โจวลี่เซียนเดินเข้ามาในโรงน้ำชาจันทร์ฉาย พร้อมกับถิงถิง และเถียนเถียน สาวใช้คนสนิททั้งสองคน ที่มีนิสัยซื่อตรงและไม่พูดมากจนน่ารำคาญ ลี่เซียนจึงชื่นชอบที่จะออกมาเดินเที่ยวเล่น และนั่งจิบน้ำชากับพวกนางทั้งสองคน มากกว่าที่จะคบหากับพวกคุณหนูในห้องหอเหมือนเมื่อก่อน
ลี่เซียนเลือกที่นั่งบริเวณชั้นสอง เป็นที่นั่งติดระเบียงริมฝั่งถนน เพราะอยากนั่งชื่นชมบรรยากาสที่แสนคึกคักของเมืองหลวง ซึ่งในเวลานี้อากาศกำลังเย็นสบาย จึงเหมาะสมสำหรับการนั่งจิบชาแล้ว นั่งชื่นชมบรรยากาศของเมืองหลวงยิ่งนัก
“นั่งด้วยกันกับข้าเถอะ ไม่ต้องไปนั่งแยกโต๊ะ”
น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยบอกสาวใช้คนสนิททั้งสอง ถึงแม้ทุกวันนี้คุณหนูของพวกนางจะใจดี ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวเช่นแต่ก่อน แต่ด้วยท่าทีที่ดูองอาจสง่างามนั้น ทำให้บ่าวไพร่ในจวนล้วนแล้วแต่เกรงใจคุณหนู มากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
“เจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้ทั้งสองคนรับคำอย่างว่าง่าย
เมื่อได้น้ำชาสูตรพิเศษ และขนมของทางร้านแล้ว ลี่เซียนก็นั่งจิบและลิ้มรสด้วยความสุข ริมฝีปากอวบอิ่มแย้มยิ้มออกน้อยๆ ด้วยเพราะถูกใจในรสชาติของน้ำชาที่นุ่มละมุนลิ้น ไม่หวานแต่ดื่มง่าย ทั้งยังรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
กิริยามารยาททุกอย่างของนาง ดูสง่างามคล่องแคล่ว ใครเดินผ่านไปมาก็ต้องหยุดมองด้วยความตกตะลึง ในใบหน้าที่งดงามเกินกว่าหญิงใด ประกอบกับท่าทางที่ดูคล่องแคล่วว่องไว จึงดูมีเสน่ห์ตราตรึงใจอย่างร้ายกาจ
บุรุษผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของร้าน ซึ่งกำลังหันหน้าออกมาริมหน้าต่างก็ไม่ละเว้นเช่นกัน เขาจ้องมองนางอยู่นานเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ หัวใจของเขาเต้นระรัวยิ่งกว่าในครั้งแรกที่พบเจอสตรีผู้นี้
เมื่อองครักษ์คนสนิท เห็นเจ้านายมองไปยังทิศทางหนึ่งนานมากเกินไป จึงได้หันไปมองตามทิศทางนั้นบ้าง ฟานจงถึงกับตกตะลึง จนตาค้างกับภาพที่พบเห็นทันที
“งดงามกว่าเดิมหลายเท่านัก”
เสียงบ่นพึมพำขององครักษ์คนสนิท ได้ปลุกภวังค์ความคิดของอ๋องหนุ่มให้กลับมาได้สติดังเดิม
“อะ…อืม ระวังอย่าให้นางเข้าใกล้ข้าได้” เสียงนิ่งขรึมเอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจในคำสั่งของตนเอง
“หืม กระหม่อมไม่เห็นคุณหนูโจว มาตามตอแยท่านอ๋องนานหลายเดือนแล้วนะขอรับ ยังต้องระวังอีกหรือ?”
ฟานจงเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะโจวลี่เซียนก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับท่านอ๋องหนาน มานานหลายเดือนแล้ว เหตุใดยังต้องระแวงนางอีกเล่า
ให้เขาระวังคุณหนูอีกคน ยังจะมีประโยชน์เสียกว่า เพราะสายตาขององครักษ์หนุ่มมองเห็นจ้าวอิงเถา กำลังเดินเข้ามาในโรงน้ำชาจันทร์ฉายเช่นกัน
“ให้ระวังก็ทำเถอะ ถามมากจริงเชียว” น้ำเสียงติดหงุดหงิดบ่นออกไปพอให้องครักษ์ได้ยิน
“ขอรับ แล้วคุณหนูจ้าว ไม่ต้องระวังหรือขอรับ กระหม่อมเห็นนางกำลังเดินขึ้นมาบนชั้นสองแล้วเช่นกัน”
“หืม เจ้าคอยระวังพวกนางเถิด อย่าให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้อีก”
“ขอรับ”
จ้าวอิงเถารีบเดินเข้ามาในโรงน้ำชาจันทร์ฉาย เพราะมีสายข่าวรายงานว่า เห็นท่านอ๋องหนานอยู่ที่นี่ และโจวลี่เซียนก็มาที่โรงน้ำชาแห่งนี้เช่นกัน นางจึงต้องรีบมาขัดขวาง ไม่ให้โจวลี่เซียนได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับบุรุษสูงศักดิ์ ที่ตนเองหมายปอง
เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆร้าน ก็ไม่พบท่านอ๋องหนานอย่างที่ตั้งใจ จ้าวอิงเถาจึงเข้าใจว่าเขาออกจากโรงน้ำชานี้ไปแล้ว เรือนร่างผอมบางเยี่ยงคุณหนูในห้องหอทั่วๆไป ก้าวเดินไปหยุดอยู่ที่โต๊ะของโจวลี่เซียน คู่ปรับที่นางไม่พบหน้ามานานหลายเดือน ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อครั้งนั้น
“โอ๊ะ ตกต่ำจนไม่มีสหายพูดคุย เลยต้องได้มานั่งจิบน้ำชาร่วมกับบ่าวไพร่ในเรือนเชียวหรือ”
“………..”
ลี่เซียนกับสาวใช้ทั้งสองก็เงียบ ไม่ได้ตอบอะไรออกไป เพราะไม่ได้อยากพูดคุยกับใคร ในขณะที่กำลังดื่มด่ำชื่นชมอยู่กับรสชาติของขนม และน้ำชาสูตรพิเศษของทางร้าน ที่กลมกล่อมละมุนลิ้นยิ่งนัก
“คุณหนูของข้าคุยด้วย ทำไมพวกเจ้าเสียมารยาท ไม่ตอบคุณหนูของข้า”
สาวใช้คนสนิทของจ้าวอิงเถาเอ่ยขึ้น ทั้งยังจ้องมองไปที่ถิงถิง กับเถียนเถียน สาวใช้ของลี่เซียนอย่างอิจฉาริษยา ที่ได้ลิ้มรสขนม และน้ำชาสูตรพิเศษของโรงน้ำชาจันทร์ฉาย ไปพร้อมๆกับคุณหนูของพวกนาง
“หืม คุยกับพวกข้าหรือ ไม่เห็นเอ่ยนาม ข้าก็นึกว่าเจ้าคุยอยู่กับแม่ซื้อของตัวเองอยู่”
โจวลี่เซียนเงยหน้าขึ้นมองจ้าวอิงเถา วาจาราบเรียบก็เอ่ยตอบออกไป แววตาที่เคยเกรี้ยวกราดโมโหร้าย บัดนี้เหลือเพียงความดุดันและสุขุม มุมปากของลี่เซียนแย้มยิ้มออกมาน้อยๆ อย่างขบขันในพฤติกรรมเด็กน้อยของจ้าวอิงเถา
‘เมื่อก่อนข้าก็ทำยิ่งกว่านี้ น่าอายยิ่งนัก’ ลี่เซียนนึกในใจอย่างขบขัน ในพฤติกรรมเก่าก่อนของตนเอง
บุรุษที่นั่งจิบน้ำชาอยู่ในห้องส่วนตัวยามนี้ ได้หลบออกห่างๆจากมุมหน้าต่างแล้ว เพราะเกรงว่าสตรีทั้งสองจะมองเห็นเขา จนก่อเรื่องเดือดร้อนขึ้นมาอีก แต่หูทั้งสองข้างก็ยังนิ่งฟังบทสนทนาของพวกนางอย่างตั้งใจ
“กลับตำหนักดีกว่าไหมขอรับ”
“…………”
เมื่อเห็นเจ้านายทำท่าทางเหมือนกำลังหลบหนีเจ้าหนี้ องครักษ์ฟานจึงเอ่ยชวนเจ้านายกลับตำหนักเสียดีกว่า แต่ก็ได้เพียงความเงียบตอบกลับมา เขาจึงได้แต่นั่งรอต่อไป หูก็เงี่ยฟังสตรีด้านนอกพูดคุยกัน เช่นเดียวกับเจ้านายของเขา
“โจวลี่เซียน เจ้ามันตกต่ำขนาดที่ว่า ไม่มีสหายที่เป็นคุณหนูให้คบหาเลยเชียวหรือ จึงคบหาบ่าวไพร่เป็นสหายเช่นนี้ น่าอับอายยิ่งนัก”
จ้าวอิงเถา จีบปากจีบคอพูดจาเย้ยหยันโจวลี่เซียน ด้วยเพราะคาดหวังให้นางอับอายผู้คนในโรงน้ำชาแห่งนี้ จนลุกขึ้นมาอาละวาดเหมือนอย่างที่เคยทำมาตลอด
“อืม ข้าขี้เกียจคบพวกคุณหนูเพราะรำคาญ เจ้าก็น่ารำคาญเช่นกัน พูดจบรึยังคนกำลังจิบชาเพลินๆ เสียบรรยากาศหมด เป็นคุณหนูทำไมไม่มีมารยาทกันเสียบ้าง”
“นะ นี่เจ้า” จ้าวอิงเถาแทบพูดไม่ออกเมื่อถูกตอกกลับเช่นนี้
“ยัง ยังไม่ไปอีก ไปเสียในตอนที่ข้ายังอารมณ์ดีอยู่”
น้ำเสียงเฉยชามีอำนาจเอ่ยขึ้น จนจ้าวอิงเถานึกแปลกใจ แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้ มุมปากยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา เมื่อนึกแผนการบางอย่างออก
“เจ้าไม่รู้สินะ ว่าท่านอ๋องหนานก็มาที่โรงน้ำชาแห่งนี้ จึงได้มานั่งรวมอยู่กับบ่าวไพร่เฉกเช่นนี้”
น้ำเสียงอวดเบ่งเอ่ยขึ้น อย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า ส่วนบุรุษที่กำลังถูกพาดพิงกล่าวถึง ก็สะดุ้งตกใจที่จ้าวอิงเถารู้ว่าเขาอยู่ที่โรงน้ำชาจันทร์ฉายด้วย
“อืม ไม่รู้ แล้วอย่างไรต่อ” น้ำเสียงเฉยชาเอ่ยขึ้น เพราะเบื่อหน่ายเต็มทีแล้ว
“ท่านอ๋องหนานนัดหมายกับข้า ให้มาพบเจอกันที่นี่อย่างไรเล่า เจ้าน่ะเลิกหวังในตัวท่านอ๋องได้แล้ว”
จ้าวอิงเถาเอ่ยออกไปเสียงดังฟังชัด จนบุรุษที่อยู่ในหัวข้อสนทนาของสตรีทั้งสอง ถึงกับขมวดคิ้วที่มีคนกล่าวพาดพิงถึงเขาขนาดนี้ แต่หูก็ยังนิ่งฟังสตรีอีกนาง ว่าจะตอบกลับเช่นไร
“ไม่ได้หวังแล้ว เจ้าเอาไปเถิดตามสบายเลย มีเรื่องอะไรอีกไหมข้าอยากกินขนมต่อแล้ว น้ำชาก็เย็นชืดหมด หรือเจ้าจะใจดีสั่งมาให้ข้าใหม่”
“เหอะ อวดดีไปเถอะในใจคงน้ำตาไหลจะแย่”
“เห้อ!! สรุปพูดจบรึยัง เสี่ยวเออร์นำน้ำชาสูตรพิเศษมาอีก1 กา เก็บค่าน้ำชาที่คุณหนูจ้าวอิงเถาคนงามๆคนนี้”
“ขอรับ”
เสี่ยวเออร์ที่ให้บริการลูกค้าอยู่บริเวณนั้น รีบเดินมารับคำสั่งจากคุณหนูผู้งดงามที่สุดตั้งแต่เขาเคยเห็นมา และยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่มีคำสั่งซื้อน้ำชาสูตรพิเศษบ่อยครั้ง เพราะน้ำชาสูตรพิเศษนั้นราคาไม่ใช่น้อยๆ
“มานั่งลงด้วยกันเลยไหม เจ้าจะได้พูดจาอวดเบ่งไปเรื่อยๆ ข้าก็จะได้ดื่มชาที่นุ่มลิ้นไปเรื่อยๆ เช่นนี้ข้าจะยอมฟังเจ้าพูดทั้งวันเลย”
ในเมื่อไล่แล้วไม่ไป ลี่เซียนจึงชวนจ้าวอิงเถามานั่งจิบชาด้วยกันเสียนี่กระไร ได้จิบชาดีๆแบบไม่ต้องเสียตำลึงเพิ่ม นับว่าประเสริฐยิ่งนัก
“จะ….เจ้า เสี่ยวเออร์น้ำชาสูตรพิเศษกี่ตำลึง ข้าจะไปจ่ายให้คุณหนูโจวผู้ยากจนประเดี๋ยวนี้!!!”
“5ตำลึงทองขอรับคุณหนูจ้าว เชิญทางนี้ขอรับ”
“5 ตำลึงทอง!!!”
“หึหึ รบกวนคุณหนูจ้าวผู้ร่ำรวยด้วย ข้าโจวลี่เซียนผู้นี้ยากจนยิ่งนัก”
จ้าวอิงเถาหน้าซีดเผือด เพราะนางนำตำลึงมาไม่พอจ่าย ทั้งตัวนางมีเพียง1 ตำลึงทองเท่านั้น ครั้นจะบอกให้เสี่ยวเออร์ลงบัญชีไว้ ก็รู้สึกอับอายสายตาของคนในโรงน้ำชาแห่งนี้
ทันใดนั้นบุรุษที่นั่งฟังบทสนทนาของสตรีทั้งสอง อยู่ในห้องจิบน้ำชาส่วนตัวอยู่นานแล้ว ก็ได้เปิดประตูห้องออกมา แล้วตะโกนเรียกเสี่ยวเออร์เสียงดัง
“เสี่ยวเออร์ น้ำชากับขนมในโต๊ะของคุณหนูโจวทั้งหมด มารับตำลึงที่ข้า”
เสียงทรงอำนาจของอ๋องหนานกงชิงเอ่ยขึ้นเสียงดัง ทุกสายตาในโรงน้ำชาต่างจ้องมองมาด้วยความสนใจ ทั้งคาดหวังว่าจะได้ดูงิ้วฉากใหญ่ เรื่องรักสามเศร้าเคล้าน้ำตา ของบุรุษสูงศักดิ์ กับคุณหนูผู้งดงามทั้งสอง