมาพูดคุยกันเพื่อคลายเหงา จนไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็แล่นเข้ามาในรั้วบ้านอัศวะโยธิน ซึ่งเวลาที่พวกเขามาถึงนั้นก็เป็นเวลาที่ข้าวหอมกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่กับแม่เพียงสองคนพอดีเพราะเจ้าหยางพ่อของเธอเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศตั้งแต่เช้าตรู่เเล้ว
"ใครมาบ้านเราแต่เช้ากันนะ"ขวัญฤดีเอ่ยขึ้นในขณะที่เธอกำลังร่วมโต๊ะอาหารอยู่กับลูกสาว เมื่อดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นรถหรูราคาเเพงกำลังเลี้ยวเข้ามาในเขตรั้วบ้าน
"อ๋อ เพื่อนพี่เจ้าขุนน่ะคะแม่พวกพี่เขามารับข้าวหอมไปมหาลัยค่ะ คือ ช่วงนี้พี่เจ้าขุนกำลังยุ่งๆอยู่กับการทำโปรเจกน่ะคะเลยไม่ว่างมารับข้าวหอม"ข้าวหอมเอ่ยบอกแม่ของเธอด้วยสีหน้าท่าทางปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอหัดโกหกผู้ใหญ่ซึ่งเธอเองก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
"จะดีเหรอลูกหนูเป็นผู้หญิงนะคะ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นขวัญฤดีก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อยเพราะขึ้นชื่อว่าเพื่อนพี่ชายก็ต้องล้วนเป็นผู้ชายกันทั้งนั้น
"พวกพี่เขานิสัยดีค่ะแถมตอนอยู่มหาลัยพวกพี่เขายังดูแลข้าวหอมดีอีกด้วยค่ะ"เพราะเบื้องหน้าพวกเขาดูอบอุ่นและอ่อนโยนจึงทำให้สาวน้อยอย่างเธอเชื่อใจจนสนิท
"อย่างนั้นเหรอจ๊ะ งั้นก็ไปเรียกพี่ๆเข้ามาทานข้าวเช้ากับเราสิลูก แม่จะได้ทำความรู้จักกันไว้ ป้าอุ่นจ๊ะไปเตรียมอาหารเช้ามาไว้เผื่อด้วยนะคะ"เมื่อลูกสาวตัวเล็กตัวน้อยการันตีถึงนิสัยใจคอของเพื่อนลูกชายแล้ว ขวัญฤดีก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะเอ่ยบอกเธอเดินออกไปต้อนรับเเขกเข้ามานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันทันที
เมื่อขวัญฤดีพูดจบข้าวหอมก็รีบหยัดกายลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเดินออกไปต้อนรับสามพี่น้องพร้อมกับเอ่ยปากชวนพวกเขาเข้ามาร่วมโต๊ะอาหารเช้าด้วยกันทันที
"สวัสดีครับคุณแม่ ผมจอมทัพนะครับเป็นเพื่อนกับเจ้าขุน ส่วนนี่จอมพลกับจอมเดชน้องชายผมครับ"ทันทีที่ย่างเก้าเข้ามาจอมทัพก็รีบยกมือหนาไหว้ขวัญฤดีอย่างมีมารยาทพร้อมกับแนะนำน้องชายแต่ละคนให้ขวัญฤดีรู้จักทันที
"สวัสดีครับ ผมจอมพลนะครับ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นคุณแม่ของน้องข้าวหอม ผมนึกว่าเป็นพี่น้องกันซะอีกนะครับเนี่ย คุณแม่เป็นคุณแม่ที่ยังสาวยังสวยอยู่เลยนะครับ"จอมพลเองก็ยกมือหนาไหว้พร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะพูดเอาอกเอาใจขวัญฤดีตามประสาคนขี้ประจบและปากหวาน
"แหม้ นอกจากจะหน้าตาหล่อเหลาแล้วยังปากหวานกับคนแก่อีกด้วยนะจ๊ะเด็กพวกนี้นิน่าตีจริงๆเลย"ขวัญฤดีเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจกับคำชมของเพื่อนลูกชาย จะว่าไปถ้าดูจากภายนอกตอนนี้ทั้งสามคนก็ดูไม่มีพิษภัยอะไรแต่ยังไงนิสัยใจคนก็ต้องดูกันยาวๆ
"ใครว่าคุณแม่แก่กันครับ ไม่มี้ คุณแม่ยังสาวยังสวยแถมยังดูภูมิฐานดีอีกด้วยนะครับ ผมจอมเดชนะครับคุณแม่ เป็นน้องชายคนเล็กของบ้านครับ"จอมเดชที่ยืนอยู่ข้างๆพี่ชายก็รีบเสนอหน้าเข้ามาประจบประแจงเพื่อทำคะแนนเช่นกัน
"จ๊ะ ไม่แก่ก็ไม่แก่ เด็กๆพวกนี้นี่ปากหวานจริงๆเลย มะ กินข้าวเช้าด้วยกันนะจ๊ะ" ขวัญฤดีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานน่าฟังก่อนจะเชื้อเชิญทุกคนให้มานั่งกินข้าวร่วมกัน
เมื่อสิ้นสุดคำพูดของขวัญฤดีสามพี่น้องก็พากันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่แม่บ้านได้จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อทุกคนนั่งลงพร้อมหน้าพร้อมตากันเรียบร้อยแล้วแม่บ้านก็รีบยกจานอาหารเข้ามาเสิร์ฟ ก่อนที่ทุกคนจะลงมือทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย
"อาหารอร่อยมากเลยครับ คุณแม่ทำเองเหรอครับ"จอมทัพที่กินข้าวต้มปลาจนเกือบหมดชามเอ่ยปากชมขึ้นมาเสียงหวาน ก่อนจะแกล้งถามออกไปทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าขวัญฤดีเป็นคนทำข้าวต้มปลาในเช้านี้เพราะเจ้าขุนชอบเล่าให้เขาฟังอยู่บ่อยๆว่าแม่ของเขาชอบทำอาหารเช้าให้ทาน
"ใช่จ๊ะ อาหารเช้าง่ายๆพวกนี้ส่วนมากแม่จะเป็นคนทำเองทุกวัน อร่อยก็กินเยอะๆนะจ๊ะ"ขวัญฤดียิ้มหน้าบานเมื่อมีคนชมว่าเธอทำกับข้าวอร่อย
"ถึงว่า ข้าวต้มถ้วยนี้ถึงอร่อยมาก เพราะคุณแม่คนสวยเป็นคนทำนี่เอง งั้นผมขอเพิ่มอีกได้ไหมครับ"จอมเดชพูดขึ้นอย่างเอาใจพร้อมกับยกถ้วยข้าวต้มที่เกลี้ยงชามให้ขวัญฤดีดูว่าข้าวต้มที่เธอทำนั้นมันอร่อยจริงๆ
"ได้สิจ๊ะ แม่ทำไว้เยอะเลย ถ้าชอบกินจริงๆวันหลังก็มากินอีกนะแม่ยินดีทำให้กินจ๊ะ"
"ครับแม่"เสียงทุ้มของสามพี่น้องขานรับพร้อมกัน แน่นอนว่าพวกเขาต้องมาที่นี้บ่อยขึ้นและคงจะได้กินอาหารฝีมือขวัญฤดีบ่อยๆด้วยเช่นกัน
'30นาทีผ่านไป'
หลังจากที่ทุกคนทานข้าวเช้าอิ่มจอมพลกับจอมเดชก็พูดประจบประแจงขวัญฤดีไม่หยุดปากโดยเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้างทำเอาขวัญฤดีที่เป็นคนฟังนั้นก็นั่งยิ้มอย่างเอ็นดู
"งั้นพวกผมขอตัวพาน้องข้าวหอมไปเรียนก่อนนะครับคุณแม่"ในระหว่างที่น้องชายทั้งสองคนกำลังพูดคุยดับขวัญฤดีอยู่นั้นจอมทัพก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเบาๆเพราะเขากลัวว่าข้าวหอมจะเข้าเรียนสาย
"อ่อ จ้ะๆ ว่างๆก็มาทานข้าวกับแม่อีกนะจ๊ะ"ขวัญฤดีเอ่ยบอกสามพี่น้องอย่างใจดี จะว่าไปการที่ได้พูดคุยกับสามพี่น้องแบบนี้ก็มีความสุขไปอีกแบบเหมือนกัน
ซึ่งทุกการเคลื่อนไหวและทุกการแสดงออกของสามพี่น้องตกอยู่ในสายตาของสาวน้อย โดยเธอเองก็ดูไปและเผลอยิ้มไปอย่างไม่รู้ตัว เธอรู้ว่าแม่รักเจ้าขุนมาก เมื่อเพื่อนของเขามาหาแม่จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ แถมวันนี้เธอก็ได้พูดคุยได้หัวเราะได้เห็นสกิลการประจบประแจงของสามพี่น้องอีกด้วย
"น่าน้อยใจจังเลยค่ะ คุณแม่ลืมลูกสาวคนนี้ไปซะแล้ว"เสียงใสเอ่ยขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจทำเอาคนที่ได้ยินนั้นถึงกับคลี่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
"โถ๋ ไม่เอานะคะไม่น้อยใจนะคะ ยังไงแม่ก็รักหนูที่สุดอยู่แล้ว แต่นานๆทีแม่ถึงจะได้เจอเพื่อนๆของพี่เจ้าขุน ขอแม่ปลื้มหน่อยสิค่ะ"ขวัญฤดีเอ่ยบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงหวานมือเรียวพลางยื่นไปโอบกอดลูกสาวตัวน้อยเอาไว้อย่างรักใคร่
"ข้าวหอมรู้ค่ะว่าคุณแม่รักข้าวหอมมาก ข้าวหอมก็รักคุณแม่มากเหมือนกันนะคะ ข้าวหอมไปเรียนก่อนนะคะ จุ๊บ"เธอพูดพร้อมกับออดอ้อนผู้เป็นแม่อย่างน่ารักน่าชังแถมส่งท้ายด้วยการหอมแก้มเหมือนกับที่เธอเคยทำอยู่ทุกวัน
"พวกผมไปก่อนนะครับคุณแม่"เป็นเสียงของจอมเดชที่เอ่ยขึ้น
"จ๊ะ ไว้มาหาแม่อีกนะจ๊ะ"
"ครับ พวกผมมาอีกแน่นอนครับ"จอมพลเอ่ยลาผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยรอยยิ้มก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย
เมื่อทุกคนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้วจอมเดชก็ขับรถคันหรูแล่นออกไปจากบ้านหลังใหญ่โตของอัศวะโยธินทันทีโดยจุดหมายปลายทางของพวกเขาในตอนนี้ก็คือมหาลัย
'บนรถ'
ตอนนี้ทั้งสี่คนนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนกับเมื่อวาน โดยจอมเดชเป็นคนขับและเป็นคนชวนพูดคุยเกี่ยวกับการเรียน เพราะวันนี้เขามีวิชาที่ต้องเข้าเรียนกับข้าวหอมด้วย
"แล้วรุ่นพี่พวกนั้นยังมายุ่งวุ่นวายกับน้องข้าวหอมอยู่ไหม"จอมพลเอ่ยถามถึงกลุ่มของต้าร์ที่เคยมาเฝ้าตามจีบข้าวหอมอยู่บ่อยๆไหนจะมินนี่ที่คอยมาหาเรื่องข้าวหอมอยู่บ่อยๆเช่นกัน
"ไม่แล้วค่ะ ตอนนี้ทั้งสองคนนั้นหายไปเลยค่ะ สงสัยคงยุ่งกับการเรียนมั้งคะ"ข้าวหอมขยับตัวไปนั่งระหว่างกลางเบาะหน้าแล้วยื่นใบหน้าสวยออกไปพูดคุยกับจอมพลและจอมเดชด้วยความเคยชิดเพราะทุกๆครั้งที่เธอไปไหนมาไหนกับครอบครับเธอก็มักจะนั่งแบบนี้อยู่ตลอด ซึ่งการที่เธอโน้มตัวลงมาแบบนี้ก็ทำให้สายตาคมของใครบางคนจ้องมองหน้าอกขาวๆของเธอแล้วแอบกลืนน้ำลายลงคออยู่
"แม่ง!!!แข็งไปหมดแล้ว ทำไมมันทั้งขาวทั้งอวบขนาดนี้วะ"จอมพลที่เหลือบมองหน้าอกหน้าใจของข้าวหอมก็ได้แต่สบถออกมาเบาๆอย่างอดกลั้น
เอี๊ยด!!!!
จู่ๆจอมเดชก็เหยียบเบรกรถกะทันหัน ทำให้ข้าวหอมที่นั่งอยู่ระหว่างกลางนั้นหัวทิ่มไปข้างหน้า แต่โชคดีที่จอมทัพคว้าเอวบางของเธอเอาไว้ได้ทัน เขาคว้าเอวบางของเธอเอาไว้ด้วยความตกใจพร้อมกับดึงเธอมานั่งที่บนตักแกร่งของเขาโดยไม่รู้ตัว
"พี่ขอโทษนะครับน้องข้าวหอม พอดีมีหมาวิ่งตัดหน้ารถน่ะครับ"เมื่อได้สติจอมเดชรีบหันใบหน้าหล่อไปขอโทษขอโพยร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนตักแกร่งของพี่ชายจากใจจริงทันที
"มะ...ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อ พี่จอมทัพปล่อยข้าวหอมก่อนดีไหมคะ"ข้าวหอมเอ่ยบอกรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักพร้อมกับค่อยๆขยับร่างกายลงจากตักแกร่งของจอมทัพอย่างช้าๆเพราะเธอรู้สึกถึงความแข็งที่กำลังแข็งตัวจนถิ่มก้นงอนของเธอ
"คะ...ครับ"เมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยบอกเช่นนั้นจอมทัพก็รีบผละมือหนาออกจากเอวบางทันที ก่อนจะแสดงสีหน้าท่าทางเขินอายออกมาเพราะตอนนี้แก่นกายของเขากำลังแข็งจนปวดหนึบไปหมด คนบ้าอะไรจะกลิ่นตัวหอมขนาดนี้
เมื่อทุกอย่างโอเคแล้วจอมเดชก็ออกรถไปอย่างช้าๆ โดยในระหว่างนั้นก็ไม่มีใครพูดใครจาอีกเลยทั้งจอมพล จอมทัพก็ต่างพากันนั่งนิ่งและพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองให้สงบลง ส่วนข้าวหอมก็ได้แต่นั่งเขินอายอยู่เงียบๆกับสิ่งที่เธอพึ่งได้สัมผัสตอนที่นั่งลงบนตักแกร่งของจอมทัพแถมในจังหวะนั้นมือหนาของจอมทัพยังสัมผัสเข้ากับหน้าอกของเธอเต็มๆอีกด้วย
'25นาทีผ่านไป'
'มหาวิทยาลัย'
เมื่อขับรถมาในรั้วมาหาลัยจอมเดชก็หาที่จอดรถตามปกติ แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับพยายามจอดรถในที่มืดและห่างไกลจากรถคันอื่นๆเพื่อเริ่มแผนการที่สอง แต่ในขณะเดียวกันข้าวหอมก็ทำให้พวกเขาตื่นตกใจเมื่อเธอพูดขึ้นว่า....
"อ่อ จะให้ข้าวหอมจุ๊บใครก่อนดีคะ"ข้าวหอมเอ่ยถามสามพี่น้องอย่างรู้ทันก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างสดใส
ซึ่งจอมทัพ จอมพล จอมเดช ที่ได้ยินแบบนั้นก็สบตากันแล้วแสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเจ้าแผนการก่อนจะเป็นจอมทัพพี่ใหญ่ที่เอ่ยตอบ
"ตอนเช้ากับตอนเย็นมันไม่เหมือนกันนะครับ แถมวันนี้พวกพี่ยังต้องตื่นแต่เช้าขับรถฝ่ารถติดไปรับข้าวหอมถึงบ้านด้วย แค่จุ๊บแก้มมันไม่พอหรอกครับ"จอมทัพยกข้ออ้างสารพัดขึ้นมาอ้างเพื่อหวังจะเอาเปรียบกระต่ายน้อยแสนน่ารักที่นั่งอยู่ข้างๆ
"เอ๋ แล้วพวกพี่จะให้ข้าวหอมทำยังไงละคะ"ข้าวหอมเอียงคอถามอย่างน่ารักน่าชังที่สุดในสายตาของสามพี่น้อง ก็อย่างว่าเธอเรียนแต่ในโรงเรียนหญิงล้วนมาโดยตลอดเธอจึงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของสามพี่น้องที่เป็นถึงเสือร้ายในรั้วมหาลัยชื่อดังแห่งนี้
"วันนี้ข้าวหอมจะต้องจุ๊บปากพวกพี่ครับ"จอมเดชพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วเข้าที่ปากหยักของตัวเอง
"ห๊ะ!!! แต่ข้าวหอมไม่เคยจุ๊บปากกับใครมาก่อนเลยนะคะแม้แต่กับพี่เจ้าขุนหรือคุณพ่อก็ไม่เคยเลยนะคะ"ข้าวหอมได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้างอย่างตกใจ
"ก็เพราะเป็นพี่เจ้าขุนกับคุณพ่อไงครับถึงทำไม่ได้มันไม่เหมาะสมครับ แต่กับพวกพี่ไม่ใช่พี่แท้ๆ น้องข้าวหอมจึงจุ๊บปากได้ครับ"จอมพลอธิบายให้ข้าวหอมเข้าใจซึ่งทั้งหมดที่เขาพูดออกมามันก็เป็นเพียงคำหลอกลวงก็เท่านั้น
"ใช่ครับ เขาเรียกว่าการจุ๊บขอบคุณตามธรรมเนียมตะวันตกครับ แค่เอาปากแตะๆกันครับหรือถ้าน้องข้าวหอมอยากเปลี่ยนจุ๊บเป็นจูบพวกพี่ก็ยินดีนะครับ"จอมเดชพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางทะเล้นพร้อมกับทำท่าจะยื่นใบหน้าหล่อเข้าไปจูบเธอจริงๆ
"ไม่ๆค่ะ งั้นข้าวหอมจะจุ๊บปากพวกพี่ก็แล้วกันนะคะ"เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางเอาจริงเอาจังของจอมเดชเธอก็รีบเอ่ยขัดจังหวะทันที และทันทีที่สามพี่น้องได้ยินเช่นนั้นก็พากันคลี่ยิ้มออกมาอย่างชอบใจที่วันนี้ขยับไปอีกขั้นแล้ว แต่พวกเขาก็ยังตั้งความหวังเอาไว้ว่าอีกไม่นานจะเปลี่ยนจากจุ๊บเป็นจูบให้ได้