“เชิญเถิดลี่เซียน พวกเราต้องหวังพึ่งพาเจ้าอีกครั้งแล้ว”
จิตใต้สำนึกของท่านอ๋องในยามนี้นั้น บอกให้เขาเชื่อใจโจวลี่เซียน จึงได้เปิดทางให้นางเข้ามาดูอาการของหลานชายที่หมดสติไปแล้ว ทั้งยังมีใบหน้าที่ซีดขาวเพราะเลือดไหลออกมาเยอะ จนน่าเป็นกังวลว่าเขาจะมีชีวิตรอดหรือไม่
จิตใจของอ๋องหนุ่มนึกเป็นห่วงความรู้สึกของพี่ชาย ถ้าต้องเสียลูกชายคนโตไปจริงๆ บ้านเมืองคงได้ระส่ำระสายเป็นแน่
โจวลี่เซียนเข้าไปจับดูชีพจรขององค์ชายใหญ่ เพราะแพทย์แผนโบราณเบื้องต้นนั้น นางสามารถตรวจรักษาได้มาแต่ครั้งอดีตกาลแล้ว แต่จะชำนาญการแพทย์ในยุคสมัยใหม่ เมื่อครั้งเกิดเป็นศัลยแพทย์หญิงมากกว่า
หัวคิ้วเรียวขมวดขึ้นอย่างเป็นกังวล เพราะบุรุษที่เป็นคนไข้คนแรกของนางในภพนี้ บาดเจ็บอยู่ในอาการที่ถือว่าสาหัส ถ้าเป็นที่โรงพยาบาลคงต้องได้เข็นเข้าห้องผ่าตัด และเติมเลือดเข้าร่างกายโดยด่วน
แต่ที่นี่ไม่มีห้องปลอดเชื้อ ไม่มีอุปกรณ์ให้เลือด และยาที่นางเตรียมมาด้วยก็มีไม่ครบ แต่ก็คงต้องปรับใช้เพื่อรักษาให้คนไข้พ้นขีดอันตรายไปก่อน ซึ่งนางมั่นใจว่าตนเองสามารถทำได้
“ท่านอ๋องขอถุงสัมภาระของหม่อมฉันด้วยเพคะ”
ถุงย่ามใส่ของใช้ส่วนตัวของลี่เซียน ที่สะพายอยู่บนหลังของอ๋องหนาน ถูกมือใหญ่ปลดลงมาให้นางโดยทันที มือเรียวสวยควานหาเอาอุปกรณ์ในการรักษา และนำออกมาวางไว้บนผ้าสะอาดผืนขนาดกลาง ที่ได้จัดเตรียมมาด้วย
มีดผ่าตัดหลากหลายขนาด ที่นางให้บิดาไปสั่งช่างตีเหล็กจัดทำมาให้ ตามรูปภาพที่วาดขึ้นมาด้วยตนเอง ถูกบรรจุอยู่ในกระเป๋าหนัง ที่มีช่องเก็บรักษาอย่างดี เพื่อรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ผ่าตัดที่นางหวงแหนยิ่ง
ทั้งยังมีเข็มหลายหลายขนาด และด้ายที่ทำมาจากไหมธรรมชาติ ที่มารดาเป็นคนจัดหามาให้ วางเรียงรายอยู่คู่กัน เพื่อเตรียมพร้อมในการใช้งาน
ยาสมุนไพรหลายหลายชนิดเท่าที่นางจะหาเตรียมมาได้ ทั้งผงยาห้ามเลือด ยาสมานแผล ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ไข้ ถูกนำออกมาไว้ เพื่อรอใช้งานอยู่ข้างๆอุปกรณ์การรักษา
บุรุษ5คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างจ้องมองของมีคมหน้าตาแปลกประหลาดที่สุด ที่พวกเขาเคยพบเห็นมา ด้วยความสงสัยใคร่รู้ ว่าโจวลี่เซียนจะทำอันใด จึงมีของมีคมมากมายเช่นนี้
แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดสอบถาม หรือพูดขัดการรักษาของสตรีคนเดียวในกลุ่ม อีกทั้งนางยังมีบุคลิกและท่าทางเป็นผู้นำที่น่าพึ่งพาในทุกๆเรื่อง พวกเขาจึงได้แต่ยืนสงบใจรอช่วยเหลืออยู่เงียบๆ
ขวดเหล้าขนาดกลาง ที่นางให้บิดาหามาให้ถูกเปิดออกเตรียมใช้งาน เพื่อทดแทนแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ที่ไม่สามารถหาได้
ลี่เซียนนำผ้าสีขาวผืนเล็กๆ ราดเหล้าลงไปให้ชุ่มทั้งผืน แล้วนำไปเช็ดทำความสะอาด รอบๆบาดแผลขององค์ชายใหญ่ ซึ่งนางสั่งให้องครักษ์ของเขา แหวกเสื้อออกจากบาดแผลเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นก็โรยผงยาห้ามเลือดลงไปบนบาดแผล เพื่อห้ามเลือดเสียก่อนที่จะลงมือผ่าตัด และเย็บบาดแผลที่ลึกเข้าไปในช่องท้อง
เพราะถ้าไม่ทำการเย็บแผล บาดแผลขององค์ชายใหญ่คงได้ติดเชื้ออยู่เรื่อยๆ และอาจจะเอาชีวิตไม่รอด เนื่องจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
ทุกการกระทำของโจวลี่เซียน ถูกอ๋องหนานกงชิงจ้องมองด้วยความสนใจ เพราะเขารับรู้เพียงแค่ว่านางมาศึกษาวิชาแพทย์กับหมอเทวดา แต่ไม่รู้ว่านางถึงขั้นรักษาผู้ป่วยได้คล่องแคล่วขนาดนี้
เมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว ลี่เซียนเข้าไปตรวจจับชีพจรผู้ป่วยอีกครั้ง ก่อนจะลงมือทำการรักษาในขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ซึ่งนั่นก็คือการผ่าตัดและเย็บแผล
และคงเป็นโชคดีขององค์ชายใหญ่ ที่ชีพจรของเขายังสามารถลงมือผ่าตัดได้ โดยไม่ต้องให้เลือดไปด้วย เพราะยามนี้ลี่เซียนไม่สามารถให้เลือดเขาได้ จากอุปกรณ์ที่มีอยู่น้อยนิดในขณะนี้
มือเรียวที่คล่องแคล่ว ลงมือกรีดบาดแผลบางส่วน ที่ทำการวินิจฉัยด้วยสายตาแล้วว่า อาจจะติดเชื้อในภายหลังออกไปให้หมด และทำการระบายสิ่งสกปรก ออกจากช่องท้องที่ถูกฟันลงไปจนเป็นแผลลึก
ลี่เซียนทำการกรีดแผล ด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งและมีสมาธิ ตราตรึงทุกสายตาที่กำลังจ้องมองการรักษาของนาง ที่แลดูแปลกประหลาด ในสายตาของพวกเขาทุกคน
เพราะถ้าเป็นหมอคนอื่นๆ คงแค่เทผงยาห้ามเลือด และยาสมานแผลลงไปบนบาดแผล แล้วจ่ายยาให้ไปต้มดื่ม เพื่อรักษาบาดแผลเพียงเท่านั้น
เวลานี้โจวลี่เซียนได้หลุดเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัด ในอดีตชาติของนางแล้ว ทุกการกระทำถูกลงมืออย่างชำนาญ เฉกเช่นที่เคยกระทำมาหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้อุปกรณ์จะมีไม่ครบ และแตกต่างออกไปบ้างก็ตาม
ผ้าสะอาดชุบเหล้า ถูกนำมาทำความสะอาดทั้งบาดแผล และอุปกรณ์ผ่าตัดอีกครั้ง ทั้งยังชุบลงไปบนเข็มเย็บขนาดกลาง ที่สอดไหมธรรมชาติเข้าไปในรูร้อยพร้อมแล้ว
จากนั้นนางก็ลงมือเย็บบาดแผล ให้ปิดสนิทด้วยท่าทางคล่องแคล่วว่องไว ไม่มีอาการตื่นกลัวใดๆทั้งสิ้น แตกต่างจากบุรุษทั้ง5คน ที่กำลังตั้งใจมองการรักษาอันแปลกประหลาด แต่ยามนี้กลับมีใบหน้าที่ซีดขาวกันทุกคน เมื่อได้พบเห็นการเย็บเนื้อคนเป็นครั้งแรกในชีวิต
แต่ก็หมือนเช่นเคย ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดขัดการรักษาของนางเลยสักคน เพราะด้วยท่าทางที่มั่นใจในตนเอง ที่แสดงออกมาให้พวกเขาพบเห็นนั้น เป็นท่าทางที่น่าเชื่อถือ ยิ่งกว่าหมอบางคนที่พวกเขาเคยรับการรักษามา
ใช้เวลาชั่วครู่ ลี่เซียนก็เย็บบาดแผลแล้วเสร็จ บาดแผลที่ช่องท้องขององค์ชายใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้กลวงโบ๋ลึกลงไปจนน่าหวาดกลัว แต่ยามนี้ถูกเย็บให้ปิดสนิทสวยงาม ด้วยฝีเข็มที่ละเอียดละออ ยิ่งกว่าฝีมือการเย็บผ้าของสตรีบางคนเสียอีก
จากนั้นนางนำผ้าชุบเหล้า มาทำความสะอาดบาดแผลอีกครั้ง ก่อนจะเทผงยาสมานแผลลงไปรอบๆบาดแผล และเทผงยาฆ่าเชื้อ ที่นางดัดแปลงมาจากยาสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่มีสรรพคุณใกล้เคียงยาฆ่าเชื้อมากที่สุด
“รบกวนพวกท่านก่อไฟ และตัดไม้ไผ่มาไว้สำหรับต้มยาให้องค์ชายใหญ่ดื่มด้วยเจ้าค่ะ”
ลี่เซียนเอ่ยขอความช่วยเหลือจากผู้ติดตามของนาง เพราะยาบางชนิดต้องต้ม และปลุกให้องค์ชายใหญ่ตื่นขึ้นมาดื่ม ก่อนจะให้เขานอนพักผ่อนยาวๆ เมื่อตื่นขึ้นมาจะได้ประเมินอาการกันอีกครั้ง
“ขอรับคุณหนู”
ฝานคง รีบรับคำสั่งของคุณหนูของเขา ที่ยามนี้เปรียบเสมือนผู้นำของกลุ่มไปเสียแล้ว คุณหนูที่เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตของบุรุษที่มีท่าทางสิ้นหวังทุกคนในที่นี้
โดยเฉพาะอ๋องหนาน กับองครักษ์คนสนิทขององค์ชายใหญ่ ที่มีท่าทางสิ้นหวังอย่างชัดเจน แต่ในยามนี้กลับมีประกายแห่งความหวังเกิดขึ้นในดวงตาของคนทั้งสอง
“ลี่เซียนขอบใจเจ้ามากที่ช่วยชีวิตองค์ชายใหญ่เอาไว้ และข้าก็มั่นใจมากว่าเขาจะต้องปลอดภัย”
ท่านอ๋องกล่าวขอบคุณลี่เซียนอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เขาไม่เคยใช้กับใครมาก่อนในชีวิต
“ขอบคุณผู้มีพระคุณมากขอรับ ที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ช่วยดึงข้าขึ้นมาจากปากเหว ทั้งๆที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนั้น ทั้งยังช่วยชีวิตองค์ชายใหญ่เอาไว้ บุญคุณในครั้งนี้ย่อมต้องได้รับการตอบแทนขอรับ”
องครักษ์เหว่ยก้มหัวลงต่ำ เพื่อขอบคุณสตรีที่มีบุญคุณต่อเขา และองค์ชายใหญ่ด้วยความจริงใจ ความช่วยเหลือที่มากล้นในวันนี้ เขาต้องแจ้งทูลฮ่องเต้กับฮองเฮา ให้รับรู้อย่างแน่นอน
เมื่อฝานคง ต้มยาแล้วเสร็จ และรอให้ยาอุ่นๆสักครู่ใหญ่ ลี่เซียนก็บอกให้องครักษ์เหว่ย ปลุกเจ้านายของเขาให้มีสติ เพื่อจะได้ดื่มยารักษาบาดแผลภายใน และยาแก้ไข้ ก่อนที่จะปล่อยให้เขานอนพักผ่อนอีกครั้ง