Ep.6 HE IS MINE ผู้ชายของฉัน
เราทั้งคู่ต่างเงียบ แต่ฉันนี่สิใจร้อนเหมือนไฟ ฉันเป็นห่วงพี่ทีสองมาก กลัวเขาจะไปมีเรื่องมีราวกับใคร เลยเผลอเร่งแวร์ซายด์ให้ขับรถเร็วขึ้น
"ขับเร็วกว่านี้ได้มั้ย ขับเหมือนตอนที่นายไปแข่งรถนะ"
แวร์ซายด์หันมามองหน้าฉันนิ่ง ไม่พูดอะไร แต่เขาก็ยอมเหยียบคันเร่งให้ตามที่ฉันขอ ไม่นานเราก็มาถึง TJ ผับ ผับชื่อดังย่านทองหล่อ ซึ่งครอบครัวแวร์ซายด์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นเจ้าของ
และเมื่อฉันได้เห็นสภาพพี่ทีสอง บอกตามตรงว่า อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเขาดูโทรมไปมาก ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขาทันที
"อ่ะ ขอบใจที่ดูแลเขา"
ฉันยืนแบงค์พันให้พนักงานสองคนที่ช่วยพยุงพี่ทีสองอยู่ ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะเริ่มสร่าง พอจะพูดจารู้เรื่องขึ้นบ้าง
"ขอบคุณครับ" พวกเขารับและรีบเดินผ่านหน้าแวร์ซายด์ไป เขาได้แต่ยืนมองนิ่ง ๆ อยู่ห่าง ๆ
"พี่ทีสอง ๆ รู้เรื่องบ้างรึเปล่าเนี่ย พี่ทีสองคะ ๆ" ฉันเขย่าตัวพี่ทีสองที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าและบุหรี่
ฉันค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ พี่ทีสอง ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาและค่อย ๆ เช็ดหน้าให้เขาอย่างเบามือ
"ฉันคิดถึงเธอ โมนา เธอจะไม่มีวันกลับมาแล้วใช่มั้ย"
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะร้องไห้จริง ๆ ฉันชะงักมือทันทีที่ได้ยินชื่อโมนา แต่ฉันคือเพลินตา...
"พี่ทีสองคะ เพลินอยู่ตรงนี้ไง มองเห็นเพลินมั้ย?"
ฉันนั่งมองหน้าเขา นัยน์ตาเขาเศร้าหมอง จนกระทั่งเขาก็สบตากับฉันสักพัก แต่เขาก็เงียบไป
"ไม่เห็นสินะ เพราะเพลินไม่เคยอยู่ในสายตาของพี่ทีสองเลยสักครั้ง..." ฉันถามเอง และหาคำตอบเองได้
ฉันพูดกับเขาด้วยเสียงสั่น ๆ มันไม่ได้โกรธ ไม่ได้เสียใจ แต่มันทำให้ฉันได้รู้ว่า ต่อให้ยัยโมนาไม่อยู่บนโลกนี้ ยังไงพี่ทีสองก็ไม่มีวันกลับมาหาฉัน ฉันมองเขาอยู่นาน ได้แต่สงสัยทำไมฉันถึงปล่อยให้ตัวเองมายืนอยู่จุดนี้ได้อีก ทั้งที่เราไม่ควรได้เจอกันอีกแล้ว...
"กลับบ้านกันนะคะ เดี๋ยวเพลินไปส่งนะ"
ฉันปาดน้ำตาและพยุงพี่ทีสองให้เดินไปที่รถ แต่ด้วยความที่เขาเองก็ตัวหนัก ฉันจึงดึงเขาแทบไม่ขึ้น ฉันเลยหันไปขอความช่วยเหลือจากแวร์ซายด์ที่ยืนดูอยู่ไกล ๆ
"นี่แวร์ซายด์!! จะยืนนิ่งอยู่อีกนานมั้ย"
"อ่อ ก็นึกว่าเธอลืม ว่ามีฉันมาด้วย" คำพูดอาจจะดูกวน ๆ แต่น้ำเสียงเขาเหมือนประชดมากกว่า
"โอ๊ย เดินดี ๆ ค่ะ ระวังล้ม ๆ ระวัง!"
ฉันเดินเซ ๆ ทันทีที่พี่ทีสองทิ้งน้ำหนักตัวลงมา แวร์ซายด์จึงรีบเดินเข้ามาประคองพี่ทีสองแทน ก่อนจะสั่งให้ฉันไปเปิดประตูรถรอ เขาโยนร่างพี่ทีสองใส่เบาะหลังทันที และเดินกลับไปขึ้นรถ ระหว่างทางเราไม่มีคำพูดใด ๆ ส่วนพี่ทีสองก็เมาคอพับหลับไปจนถึงบ้านเขา
พอเรามาถึงบ้านพี่ทีสอง
"อ้าว คุณเพลิน คุณแวร์ซายด์ แล้วคุณทีสอง ทำไมเมาไม่รู้เรื่องกลับมาอีกแล้วคะ" ป้าสายใจที่นอนรออยู่ห้องรับแขกรีบวิ่งเข้ามาจับเนื้อจับตัวพี่ทีสองอย่างเป็นห่วง
"ทำไมพี่ทีสองถึงเป็นได้ขนาดนี้ละคะ ป้า" ฉันถามป้าสายใจทันที
"อย่าพึ่งถามได้ปะ ฉันหนัก ช่วยบอกทางไปห้องพี่ทีสองก่อน" แวร์ซายด์ที่พยุงพี่ทีสองพูดแทรกขึ้นขัดบทสนทนาของฉันกับป้าสายใจ
"อ่อค่ะ ๆ ทางนี้เลยค่ะ คุณแวร์ซายด์ ๆ" แล้วป้าสายใจก็รีบเดินนำทางเราไปเปิดประตูห้อง
"เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำอุ่นมาเช็ดตัวคุณทีสองก่อนนะคะ" ป้าสายใจรีบเดินออกจากห้องไป
แวร์ซายด์ค่อย ๆ วางพี่ทีสองลงบนเตียงของเขา ส่วนฉันก็กวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง บนโต๊ะทำงานของเขายังมีรูปฉัน และผ้าพันคอ หูฟังทุกสิ่งที่ฉันเคยให้เขา แต่สายตาฉันไปสะดุดกับซองสีน้ำตาล และรูปของใครบางคน กระจัดกระจายอยู่ทั่วโต๊ะ และก็แผ่นเอกสารเต็มไปหมด
ฉันเลยถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู มันคือรูปแอบถ่ายของยัยโมนา และข้อมูลการรักษาตัว ด้านอาการทางจิตและข้อมูลปัญหาทางสุขภาพ สาเหตุก็มาจากตอนที่ยัยโมคิดสั้นนั่นแหละ ในใบระบุว่า เธอมีอาการของโรคซึมเศร้าและป่วยทางจิตใจ
นี่เขาตามหายัยโมจนเจอ แต่เขากลับไม่กล้าที่จะไปเจอเธองั้นหรอ?
"ถ้าเธอจะอยู่ดูแลพี่ทีสองที่นี่ ก็อย่าลืมบอกป้าแม่บ้านเอาผ้าห่มมาเพิ่มล่ะ แอร์มันเย็น ๆ"
แวร์ซายด์พูดพลางจัดแจงท่านอนให้คนเมา ก่อนที่เขาจะเดินออกไปโดยไม่มองหน้าฉันสักนิด ทำไมดูเหมือนเขาไม่ค่อยพอใจอะไรสักอย่าง
"เป็นอะไร ?" ฉันเดินออกไปถามเขาทันที
"ไม่ได้เป็นอะไร" แวร์ซายด์ตอบอย่างไม่มองหน้า ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถ และฉันก็เปิดขึ้นไปนั่งเหมือนกัน
"แล้วเธอไม่เป็นห่วงพี่ทีสองแล้วรึไง" เขาถามอย่างกวนตีน
"เราจะไปห่วงคนที่ทำร้ายจิตใจเราทำไม อีกอย่างห้องพี่ทีสองก็แอร์เย็นเกินไป" ฉันโกหกออกไป ใช่ ฉันเป็นห่วง ฉันยังแคร์ แต่ฉันไม่ใช่คนที่เขาต้องการ ฉันไม่ใช่คนที่เขาอยากเจอ ซึ่งฉันไม่รู้ว่า ฉันควรจะอยู่ตรงนั้นในฐานะอะไร
"เธอโกหก" แวร์ซายด์พูดออกมาเบา ๆ ก่อนจะขับรถกลับมายังคอนโดของเรา
TK Condo
"ไม่อาบน้ำละรึยังไง ผู้หญิงอะไรเนี่ย"
แวร์ซายด์บ่นทันทีที่ฉันกำลังล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ก็ฉันไม่ได้ออกบ้านมาเป็นเดือน พอกลับมาใส่ส้นสูงเดินไปไหนไกล ๆ ก็รู้สึกระบมเท้าขึ้นมาจนไม่อยากจะก้าวเดินไปไหนแล้ว
"โอ๊ย ก็ฉันเมื่อยนิ ไว้อาบดึก ๆ ก็ได้" ฉันตอบอย่างงัวเงีย
"ฉันพนันได้เลยว่าเธอไม่อาบน้ำแน่ ๆ"
แวร์ซายด์พูดจบเขาก็ถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออก ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของฉัน
"เฮ้ย ๆ จะทำไรอะ" ฉันกำหมัดเตรียมป้องกันตัว
"ไม่อาบน้ำก็ต้องล้างหน้า ดูดิ เครื่องสำอางเลอะเต็มหน้าไปหมด สิวขึ้นหน้าเธอแน่ ๆ" เขาเดินมาจิ้มหน้าฉันและทำท่าทางรังเกียจ
"โอ๊ยย บอกว่าขี้เกียจไง หน้าฉันปะ นายอ่ะกลับห้องตัวเองไปเลย" ฉันปัดมือเขาออกทันที และพยายามข่มตาหลับ แต่ก็ได้ยินเสียงกุกกัก ๆ ในห้อง "แวร์ซายด์ ออกไปจากห้องฉันสักที รำคาญ"
สักพักเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำของฉัน ก่อนเดินออกมาพร้อมกับสำลีและคลีนเซอร์ แล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างเตียงที่ฉันนอนอยู่ แล้วค่อย ๆ เทคลีนเซอร์ลงบนสำลีและเช็ดมาบนหน้าของฉันอย่างเบามือ
"ดูดิเนี่ย โบกไปกี่ชั้นเนี่ย นึกว่าโบกปูน" เขาโชว์คราบเครื่องสำอางบนสำลีให้ฉันดู จากนั้นก็สั่งให้ฉันเม้มปาก ซึ่งฉันก็ยอมทำตามแต่โดยดี
"ง่วง นายเช็ดเร็ว ๆ หน่อย ฉันง่วง"
ฉันรู้สึกสบายหน้าและเคลิ้ม ๆ เหมือนจะหลับ ในขณะที่เขายังคงเคร่งเครียดกับการเช็ดคิ้ว และเปลือกตาที่แต่งด้วยมาสคาร่าและอายแชโดว์สุดเป๊ะปังของฉัน
"เพิ่งรู้ว่า มีนายนี่ก็ดีเหมือนกันนะ" ฉันพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไร
IG: Versailles.10
30 likes
Versailles.10 หมดสภาพไปแล้วหนึ่ง Sleep Beauty
Delay.69: no comment kub
Winter: ....
Pingpong_Nobra: ถ้านางตื่นระวังหัวจะแตกเอานะสามี ตุ๊ดเป็นห่วง