เคร้ง เคร้ง!!
อ๋องหนานกงชิงใช้ดาบของตนเอง เข้าขวางดาบของนักฆ่าคนหนึ่ง ที่กำลังฟาดฟันลงมาที่ร่างขององค์ชายใหญ่หนานหลิงหยุน ซึ่งกำลังนอนหมดแรงอยู่บนพื้น
“เสด็จอา”
น้ำเสียงอ่อนแรงพูดขึ้นด้วยความดีใจ ที่เห็นเสด็จอาที่ตนเคารพรักมาโดยตลอด เข้ามาช่วยเหลือเขาได้ทันท่วงที องค์ชายใหญ่ถูกแทงบริเวณช่องท้อง บาดแผลลึกพอสมควรจึงได้เสียเลือดมาก ยามนี้จึงได้อ่อนแรงจนพลาดท่าเสียทีให้กับคนร้ายที่มีฝีมือฉกาจ
ทางด้านหนึ่งองครักษ์ฟานจง ก็เข้าเข้าปะทะกับคนร้ายอีก 2คน ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมอ๋องหนานกับองค์ชายใหญ่ ส่วนองครักษ์ขององค์ชายใหญ่ ยามนี้ก็อาการไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ เนื่องจากกำลังถูกคนร้ายไล่บี้ จนเข้าใกล้บริเวณเหวลึกเข้าไปทุกขณะ
“พวกเราเข้าไปช่วยเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวได้ตกเหวกันหมด”
“ขอรับ/ขอรับ”
ผู้ติดตามทั้งสองคนของลี่เซียน ตอบรับโดยง่าย เพราะอยากเข้าไปช่วยเหลือทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรอรับคำสั่งจากคุณหนูของพวกเขาเสียก่อน
ร่างอรชนอวบอิ่ม พุ่งออกจากที่หลบซ่อน มีดสั้นที่เหน็บอยู่บริเวณขากางเกง ถูกขว้างออกไปเฉือนที่ข้อมือของคนร้ายอย่างแม่นยำ จนดาบหลุดออกมือคนร้ายร่วงลงสู่พื้นดิน
“อ๊ากกกกก”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เพราะข้อมือถูกของมีคมตัดผ่านเส้นเลือดใหญ่เข้าพอดี
ร่างเล็กๆเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว เข้าไปเก็บดาบที่อยู่บนพื้นดิน โยนเข้าไปให้องค์ชายใหญ่เก็บเอาไว้ บุรุษที่ถูกโยนดาบใส่มือได้แต่มองตามอย่างงุนงง ว่าตนต้องทำเช่นไรกับดาบเล่มนี้ ในเมื่อยามนี้ขนาดลุกขึ้นมาเดินด้วยตนเองก็ยังทำไม่ได้
ผลัวะ ผลัวะ!!!
เสียงตวัดขาเตะเข้าที่ก้านคอของคนร้าย ที่ถูกปามีดสั้นเข้าใส่จนดาบหลุดออกจากมือ ผู้ร้ายหมดสติไปอย่างง่ายดาย เพราะถูกลี่เซียนเตะอัดเข้าที่จุดสลบ เนื่องจากนางชำนาญทางด้านสรีระวิทยาของมนุษย์ จึงลงมือกับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยั้งมือไว้ไม่ให้ถึงขั้นคอหักตาย
ข้อมือเล็กๆเอื้อมลงไปดึงร่างใหญ่ขององครักษ์เหว่ย องครักษ์คนสนิทขององค์ชายใหญ่ ที่ยามนี้ถูกผลักลงไปใต้เหวลึก แต่เคราะห์ยังดีที่เขาเอื้อมมือ คว้าเอาชะง่อนหินบริเวณนั้นไว้ได้ทัน จึงยังไม่ได้ตกลงไปใต้เหวลึก และนักฆ่าคู่กรณีก็คือคนที่ลี่เซียนพึ่งเตะก้านคอจนสลบไปนั่นเอง
“ท่านแข็งใจอีกสักหน่อย ข้าจะดึงท่านขึ้นมาเอง”
ลี่เซียนรวบรวมพละกำลังที่มี และหามุมที่ร่างกายของนาง สามารถรับน้ำหนักชายร่างใหญ่ จากนั้นก็ออกแรงดึงแขนขององครักษ์เหว่ย ขึ้นมาจากปากเหวลึกจนสำเร็จในเวลาไม่นาน
“แฮ่ก แฮ่ก!! เหนื่อยชะมัด ท่านนอนพักตรงนี้ก่อน หายเหนื่อยแล้วค่อยตามเข้าไป”
น้ำเสียงหวานแต่ทว่าดูมีอำนาจ รีบสั่งการองครักษ์หนุ่ม ที่กำลังนอนหมดแรงอยู่บนพื้น จากนั้นนางก็เคลื่อนกายเข้าไปช่วยปะทะกับคนร้าย ที่กำลังฟาดฟันอยู่กับผู้ติดตามทั้งสองของนาง
องครักษ์เหว่ย ยังไม่ทันได้พูดขอบคุณผู้มีพระคุณ นางก็วิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกทึ่งที่คนมาช่วยชีวิตเขาไว้เป็นสตรีที่มีพละกำลังเยี่ยงบุรุษ ถึงขั้นดึงเขาขึ้นมาจากปากเหวด้วยตัวคนเดียว
ฉึก ฉึก!!
“อ๊ากกกก”
ฟุบ!!!
เสียงลูกธนูอาบยาสลบ ปักเข้ากลางหลังของคนร้าย ที่กำลังต่อสู้โรมรัน อยู่กับฝานคง และไห่เทียน นักฆ่าคนนี้คงมีฝีมืออยู่มาก เพราะสามารถต่อสู้กับผู้ติดตามของนาง ที่มีฝีมือดีได้ถึงสองคนพร้อมๆกัน โดยไม่ได้มีอาการเสียเปรียบแต่อย่างใด
แต่ทันทีที่ถูกลูกธนูอาบยาสลบของลี่เซียนเข้าไป ร่างสูงใหญ่ก็โงนเงน และล้มลงไปกับพื้นในที่สุด เพราะนางไปหาซื้อยาสลบที่รุนแรงที่สุด มาทาอาบลูกธนูของนางเอาไว้ทุกดอก!!
“ขอบคุณขอรับคุณหนู”
ฝานคงกับไห่เทียน ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ที่คุณหนูเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาทั้งสองได้ทันท่วงที เพราะนักฆ่าคนนี้แข็งแกร่งมาก ถูกโหมฟาดฟันดาบเข้าใส่เพียงไร ก็สามารถรับมือพวกเขาได้ทุกกระบวนท่า
ผู้ติดตามทั้งสองคน เริ่มจะหมดแรงเข้าไปทุกที ถ้าได้ต่อสู้กับนักฆ่าคนนี้ต่ออีกสักพัก มีหวังทั้งสองคนคงได้พลาดท่าเสียทีอย่างแน่นอน
ส่วนคนร้ายอีก2คน ที่กำลังต่อสู้กับอ๋องหนาน และองครักษ์ฟานจง ก็มีฝีมือดีมากเช่นกัน เพราะจนป่านนี้ก็ยังต่อสู้กันโดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเลย
“อืม พวกท่านเข้าไปช่วยเหลือท่านอ๋อง กับองครักษ์ฟานเถิด”
“ขอรับ/ขอรับ”
ทุกการต่อสู้ของสตรีชุดดำ ที่มีผ้าสามเหลี่ยมปิดบังใบหน้าเอาไว้ อยู่ในสายตาขององค์ชายใหญ่หนานหลิงหยุน ที่นั่งหมดแรงพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ เพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้อีกแล้ว
อ๋องหนานกงชิง ที่กำลังต่อสู้อยู่กับนักฆ่าที่แข็งแกร่ง ก็มองเห็นทุกการต่อสู้ของโจวลี่เซียนเช่นกัน การต่อสู้ที่ทั้งว่องไวและเฉียบขาด นางเน้นใช้ทักษะจุดตายและจุดสลบของคนร้าย มากกว่าใช้กำลังเข้าฟาดฟัน เพราะรู้ว่าร่างกายเสียเปรียบร่างกายของบุรุษ
โจวลี่เซียนเดินเข้ามามองเหตุการณ์การต่อสู้ และนึกรำคาญที่การต่อสู้ยืดเยื้อนานจนเกินไป จึงแอบอ้อมไปด้านหลังของคู่ต่อสู้คู่หนึ่ง แล้วกระโดดเข้าไปเตะก้านคอของคนร้าย ที่กำลังฟาดฟันเพลงดาบอยู่กับอ๋องหนานกงชิง
ผลัวะ!!
อ๊อก!!!!
เสียงกระดูกที่คอลั่น จนคนร้ายล้มลงหมดสติทันที มือยังถือดาบเอาไว้ไม่ยอมวาง ลี่เซียนเดินไปหยิบดาบในมือมาถือไว้ด้วยตนเอง ไม่ได้โยนไปให้องค์ชายใหญ่เก็บเอาไว้เช่นก่อนหน้า เพราะมองเห็นอาการขององค์ชายที่เสียเลือด จนใกล้หมดสติเต็มทีแล้ว คงไม่สามารถรับดาบจากนางได้อีก
ทางด้านองคงรักษ์ฟานจง เมื่อมีฝานคง กับไห่เทียนเข้าไปช่วยเหลือ ก็สามารถจัดการกับนักฆ่าแบบจับเป็นได้เช่นกัน ยามนี้เหตุการณ์การต่อสู้อันดุเดือดได้จบลงแล้ว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกๆคน
องครักษ์เหว่ยที่สามารถลุกขึ้นเดินได้แล้ว ก็ค่อยๆเดินประคองร่างกายอันบอบช้ำของตนเอง เข้าไปหาองค์ชายใหญ่ที่เอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ ซึ่งมีอาการใกล้จะหมดสติเต็มที
“ลี่เซียนขอบใจเจ้ามาก”
อ๋องหนานมองลี่เซียนด้วยแววตาอบอุ่น และกล่าวแสดงความขอบคุณออกมาจากใจจริง แก่สตรีที่ช่วยเหลือพวกเขาทุกคนเอาไว้จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้
ใช่แล้วสตรีบอบบางผู้นี้ได้ช่วยทุกคนเอาไว้จริงๆ จากที่เหตุการณ์ทุกอย่างกำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมื่อนางยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ สถานการณ์ก็พลิกผันจนทุกคนปลอดภัย และเอาชนะคนร้ายได้ในที่สุด ทั้งยังสามารถจับเป็นนักฆ่าได้ทุกราย ถึงแม้ว่าบางรายจะอาการสาหัสมากก็ตาม
“เพคะ ท่านอ๋องรีบไปดูองค์ชายใหญ่เถิด ท่าทางอาการจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คงเสียเลือดมากจากการถูกแทงเข้าที่ช่องท้อง”
“อืม”
เวลานี้ ทุกคนในคณะเดินทาง ต่างเดินเข้ามารวมกลุ่มกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่องค์ชายใหญ่หนานหลิงหยุน ใช้เป็นที่พักพิงร่างกาย อ๋องหนานมีสีหน้าร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นเลือดสีแดงสด ไหลทะลักออกมาจากช่องท้องของหลานชาย ซึ่งวันนี้สวมอาภรณ์สีขาวไข่มุก จึงมองเห็นสีของเลือดได้อย่างชัดเจน
ท่านอ๋องไม่มียาที่จะช่วยทำแผลหลานชายเลยสักอย่าง มีเพียงยาแก้ไข้ที่พกติดกายเอาไว้ก็เท่านั้น จึงได้มีท่าทีร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะกลางป่าใหญ่เช่นนี้ จะไปเสาะแสวงหาหมอที่ไหน มารักษาบาดแผลให้ว่าที่องค์รัชทายาทของแคว้นได้
ยามนี้องค์ชายใหญ่ได้หมดสติไปแล้ว ข้างกายเขามีองครักษ์เหว่ย นั่งตาแดงก่ำอยู่ข้างๆ เพราะเขาไม่รู้จะช่วยเหลือเจ้านายเช่นไร ยาที่ใช้ทำแผลก็ไม่มีติดตัวมาสักอย่างเช่นกัน เนื่องจากทั้งสองคนออกมาข้างนอกวังหลวง อย่างกระทันหัน และไม่ได้คาดคิดว่าจะถูกนักฆ่าตามมาทำร้ายเช่นนี้
“ท่านอ๋อง ให้หม่อมฉันดูแผลให้องค์ชายสักหน่อยได้หรือไม่เพคะ”
น้ำเสียงราบเรียบ ที่เป็นเหมือนความหวังของทุกคนได้กล่าวขึ้น ท่ามกลางความสิ้นหวังของบุรุษทั้ง6 คน