ตอนที่ 1 ไม่ใช่สเปค
เสียงเพลงดังกระหึ่มอึกทึกอยู่ในผับสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันเข้ามาเพื่อปล่อยให้ใจหาความสุขในค่ำคืนที่ยังดำเนินไป ความจริงสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่นายแพทย์หนุ่มวาคิมแบบผมชอบมาสักเท่าไหร่ แต่เพราะอารมณ์เบื่อที่เพิ่งโดนทางบ้านให้หมั้นหมายกับลูกสาวของเพื่อนพ่อ ซึ่งผมไม่ได้มีความรู้สึกอยากตกลงปลงใจเลยแม้แต่น้อย ทำให้เกิดอาการเซ็ง ๆ เลยออกมาหาที่ระบายอารมณ์ที่ผับแองเจิลแห่งนี้
“เป็นไงบ้างครับพี่หมอ สาวที่คุณพ่อคุณแม่พาไปดูด้วย” เสียงเอริคเจ้าน้องชายผมเอ่ยขึ้นมันทำให้ผมถอนหายใจออกมาเซ็งๆ และนี่ก็คือเหตุผลที่ผมเลือกมาที่นี่ เพราะเป็นผับที่บริหารงานโดยอนาคินหรือเอริคน้องชายสุดที่รักของผมเอง
“ก็สวยดี แต่ไม่ใช่สเปก” ผมตอบออกไปอย่างเบื่อ ๆ พลางยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมาดื่ม จากที่ร้อยวันพันปีคนอย่างผมแทบไม่เคยนึกอยากให้แอลกอฮอล์หรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกายเลยแม้แต่น้อย ผมเป็นถึงนายแพทย์การดูแลร่างกายด้วยการออกกำลังกายมันย่อมดีกว่าการมานั่งดื่มอย่างตอนนี้อยู่แล้ว
ผมเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูล แต่ดันมีสถานะโสดบริสุทธิ์ เพราะบ้างานอย่างหนักและไม่เคยคบใครนับตั้งแต่สมัยเรียน ด้วยความที่ผมค่อนข้างมุ่งมั่นกับการเรียนและมุมานะเป็นอย่างหนักเพื่อจะเอาเกียรตินิยม เลยแทบไม่เคยเห็นผู้หญิงในสายตา ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบผู้หญิงเพียงแต่ผมแค่คิดว่าตัวเองยังไม่เจอผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกต้องการจนขาดเธอไม่ได้เท่านั้นเอง
ถ้าจะถามถึงรักครั้งแรก หรือรักครั้งเดียวอะไรแบบนั้น ผมแทบจะไม่เคย ไม่สิ...ทำไมจะไม่เคยมี ผมเคยชอบรุ่นน้องอยู่คนหนึ่งโดยที่เธอไม่รู้ว่าผมชอบเธอด้วยซ้ำไป
“พี่ค่ะ...ฝนตกหนูมีร่มสองคัน พี่เอาไปสิค่ะ”
เสียงหวาน ๆ ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังยื่นร่มลายคิตตี้ให้กับผมในวันที่ฝนตกหนัก แล้วเธอก็รีบกางร่มอีกคันที่สีใสเดินออกไป ผมถึงกับมองร่มที่อยู่ในมือด้วยความรู้สึกขำ คือในมือผมก็ถือร่มอยู่อีกคันแต่เธอดันไม่ได้มองมันเลย แล้วก็ส่งร่มอีกอันให้ผมเฉย อีกอย่างผมก็แค่รอให้ฝนซาแล้วค่อยเดินไปที่รถเท่านั้นเอง
พอนึกย้อนถึงวันนั้นก็รู้สึกขำ แต่นั่นมันก็นานมากแล้วนะ นานจนไม่รู้ว่าป่านนี้น้องผู้หญิงคนนั้นจะแต่งงานหรือมีครอบครัวไปหรือยัง แต่นั่นก็คือครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมรู้สึกดีกับผู้หญิง
“แล้วพี่หมอจะเอาไงกับผู้หญิงคนนั้น” เสียงเอริคท้วงขึ้นทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์เมื่อเผลอคิดถึงอะไร ๆ ในอดีต
“ก็คงหมั้นละมั๊ง ขี้เกียจไปหาคนอื่นวะ”
“เฮ้ย ชีวิตคู่นะเว้ยพี่”
“เออเข้าใจ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็สวยดี แค่ไม่ใช่สเปกเฉย ๆ”
บอกตามตรงว่าหลังจากที่ผมไปนัดดูตัวกับเธอคนนั้นมา ถามว่าเธอสวยไหมก็คือสวย สวยแบบเฉี่ยว ๆ สไตล์นักเรียนนอกที่เพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้สามเดือน
สวย...แต่ก็ไม่ใช่สเปก
เธอดูอ้อน ๆ อ้อนจนทำให้ผมรู้สึกรำคาญ ผู้หญิงอะไรวะเจอกันแค่วันเดียวในวันนัดดูตัวแต่ทำตัวคุ้นเคยกับผมอย่างกับรู้จักมาเป็นปี ๆ
“คนอย่างพี่หมอนะน่ะ จะมีสเปกผมยังไม่เคยเห็นมีเคยมองสาวที่ไหน เคยได้ใช้งานบ้างหรือเปล่าไอนั่นน่ะ”
เอริคมันก็ชอบพูดจากวนตีนใส่พี่อย่างผมบ่อย ๆ มันเป็นคนหล่อแบบแบด ๆ แถมสาว ๆ ข้างกายไม่เคยขาด ที่มันได้มาดูแลกิจการผับแบบนี้เพราะโชคดีที่ทางบ้านเราไม่เคยห้ามความชอบของลูก ๆ ว่าใครอยากทำอะไร ใครถนัดแบบไหนคุณพ่อคุณแม่จะส่งเสริมให้สุด ๆ อย่างผมชอบเป็นหมอท่านก็สนับสนุนถึงขนาดซื้อหุ้นของโรงพยาบาลชื่อดังแถมยังยกตำแหน่งให้ผมดูแลกิจการควบไปอีก แต่ด้วยความชอบในอาชีพที่ตัวเองทำนอกเหนือจากงานบริหารโรงพยาบาล ผมก็ยังคงเลือกทำหน้าที่เป็นหมอควบคู่ไปอยู่ดี เพราะงั้นอย่าถามหาว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟน เอาแค่เวลาจะหายใจยังไม่ค่อยจะมี
ส่วนหน้าที่ดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อก็คงจะเป็นภาคินน้องชายคนที่สามของบ้าน และก็เจ้าเตชินน้องชายคนสุดท้องน้องเล็กที่ชอบก่อเรื่องวุ่นวายไม่ยอมหยุด และนี่ถ้าไม่ใช่เพราะความทะลึ่งของมันที่พาสาวเข้าบ้านจนถึงขั้นจะแต่งงานกับเธอ ผมก็คงไม่ต้องมานั่งปวดกระบาลกับการโดนจับคู่แบบนี้หรอก
“ก็คงแต่ง ๆ ไปนะแหละตามใจท่านบ้าง ไหน ๆ ท่านก็ไม่เคยขัดเรื่องที่พี่อยากเป็นหมอ แทนที่จะช่วยดูแลธุรกิจแบบภาคินมัน ตอบแทนท่านสักครั้งจะเป็นไร”
“ไม่ได้ชอบแล้วจะมีความสุขเหรอว่ะพี่” เอริคยังไม่เลิกค้านความเห็นผม แต่ผมตัดสินใจแล้วมันก็แค่งานแต่งงานอยู่ ๆ ไปเดี๋ยวก็คงรักได้ไม่ยาก อีกอย่างบางทีไอ้เจ้าส่วนล่างของผมมันควรได้ใช้งานอย่างผู้ชายคนอื่นทั่ว ๆ ไปได้สักที
“งั้นมั๊งเดี๋ยวก็คงมีความสุขไปเอง” ผมไถโทรศัพท์ในมือก่อนส่งรูปไปให้มันดู
“นี่ไงว่าที่พี่สะใภ้แก สวยป่ะ”
เอริครับรูปจากมือถือผมมาดูพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยเหมือนมันนึกอะไรออก
“คุ้น ๆ ว่ะพี่” ก่อนที่มันจะหันไปกดอะไรบางอย่างที่โน้ตบุคบนโต๊ะทำงาน
“โป๊ะเช๊ะ นี่ไงว่าแล้วผู้หญิงคนนี้มาเที่ยวที่ผับนี้โคตรบ่อย สองสามเดือนได้ล่ะ แทบทุกคืน”
เอริคหมุนโน๊ตบุคให้ผม พลางชี้ให้ดูผู้หญิงรัดรูปสีแดงที่กำลังเต้นบดอยู่กับผู้ชายที่ถือแก้วเหล้าอยู่ข้างหลัง
“หยามมาก” มันทุบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ เขารีบกดเบอร์โทรศัพท์หาลูกน้องของเขาทันที
“พวกมึงจัด....”
“ไม่ต้อง!” ผมยกมือห้าม เพราะตอนนี้ผมไม่ได้มีความสนใจเรื่องของยายว่าที่คู่หมั้นคนนี้หรอก
ทว่าสายตาของผมกำลังมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในกล้องวงจรปิดที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหาว่าที่คู่หมั้นของผมมากกว่า