ชะ..ช่วยเหลืองั้นเหรอ? ทำไมคำว่าช่วยที่กล่าวออกมาด้วยสายตาเช่นนั้นของเขามันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย
เม็ดทรายโคลงศีรษะน้อยๆ อย่างใช้ความคิด
“ทรายไม่คิดว่าท่านจะช่วยทรายได้นะคะ อีกทั้งทรายสบายดีกับเรื่องนี้ มันไม่ได้..ลำบากลำบนอะไรเลยค่ะ”
ขุนเขาคิดว่าวันนี้เขาเดินทางมาไกลเกินกว่าจะหยุดยั้งเพียงแค่การโอบกอดเธอแล้วล่าถอยไป เขาถลำลึกมาไกลเกินไปแล้ว และสิ่งที่เขาต้องการคือการฉกฉวยทุกสิ่งทุกอย่างมาจากเจ้าของร่างเล็กๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
ในใจของเขามันมีจุดหมายอันแรงกล้าว่าเขาต้องการเธอ เนิ่นนานที่สายตาของเขามองที่พนักงานคนหนึ่งมานานมากพอสมควร เธอสวย..ในเรื่องนั้นต้องยอมรับ แต่เม็ดทรายมีอะไรที่พิเศษมากกว่าคนอื่นในแบบที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องเป็นเธอ
“แต่ผมลำบากมากๆ เลยล่ะ ผมคิดว่าถ้าเราร่วมมือกันแก้ไขในความเลวร้ายที่โชคชะตาส่งมอบให้มันน่าจะ..ดีทั้งสองฝ่าย”
เม็ดทรายเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของเจ้านาย ให้ตายเถอะเขาเป็นเจ้านาย เป็นท่านประธานของเธอนะ แต่ทำไมวันนี้มันเหมือนกันเส้นที่ขีดเอาไว้เพื่อกั้นความเป็นเจ้านายและลูกน้องของเรามันจางหายไปหมดเลยล่ะ เธอสามารถสัมผัสเขาได้ สามารถเอนใบหน้าซบลงไปบนไหล่ของเขา ส่วนอ้อมแขนแกร่งของเขาก็กำลังหยิบยกขึ้นมาโอบกอดเธอเอาไว้อย่างแน่นหนาราวกับว่าเขาไม่ต้องการให้เธอหลบหนีออกไปจากอ้อมแขนนี้ของเขาเลยแม้แต่น้อย
เธอน่ะไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องอย่างว่าหรอกนะ ไม่มีก็ไม่เป็นอะไร เธอสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้สบายๆ เลย แต่เม็ดทรายอยากมี..ความรัก
เธออยากมีคนรักที่คอยแชร์ความเหนื่อยล้าจากการทำงานให้กันฟัง วันหยุดก็เดินจับมือไปกินข้าว ไปดูหนังในแบบที่คนรักเค้าทำกัน
และไอ้เรื่องความตายด้านของเธอมันคืออุปสรรคใหญ่ที่ทำให้เธอไม่มีแฟน จะไปหาหมอก็ไม่กล้าแถมยังไม่ค่อยมีเวลาเพราะว่างานของเธอมันยุ่งมากทีเดียว หยุดวันงานวันเสาร์อาทิตย์ก็จริง แต่บางทีหากว่างานไม่เสร็จ วันหยุดพวกนั้นเธอก็จะต้องเอามาทำงาน ซึ่งมัน..เลวร้ายมากทีเดียว แต่หากงานเสร็จก็จะได้ค่าตอบแทนที่มากขึ้นไปด้วย
“เรามาลองดูก่อนก็ได้นี่ เพราะทั้งคุณและผมต่างก็กังวลกับเรื่องนี้เพราะอย่างนั้น ผมจะช่วยคุณก่อนเป็นไง?”
ขุนเขากำลังพยายามไล่ต้อนเธอให้จนมุม แน่นอนว่าเม็ดทรายในตอนนี้เธอดื่มเหล้าไปเยอะมากพอสมควร อีกทั้งข้อเสนอที่เขากล่าวออกมามันช่างเย้ายวนใจมากเหลือเกิน
เธอพยักหน้าเบาๆ แทนการตอบคำถามนั้นของเขา และเมื่อเม็ดทรายที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาพยักหน้า รอยยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของขุนเขา
เขาลูบผมที่นุ่มสลวยของเธอเบาๆ ก่อนจะจุมพิตลงไปบนหน้าผากขาวเนียน
การกระทำของเขาสร้างความงุนงงให้เม็ดทรายมากกว่าที่เธอจะรู้สึกเขินอาย ทว่าในวินาทีถัดมา เมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นจากโซฟาตัวยาว แล้วเดินไปยังห้องนอนของเขาใบหน้าของเม็ดทรายก็รู้สึกร้อนขึ้นมา
เขาวางเธอลงบนเตียงด้วยความแผ่วเบา
“ถอดเสื้อออกสิครับ”
เม็ดทรายอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ที่เขาสั่งเธออยู่นี้มันหมายความว่าเขากำลังจะทำเรื่องอย่างว่ากับเธองั้นเหรอ?
“ขะ..ขอทรายอาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”
ขุนเขาเบนสายตาไปมองหน้าของเม็ดทราย เขาส่งยิ้มให้เธอในแบบที่เธอไม่ชินกับใบหน้าที่มันเต็มไปด้วยรอยยิ้มของเขาเลย
“ได้ครับ ไปอาบน้ำก่อนสิ”
เม็ดทรายพาตัวเองเข้ามาในห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนของเธอซะอีก เธอสูดลมหายใจเบาๆ พร้อมๆ กับเรียกสติตัวเองกลับมา
หนีไม่ได้แล้วนะทราย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เธอเองก็อยากจะหายจากอาการไม่รู้สึกอะไรเลยกับการทำรักเลยไม่ใช่รึไง เพราะอย่างนั้นไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เธอจะเต็มที่กับมันเหมือนกับการคิดโปรเจคอะไรสักอย่างที่เธอถนัดในการทำงาน
เธอจัดการอาบน้ำล้างตัวให้เรียบร้อยพร้อมกับสวมชุดคลุมอาบน้ำที่เขายื่นให้ แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเธอเดินออกมาก็พบกับจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ซึ่งกำลังเปิดหนังอย่างว่าออกมา
“....”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
“มาลองนั่งดูสิครับ หรือว่าคุณเคยลองวิธีนี้แล้ว”
เม็ดทรายพยักหน้า
“มันไม่ได้ผลเพราะว่าทรายไม่ได้รู้สึกอะไรเลยค่ะ”
เหมือนกับว่าการช่วยเหลือเธอนั้นมันจะยากมากกว่าที่คิด และการเปิดหนังอย่างว่านั้นแทนที่จะได้ช่วยเธอมันกลับทำให้เขาเดือดร้อนขึ้นมาซะอีก เมื่อส่วนนั้นของเขามันกำลังแข็งตึงขึ้นมา
เม็ดทรายหันหน้าไปมองทางอื่นในทันทีเมื่อเธอเห็นส่วนนั้นของเขาซึ่งในยามนี้มันไม่ปกติ
“อ่า..ท่านทำไปก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวทรายจะไปรอที่ด้านนอก”
ขุนเขาคว้าข้อมือของเม็ดทรายเอาไว้ เขากดปิดโทรทัศน์ในทันทีเพราะนอกจากมันจะไม่ช่วยอะไรเธอแล้ว มันยังทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก
“ในเมื่อการมองดูเฉยๆ มันไม่ช่วยอะไรเลย แบบนั้น..คุณก็ลองมาสัมผัสของจริงดูสิครับ...”
เขาจ้องมองใบหน้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง ส่วนเม็ดทรายเธอยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
เธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากและยังไม่ทันที่เม็ดทรายจะได้พูดอะไร ขุนเขาก็ลุกขึ้นมาจับจูงมือของเธอเพื่อเดินไปที่เตียงนอน
เขาจับมือของเธอไปสัมผัสกับส่วนนั้นที่มันกำลังตื่นตัวอยู่
มันร้อน..ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นหรือว่าสัมผัสเจ้าสิ่งนี้มาก่อน เพียงแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอทำเรื่องเช่นนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เพราะอย่างนั้นการสัมผัสส่วนนั้นของเขามันถึงได้เป็นเรื่องที่แปลกใหม่ของเม็ดทราย
“ขยับมือหน่อยสิครับ จับเฉยๆ มันจะไปช่วยอะไรได้”
นิ้วเรียวยาวลูบไล้ตั้งแต่ส่วนโคนขึ้นไปด้วยสัมผัสนุ่มนวลราวกับปฏิบัติต่อสิล้ำค่า ความเปียกชื้นผุดซึมขึ้นมาเรื่อยๆ ขณะที่ถูกขยี้ตรงส่วนปลายอย่างไม่ปราณี
ใบหน้าของท่านประธานที่ปกติแล้วเขามักจะชอบทำหน้าดุๆ แต่ทว่าในยามนี้เขากลับมีสีหน้าแตกต่างไปจากที่เธอเคยเห็นพอสมควร หัวใจของเม็ดทรายเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
“อืม แบบนั้นแหละ ช้าลงหน่อยสิ คุณคงยังไม่อยากให้การช่วยเหลือของเรามันจบลงรวดเร็วแบบนี้หรอกใช่ไหม”
ให้ตายเถอะ สัมผัสที่นุ่มลื่นจากมือของเธอมันดีมากกว่าในยามที่เขาใช้มือของตัวเองซะอีก ที่น่าแปลกคือเขาดันเผลอขยับสะโพกตามจังหวะมือของเธอที่กำลังรูดรั้งไปด้วยอีกต่างหาก
ปลายนิ้วของเธอถูแทรกลงไปบนรอยแยกเปียกชื้นตรงส่วนปลาย และนั่นทำให้ขุนเขาแทบจะกลั้นอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
เขามองหน้าของเม็ดทรายอีกครั้ง
“เอาล่ะเม็ดทราย ถึงเวลาที่ผมจะต้องช่วยเหลือคุณบ้างแล้ว”