เด็กอุปถัมภ์

1266 Words
(นิโคลไล) "เด็กที่คุณท่านอุปถัมภ์ เธอเรียนจบแล้วนะครับ" "แล้วไง?" "ตามที่คุณท่านสั่งไว้ก่อนเสีย คุณนิโคลไลจะต้องรับเธอมาดูแล อุปถัมภ์เธอต่อตามพินัยกรรมที่คุณท่านระบุไว้ และให้เธอทำงานที่บริษัท" "ฉันต้องทำตามพ่อเหรอ? ยังไงพ่อก็ไม่อยู่แล้ว ทำไมต้องไปสนใจเด็กนั่นต่อ แค่พ่อส่งเสียให้ทุนการศึกษาก็น่าจะมากพอ" "แต่มันเป็นความประสงค์ของคุณท่านนะครับ ผมว่าคุณนิโคลไลน่าจะสานต่อเจตนารมณ์ให้ท่านหน่อย แค่เลี้ยงเธอคนเดียวคงไม่เสียหายมากมาย เพราะปกติคุณนิโคลไลก็เลี้ยงผู้หญิงตั้งมากมายไม่ใช่เหรอครับ" "ไอ้เชรค!!!" ผมชื่อนิโคลไล หรือเรียกสั้น ๆ ว่านิค ผมสืบต่อธุรกิจของพ่อที่สร้างมาหลังจากที่พ่อเสียชีวิตไปเมื่อไม่นาน สามเดือนแล้วที่พ่อเสียไป ท่านเขียนพินัยกรรมระบุไว้ชัดเจน ทุกอย่างไม่มีการแบ่งให้ใครเพราะผมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อ แม่ของผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก มีเพียงพ่อคนเดียวที่เลี้ยงดูผมมา ตอนนี้ผมก็อายุไม่น้อยแล้ว เข้าเลขสามพอดิบพอดี แต่ว่ามีบางอย่างที่ผมไม่ค่อยชอบใจ พินัยกรรมของพ่อระบุอีกเรื่องให้ผมสานต่อ นั่นก็คือการดูแลเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งพ่อเคยอุปการะเลี้ยงดูเหมือนลูกสาว เธอเป็นลูกของเพื่อนสนิทของพ่อผม สาเหตุที่พ่อผมอุปการะ เพราะการฝากฝังของเพื่อนสนิทก่อนตาย พวกท่านทั้งสอง ผมหมายถึงพ่อแม่ของเด็กอุปถัมภ์ของพ่อ พวกท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะความแย่งชิงของญาติพี่น้อง อารียา คือชื่อของเธอ ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตา ว่าเธอมีหน้าตายังไง พ่อของผมเลี้ยงดูและหาที่อยู่ในเธออย่างดิบดี พร้อมกับมีแม่บ้านที่พ่อไว้ใจส่งไปดูแลเธอไม่ให้ขาดแคลน และสิ่งที่พ่อบอกไว้มันทำให้ผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ก็ท่านจะมาให้ผมอุปถัมภ์ดูแลเธอต่อ ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ผมชอบความเป็นส่วนตัวที่สุด และตอนนี้ผมก็กำลังมีปากเสียงกับไอ้คนสนิทที่พ่อสรรหามาให้ เชรคเป็นคนทำงานดีครับ ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว อายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี เถียงเจ้านายอย่างผมเป็นที่หนึ่ง แต่เพราะผมสนิทกับเชรคเราเลยไม่ค่อยถือสากันเท่าไหร่ "ผมพูดความจริงใช่ไหมล่ะ" เชรคมันยอกย้อนผมครับ น่าถีบให้ล้มคว่ำ "กวนตีนเยอะเกินไปละ" "สานต่อหรือพอครับ? ถ้าไม่สานต่อตามสิ่งที่คุณท่านบอกไว้ คุณนิโคลไลก็คงจะเหลือแต่ตัว" ดูสิครับมันเอาพ่อมาขู่ผมฟอด ๆ เป็นงูเห่า ไอ้ลูกน้องอสรพิษ เลี้ยงไม่ค่อยเชื่อง มีแต่พ่อผมเท่านั้นแหละมั้งที่เลี้ยงมันให้เชื่องได้ แต่เชรคเป็นคนที่ไว้ใจได้มากเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นพ่อผมคงไม่เลี้ยงไว้นานขนาดนี้ มันจริงใจและจริงจังครับ แต่มันกวนตีนผม "พูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันคงปฏิเสธหรอก ปากดีนักนะฝากไว้ก่อน พ่อไปสรรหาคนแบบแกมาจากไหนกันนะ แม่งเถียงเจ้านายฉิบหาย คนสนิทผู้ภักดีของพ่อจริง ๆ" ผมพูดประชดมันครับ ใครจะกล้าขัดพินัยกรรมของพ่อ บอกมาขนาดนี้ ลงทุนทำงานมาขนาดนี้ผมไม่ยอมเสียสิ่งที่มีไปหรอกนะ ผมมันคนมักได้ ทุกอย่างที่เป็นไปได้ผมต้องการ!! เพราะสันดานผมเป็นแบบนี้ ไม่ยอมใครง่าย ๆ ไม่ยอมก้มหัวให้กับใคร และใครอย่ามาคิดจะอยู่เหนือผม คนที่อยู่เหนือผมได้คือพ่อกับแม่เท่านั้น "ตกลงตามนั้นนะครับ แล้วผมจะรีบจัดการพาเธอมา" "แล้วหน้าตาเด็กนั่นเป็นยังไง ฉันก็ยังไม่เคยเห็น" เชรคมันยิ้มเยาะผม ก่อนจะบอกถึงสิ่งที่มันต้องทำต่อ และผมก็ย้อนถามมันเพราะเด็กคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ คงแบบว่าตัวดำ ๆ อ้วนกลมเตี้ย ๆ ละมั้ง นี่ผมต้องมีเลี้ยงดูผู้หญิงขี้เหร่เหรอวะ ไม่ใช่สิ นี่ไม่ใช่นิโคลไล ผู้ที่มีสาวงามรอบกายสิ "รู้แค่ว่าเธอน่ารักพอครับ" เชรคบอกซึ่งผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ "น่ารักแบบบ้าน ๆ ละสิ" ผมเปรยออกไปด้วยความคิดที่ผมคิดเอง "รอดูสิครับ ผมเคยเห็นเธอ ผมว่าเธอสวยน่ารักดี เป็นผู้หญิงไทยที่มีเสน่ห์" เชรคมันย้ำอีกครับ น่ารักของมันนี่ประมาณไหนกัน เพราะผมน่ะมันคว้านางเอกและนางแบบแถวหน้าเท่านั้น ไม่ใช่คว้ามาทำเมียนะ ผมเอามานอนเล่นด้วยเฉย ๆ "ชมอย่างออกนอกหน้า แกชอบเธอหรือไง" พูดดักมันเลยครับหมั่นไส้ "ก็ชอบนะครับ เพราะเธอน่ารักจะตาย" มันตอบผมตาใส ใบหน้าของมันนี่อ้อนผมจริง ๆ อ้อนตีนนะไม่ใช่อ้อนอย่างอื่น "จะไปไหนก็ไปเชรค ฉันเริ่มรำคาญแกละ" "ไปก็ได้ครับเจ้านาย" นั่นแหละครับผมรีบตัดบททันที แล้วมันก็ยียวนผมกลับด้วยการยกยิ้มมุมปาก ชอบนักกับการที่เห็นผมอารมณ์เสีย หัวร้อนเนี้ย! "เดี๋ยว!!" เมื่อนึกขึ้นได้ผมจึงเรียกคนที่กำลังหันหลังเดินออกไป "เปลี่ยนใจแล้วเหรอครับ" ยังครับยังจะกวนผมอีก อยากจะต่อยหน้าไอ้ลูกน้องคนนี้จริง ๆ "กวนส้น! ส่งรูปยัยนั่นมาให้ฉันดูดัวย" ผมด่ามันก่อนครับ แล้วจึงสั่งกับสิ่งที่ผมต้องการ "สนใจเธอละสิ แค่ได้ยินว่าเธอสวย เธอน่ารัก ผมรู้หรอกน่าว่าเจ้านายมีสเปกสาวแบบไหน" "พล่ามพอหรือยัง" แล้วก็เป็นผมนี่แหละที่เอือมระอากับไอ้เชรค ผมวางสีหน้านิ่งขรึม เชรครู้ดีว่าถ้าสีหน้าแบบไหนที่มันไม่ควรเล่นต่อ เพราะผมเวลานิ่งจะดูดุมาก มันเข้าโหมดจริงจังจะดูน่าเกรงขาม "จากสีหน้าเจ้านายแล้ว ไม่อยากพอก็ต้องพอครับ" เชรคเริ่มหยุดแล้ว ผมสบายใจ น่าจะวางฟอร์มตั้งนานแล้วนะผมเนี้ย จะได้ไม่ต้องมาเปลืองน้ำลายต่อความยาวสาวความยืดกับมัน "ไสหัวไป จะไหนก็ไป แล้วส่งหน้าตายัยนั่นมาด้วย แล้วก็เรื่องเด็กนี่ต้องเป็นความลับ เพราะฉันไม่อยากให้ใครมาสนใจเรื่องของฉันมาก ฉันไม่ชอบ!" "ครับ" แล้วเชรคก็เดินออกจากห้องทำงานของผมไป ไม่นานนักก็มีการแจ้งเตือนของข้อความเข้ามา ผมจัดการเปิดดูมันเป็นรูปถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าเป็นใคร เพราะงานที่เชรคได้รับไปเขามีพร้อมส่งผมทันที "หึ...ไม่ธรรมดานี่หว่า" 'อารียา' ผมลุกยืนแล้วมองไกลไปยังด้านนอกที่ตอนนี้มีแสงแดดในตอนเย็นสาดทอ ทัศนียภาพที่กว้างไกล ตึกสูงระฟ้ามากมายที่รายล้อม ผมยืนคิดกับสิ่งที่เชรคพูด พร้อมกับใบหน้าที่ติดตาของผมเพียงแค่เห็นผ่านรูปถ่าย ใบหน้าจิ้มลิ้ม รอยยิ้มที่น่ารัก พวงแก้มกลมเนียนใส มันผิดคลาดจากที่ผมคิดไว้โดยสิ้นเชิง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD