“ปล่อยฉัน!... มันไม่ใช่ความผิดของฉัน... อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้นะไอ้บ้า นายกำลังเข้าใจผิด”
ไม่ทันสิ้นเสียงทัดทานของหญิงสาวผู้โชคร้าย
มือใหญ่ของผู้ชายใจร้ายก็คว้าหมับเข้าที่ศีรษะของเธอเต็มแรงพิโรธ จิกและกำแน่น จนเส้นผมสีดำยุ่งเหยิง ปลิ้นไปตามซอกนิ้ว
เขากระชากเธอขึ้นมา…
เพื่อที่จะกดกลับลงไปอีกครั้ง ในโอ่งซึ่งบรรจุน้ำอยู่เต็มเปี่ยม
โครม…!
เสียงน้ำกระแทกเข้ากับใบหน้าหวานปานน้ำผึ้ง ที่แต้มแต่งเอาไว้ด้วยเครื่องสำอางเพียงบางๆ น้ำบางส่วนกระฉอกแฉะออกมาภายนอกโอ่ง
“โฮก… แค่กๆ…”
เสียงสูดหายใจของคนที่ถูกกระทำทารุณกรรม แทรกสวนไปกับอาการสำลักน้ำ มองเห็นหยาดน้ำพร่างเป็นสายออกมาจากโพรงจมูกและริมฝีปากระริกสั่น
มือซึ่งใหญ่และหยาบของเขา กดศีรษะของเธอ… กระแทกกลับลงไปในน้ำอีกชั่วอึดใจ แช่เอาไว้อย่างนั้น…
“หึๆ…”
เสียงหัวเราะอย่างเลือดเย็น เล็ดลอดออกมาจากลำคอของเขาด้วยความรู้สึกสะใจเสียเต็มประดา กับความทรมานของเธอ
เขากดศีรษะของเธอ…
แช่เอาไว้อย่างใจเย็น จนรู้สึกว่าสาแก่ใจ ก็กระชากกลับขึ้นมาอีกครั้ง
ตัดสินใจคืนลมหายใจให้กับหญิงสาวที่เนื้อตัวสั่นเทาราวกับลูกนก เขาไม่ได้ปลดปล่อยเธอ… แต่เพื่อที่จะเก็บชีวิตน้อยๆ ของเธอเอาไว้ทรมานในลำดับต่อไป
หญิงสาวกระเสือกกระสนขึ้นมาด้วยอาการของคนซึ่งกำลังจะขาดอากาศหายใจ เหมือนคนที่เพิ่งดำดิ่งลงไปในน้ำลึก กว่าจะถีบตัวขึ้นมาโผล่พ้นผิวน้ำ… ก็เกือบไม่รอด
‘นี่ฉันยังไม่ตายใช่ไหม?’
หญิงสาวถามตัวเองอยู่ในใจ ทว่าไร้วี่แววของความปราณีจากดวงตาแข็งกร้าวของเขา ดวงตาของผู้ชายซึ่งเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและอาฆาต
คนใจโหดมองดูความทรมานของเธอ… เหมือนตัวเขาเป็นโรคจิตอย่างหนึ่ง โรคจิตจากการเสพความทุกข์ทรมานของผู้อื่น ให้กลับกลายเป็นความสุขสมของตนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ใบหน้าของหญิงสาวที่เขาเห็นอยู่ในตอนนั้น… คราบมัสคาร่า ปะปนอยู่กับคราบน้ำตา ละลายเลอะลงมาถึงพวงแก้มแดงระเรื่อ หากมองผาดๆ เผินๆ ไม่เพ่งพิศพิจารณา ใบหน้านั้นดูราวกับภาพวาดที่จิตรกรยังวาดไม่เสร็จ ภายหลังจากสาดสีดำไปที่ดวงตา ปรากฏเป็นคราบมัสคาร่า ไหลย้อยเป็นเส้นสายในแนวดิ่ง พาดผ่านพวงแก้มลงมาถึงกรามของเธอ
แม้ว่าหญิงสาวไม่อาจมองเห็นใบหน้าตัวเองได้ในตอนนั้น
หากก็เดาไม่ได้ยาก…
ถึงความเละเทะ น่าเวทนาของมัน รู้สึกสงสารตัวเองที่ไร้ทางสู้… แม้ว่าจะพยายามสักเท่าไร… เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อ ซ้ำยังไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบายอะไรเลย
ไม่มีแม้มือที่จะยกขึ้นปาดน้ำตา เพราะแขนทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกเส้นใหญ่
เขาสแยะยิ้มให้กับเสียงสำลักน้ำค่อกแค่ก… มองดูฟองที่ผุด
ผุยออกมาทางปากและจมูกของหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่หมอบสั่นอยู่ตรงหน้า
เธอไม่ได้กลัวตาย…
แต่กลัวว่าจะไม่ตายในทันทีทันใดมากกว่า… เพราะรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะทรมานเธอ
เขากระตุกยิ้มเยือกเย็นอีกครั้ง…
เมื่อเห็นริมฝีปากสั่นระริกของเธอ ริมฝีปากที่เปลี่ยนเป็นสีซีดเผือดเหมือนไร้เลือด ใบหน้าเนียนขาวซีดเซียวราวกับหน้ากระดาษที่ปราศจากตัวอักษร ดวงตาทั้งสองข้างแดงช้ำเพราะน้ำเข้าตา
“แกมันเลว… แกมันใจร้าย ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้”
เธอสบถออกมาอย่างเหลืออด ภายหลังทุเลาจากอาการสำลักน้ำได้เพียงชั่วครู่ ได้ยินเสียงหอบหายใจของตัวเอง เสียงสูดเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่ใช่ด้วยจมูก… แต่ด้วยปากที่เผยออ้าเหมือนคนใกล้ตาย หากคนใจร้ายยังคงยืนมองดูอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใจไปกับความทุกข์ทรมานของเธอ
ไม่นานจากนั้น ได้ยินเสียงฟ้าคำรามลั่นขึ้นหลายครั้ง ตอบรับกับเมฆฝนที่ตั้งเค้าทะมึนมาตั้งแต่เมื่อตอนเช้ามืด
ครู่สั้นๆ ต่อมา…
สายฝนก็กระหน่ำหนักลงมาราวกับฟ้ารั่ว… เขาทิ้งเธอเอาไว้กลางฝน
หญิงสาวรู้สึกแสบร้อนจากอาการสำลักรุนแรง ปลาบแปลบไปทั้งโพรงจมูกและคอ แสบเหมือนมีเสี้ยนนับร้อยพันปักคาอยู่ รู้สึกได้เลยว่าไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตนี้… ที่เฉียดเข้าใกล้ความตายเหมือนกับครั้งนี้
“คราวนี้เธอจะได้รู้เสียที… ว่าคนที่ต้องตายเพราะจมน้ำ… มันทรมานแค่ไหน?”
เขาสาดน้ำเสียงกร้าวใส่เธอ ดวงตาแข็งกระด้างบนใบหน้าครึ้มเคราของเขา จ้องมองดูเธออย่างกรุ่นโกรธและเกลียดชังยิ่งนัก
“จะฆ่าก็ฆ่าเลยสิ…”
“ไม่ต้องท้า…” เขากัดกรามกรอด
“ฉันจะไม่ร้องขอความปราณีจากหัวใจดิบเถื่อนของนายแม้แต่คำเดียว” เธอแผดเสียงลั่น แววตายังคงท้าทายเขามิได้หวาดหวั่น เมื่อเหตุผลที่พยายามจะอธิบายกับเขา… ไม่ได้ช่วยให้คนใจร้ายเข้าใจอะไรขึ้นมาเลย
“ยังก่อน…” เขายิ้มเยือกเย็น เหมือนฉุกคิดบางอย่าง
ครั้นแล้วก็กล่าวต่อ
“ความตายดูจะเป็นเรื่องง่ายดายเกินไปสำหรับผู้หญิงชั่วช้าสามานย์อย่างเธอ ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอตายง่ายๆ หรอกแม่สาวน้อย... หึๆ นี่แค่การเอาคืนเบาๆ รับรองว่ายังมีความทุกข์ทรมานในแบบที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอรอคอยเธออยู่อีกมาก”
สายตามองเธออย่างเหยียดต่ำ ระบายยิ้มหยันออกมาด้วยสีหน้าเยือกเย็น แลเห็นไรฟันขาวๆ หากตาวาวกลับสอดส่ายไปทั่วเรือนกายซึ่งกำลังสั่นสะท้านจากอาการเหน็บหนาว
เขาไม่ได้รู้สึกสงสารหรือเวทนาเธอแต่อย่างใด… แต่หันไปให้ความสนใจในเรือนร่างรัดรึง
ซึ่งบัดนี้… มันชุ่มโชกไปด้วยน้ำฝน
เสื้อผ้าที่เปียกปอนจนแลเห็นยกทรงตัวบาง โอบรั้งเนินอกอวบใหญ่เอาไว้แทบไม่อยู่
เขาไม่คิดเลยว่าทรวดทรงองเอวที่ซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อผ้ามอมแมม ซ้ำยังเปียกแฉะม่อล่อกม่อแลกไปทั่วทั้งร่างของผู้หญิงคนนี้ เมื่อยิ่งมองกลับยิ่งน่าหลงใหล… ยิ่งพิศก็ยิ่งน่าพิสมัย พับผ่าสิ!
ยิ่งจ้องให้ลึก… ก็ยิ่งปลุกกำหนัดที่อัดแน่นอยู่ภายในใจของชายฉกรรจ์ที่เข้าใจอารมณ์ได้ยากอย่างเขา จู่ๆ ก็เกิดความต้องการพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง
ความคิดชั่วร้ายบางอย่างวาบเข้ามาในสมองของเขา
“พวกมึงช่วยกันลากมันไปไว้ที่ห้องกู... ประเดี๋ยวกูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้มันเอง กูจะให้บทเรียนบทใหม่ที่อีผู้หญิงแพศยาคนนี้จะลืมไม่ลงเลยทีเดียว”
ใบหน้าเหี้ยมเกรียมหันไปสั่งลูกน้อง