ต่อจากนี้ข้าคือคนใหม่

1682 Words
“แค่ก แค่ก!!!” เสียงไอแหบแห้ง ของคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ทำให้สาวใช้คนสนิทรีบนำน้ำอุ่นมาให้คนป่วยจิบ ด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ที่ผ่านมาพวกตนจะถูกด่าทอมากเท่าไหร่ ก็ไม่เคยเก็บเอาคำด่าทอนั้น มาโกรธเคืองคุณหนูเลยสักครั้ง “อึก อึก…” “ลี่เออร์ลูกแม่ เจ้ากลับมาแล้ว ค่อยๆจิบน้ำอุ่นไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะสำลักเอาได้” ใบหน้างามที่มีความซีดเซียวอยู่มาก เนื่องจากนอนป่วยมานาน หลังจากได้จิบน้ำอุ่นๆจนชุ่มคอแล้ว จึงแหงนเงยหน้าขึ้นมามองมารดา ที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงนอนของตน ดวงตากลมโตแวววาวไปด้วยหยาดน้ำตา ที่เอ่อคลอออกมาเต็มดวงตา และดูท่าว่ากำลังจะหยดลงมาอาบแก้มเนียนใสในไม่ช้านี้ “ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงอ่อนระโหยโรยแรงดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่ลี่เซียนก็พยายามพูดสื่อสารออกมาเป็นประโยคให้จงได้ ในใจก็หงุดหงิดที่ร่างกายของตนไม่แข็งแรงเท่าเมื่อก่อน ‘เฮ้อ ข้าต้องฝึกนานเท่าไหร่กว่าจะมีฝีมือเฉกเช่นเดิม’ ในที่สุดน้ำตาเม็ดเล็กๆที่เจ้าตัวพยายามอดกลั้นเอาไว้ ก็ไหลลงมาอาบแก้มเนียนจนได้ ความเข้มแข็งที่นางตั้งใจเอาไว้พังทลายลงเมื่อพบเจอหน้ามารดา ที่มีใบหน้าทรุดโทรมลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุของความทรุดโทรม คงเพราะกังวลกับอาการป่วยของบุตรสาว และต้องคอยมาเฝ้าไข้บุตรสาวที่ไม่ได้เรื่องเช่นนาง ที่วันๆหาแต่เรื่องตบตีกับชาวบ้าน จนตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด!! ‘โอ้ ชีวิตนี้ข้ามีนิสัยโง่งมโดยแท้’ “ลี่เออร์ของพ่อ เจ้ากลับมาแล้ว” ประตูหน้าเรือนนอนของลี่เซียนเปิดออกทันที ที่ได้ยินเสียงนุ่มทุ้มของบุรุษที่คอยอุ้มชูเลี้ยงดู ให้ความรักและเอาใจใส่นางมาตั้งแต่ยังแบเบาะ น้ำตาที่กำลังไหลออกมา ก็ยิ่งไหลทะลักออกมามากกว่าเดิม น้ำตาเม็ดเล็กๆไหลอาบแก้มเนียนทั้งสองข้างจนเปียกชื้นไปทั่วใบหน้า “ท่านพ่อ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงสะอื้นร่ำไห้แผ่วเบา แว่วเสียงดังออกไปตามสายลม จนบุรุษสูงศักดิ์ที่ยังคงยืนรอดูเหตุการณ์อยู่หน้าเรือนได้ยินชัดเจน หัวใจแกร่งที่เคยเฉยชากระตุกขึ้นวูบหนึ่ง ครู่เดียวเท่านั้นความรู้สึกของอ๋องหนานกงชิง ก็กลับมาเฉยชาเฉกเช่นเดิม “กลับกันเถอะ” “ขอรับท่านอ๋อง” . . . . เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ที่โจวลี่เซียนฟื้นขึ้นมาจากอาการเจ็บป่วย ในแต่ละวันภาพที่พบเห็นได้จนชินตาของบรรดาบ่าวไพร่ในจวนคือ คุณหนูคนเดียวของตระกูล จะออกมาฝึกวรยุทธ์ตั้งแต่เช้ามืด ที่ลานฝึกยุทธ์ที่บิดาให้คนมาจัดสร้างไว้ให้บุตรสาว ตามความประสงค์ของนางตั้งแต่เมื่อครั้งหายป่วยใหม่ๆ ในบางครั้งก็จะมีคุณชายใหญ่โจวสืออี้ ที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือมาร่วมฝึกฝนด้วยเช่นกัน ลี่เซียนขอฝึกฝนด้วยตนเอง ไม่ต้องการให้จ้างอาจารย์มาสอน เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับใครทั้งนั้น โจวลี่เซียนทบทวนกระบวนท่า และรูปแบบการฝึกฝนของแต่ละศิลปะการต่อสู้ ที่ตนเองเคยร่ำเรียนมา และเคยใช้งานอย่างคล่องแคล่วมาตลอดจวบจนอายุ30ปี ชีวิตของสายลับมือ 1 แห่งองค์กรข้ามชาติ ได้จบสิ้นลงเพราะต้องการช่วยเหลือผู้คนมากกว่าแสนชีวิต ใช่แล้ว!! หลังจากตกลงไปในสระบัวเมื่อครั้งนั้น ลี่เซียนก็จดจำเรื่องราวของชาติที่แล้วได้อย่างแม่นยำ เรื่องราวที่น่าตื่นตะลึงว่า ชีวิตของนางเคยสร้างประโยชน์ต่อผู้คนมานับไม่ถ้วน จวบจนนาทีสุดท้ายของชีวิต ก็ต้องจากไปเพราะอุทิศตนช่วยเหลือชีวิตของเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ให้รอดพ้นจากหายนะ เอลิเซีย ลูกครึ่งจีนสหรัฐ สายลับสาวมือ1ขององค์กรข้ามชาติ ได้เข้าไปปลดสลักระเบิดเวลา ที่ผู้ก่อการร้ายฝังเอาไว้ใจกลางกรุงปักกิ่งด้วยตนเอง เพื่อไม่ให้ประชาชนนับแสนมาบาดเจ็บล้มตายจากแรงระเบิด เมื่อเล็งเห็นว่าเวลาที่เหลืออยู่นั้น ไม่เพียงพอต่อการเก็บกู้ระเบิดแล้ว ‘ชาติก่อนข้าทำตัวมีประโยชน์มากมาย ชาตินี้ข้าเลยทำตัวไร้ประโยชน์สินะ’ ในวันแรกๆของการฝึกเคลื่อนไหวตามกระบวนท่าที่จดจำได้ ย่อมติดขัดอยู่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอผ่านพ้นไปได้เพียง3วันเท่านั้น ลี่เซียนก็สามารถเคลื่อนไหวตามกระบวนท่า ของศิลปะการต่อสู้ ที่เคยฝึกฝนมาจากองค์กรข้ามชาติ ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว นางรู้สึกสนุกและมีความสุข กับการฝึกฝนการต่อสู้ที่จดจำได้ในชาติก่อนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็เริ่มฝึกฝนการออกอาวุธทั้งมีดสั้น ดาบ ยิงธนู และฝึกขี่ม้าจนคล่องตัวในเวลาอันรวดเร็ว เพราะทุกอย่างที่กล่าวมานั้น เอลิเซียคนเดิมทำไว้จนชำนาญแล้ว โจวลี่เซียนคนใหม่เพียงแค่ทบทวน และนำมาใช้ให้คล่องแคล่วเพียงเท่านั้น ย่างเข้าเดือนที่ 4 โจวลี่เซียน จึงได้มีความคิดอยากออกมาเดินเล่น ที่ภายนอกจวนราชครูดูเสียบ้าง จึงได้ชักชวนสาวใช้คนสนิททั้งสองคน ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน เพราะตั้งใจจะไปแวะนั่งจิบชา ที่โรงน้ำชาที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง เผื่อจะได้รับรู้ข่าวสารของบ้านเมืองสักหน่อย ‘ถ้ามีอินเตอร์เน็ตใช้งานเหมือนยุคนั้นคงจะดี ข้าจะได้ไม่ต้องออกไปนั่งจิบน้ำชาที่ร้านให้เสียเวลา’ “ท่านแม่ ลูกจะไปเดินเล่นที่ตลาด แล้วแวะจิบชาที่โรงน้ำชาจันทร์ฉายนะเจ้าคะ” น้ำเสียงอ่อนหวานกล่าวขออนุญาตมารดา เมื่อต้องการออกไปข้างนอกจวน ตามมารยาทที่ดีของคุณหนูในห้องหอ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อน นางจะไม่เคยเข้ามาขออนุญาตเลยก็ตาม!! “หืม…. ไปสิลี่เออร์ ให้สาวใช้ทั้งสองของเจ้าตามไปด้วย ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่เป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก แต่ก็รู้ว่าเจ้าอุดอู้อยู่ในจวนมานานมากแล้ว ได้ออกข้างนอกไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้างย่อมสมควร” “เจ้าค่ะท่านแม่ ลูกจะดูแลตัวเองและไม่สร้างปัญหาอีกเด็ดขาด ท่านแม่จงเชื่อใจในตัวลูก เพราะลูกไม่ใช่โจวลี่เซียนตัวไร้ประโยชน์คนเดิมอีกแล้ว” “อืม ลี่เออร์ลูกของแม่ดีที่สุดเสมอ ใครไม่รักก็ช่าง แต่จงจดจำเอาไว้ว่าครอบครัวของเรารักเจ้ามากที่สุด” น้ำเสียงอ่อนโยนของโจวฮูหยิน ที่เป็นเหมือนน้ำทิพย์ชะโลมจิตใจของบุตรสาวและบุตรชาย ลี่เซียนรู้สึกว่าตนเองโชคดียิ่งนัก ที่เกิดมาในครอบครัวที่บิดามีภรรยาแค่คนเดียว และคนในครอบครัวก็รักใคร่สามัคคีกันดี ไม่เหมือนตระกูลขุนนางใหญ่บางตระกูล ที่มีแต่ปัญหาของเหล่าภรรยา ต่างตบตีแย่งชิงความโปรดปรานของสามีจนน่าปวดหัว “เจ้าค่ะ ท่านแม่ ฟอด ฟอดดดด” เมื่อกล่าวจบ แก้มนุ่มนิ่มทั้งสองข้างของมารดา ก็ถูกนางจับจองสูดดมเข้าเต็มปอด ถ้าเป็นลี่เซียนคนเดิมก็คงไม่กล้าทำเช่นนี้ แต่ลี่เซียนคนใหม่ ที่มีความทรงจำตอนเป็นลูกครึ่งสาวสุดแกร่ง ย่อมกล้าที่จะแสดงความรักกับมารดาเฉกเช่นเวลานี้ เรื่องที่นางจดจำชาติก่อนได้ ก็ถูกถ่ายทอดให้บิดามารดารับฟังจนหมดสิ้น ลี่เซียนไม่มีความลับใดๆกับบุพการีเพราะพวกท่านอยู่กับนางทุกช่วงชีวิต เมื่อฟื้นขึ้นมาพวกท่านย่อมจับสังเกตได้ ถึงความผิดปกติของนาง ลี่เซียนจึงต้องเล่าให้พวกท่านฟังทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง แม้กระทั่งพี่ชายของนางก็รับรู้ด้วยทั้งหมด จะมีเพียงบ่าวไพร่ในจวนที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ “บ๊ายบาย เจ้าค่ะท่านแม่” “เหอะเจ้าลูกคนนี้ ไม่ต้องมาพูดภาษาต่างแดนกับแม่แล้ว แม่ปวดหัวยิ่งนัก” โจวฮูหยินยิ้มกริ่มอย่างพอใจ ที่ถูกบุตรสาวหอมแก้มแสดงความรัก ถึงแม้ว่าช่วงแรกๆจะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง แต่ไม่นานก็เริ่มชินและชื่นชอบ ที่บุตรสาวแสดงความรักกับตนแบบนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ราชครูโจวเยี่ยนกับโจวฮูหยิน ได้พาโจวลี่เซียนขึ้นไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และไต้ซือที่วัดบนภูเขา ตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ พวกท่านก็ได้รับคำยืนยันจากไต้ซือว่า บุตรสาวคนนี้จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตด้วยตนเอง ไม่มีอะไรน่ากังวลอีกแล้ว ตลาดใจกลางเมืองหลวง รถม้าคันใหญ่จากจวนราชครู ขับเคลื่อนเข้าไปในบริเวณย่านการค้าใจกลางเมืองหลวง เมื่อถึงที่หมายแล้วจึงจอดรถม้า เพื่อให้คุณหนูของตระกูลลงเดินจับจ่ายซื้อของตามที่ต้องการ ร่างอรชนอวบอิ่ม ที่ไม่ได้ผอมบางเหมือนกิ่งหลิว เฉกเช่นเมื่อก่อนแล้ว เดินลงมาจากรถม้าด้วยตนเอง ในทุกๆวันโจวลี่เซียนจะเน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะจำพวกเสริมสร้างกล้ามเนื้อ จะชื่นชอบเป็นพิเศษ เนื่องจากนางต้องการใช้ร่างกายที่แข็งแรง ฝึกฝนวิชาการต่อสู้ของตนเองเมื่อครั้งเป็นสายลับ ในเวลานี้ร่างกายของลี่เซียนจึงดูสมส่วน และดูอวบอิ่มยิ่งนัก โดยเฉพาะจุดที่สวยงามของสตรีนั้น นางก็มีจนมากล้นออกมา ประกอบเข้ากับใบหน้าที่งดงามล่มเมือง ที่แลดูงามหยาดเยิ้มมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก จนสาวใช้คนสนิทรู้สึกนึกเป็นห่วงคุณหนูของพวกนาง ยามที่ต้องออกมาเดินเล่นนอกจวนเช่นนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD