ร่ำสุรา
หลังจากผ่านบทเร่าร้อนในคืนนั้นทำให้นางเกือบที่จะไม่มีแรงเดิน ท่านชินอ๋องนั้นทรงหยุดงานสามวันติดต่อกัน จะมีหรือที่นางนั้นจะได้พักผ่อน เขาเล่นเอานอนกับนางตลอดเวลาไม่ยอมไปไหนเลยแม้แต่น้อย
จะต้องส่งจดหมายไปขอบคุณหวังซูเหยาเสียแล้วว่ามันได้ผลเกินคาด จนคิดว่ามันเกินกว่าที่คาดเอาไว้เสียจริง!
ณ จวนสกุลหาน
“ฮูหยินท่านวันนี้จะปลูกดอกไม้หรือไม่เจ้าคะ บ่าวจะไปเตรียมของมาให้เจ้าค่ะ'' เสียงของสาวรับใช้คนสนิทเอ่ยดังขึ้น
“ใช่วันนี้ข้าจะไปปลูกดอกไม้ เจ้าไปเตรียมของมาให้ข้าเลยประเดี๋ยวข้าจะออกไปเอง” หวังซูเหยาเอ่ยจบก็ได้รีบลุกขึ้นทันที วันนี้อากาศดีไปปลูกดอกไม้ในสวนดีกว่า
นางเดินออกมาหยุดที่กลางสวนที่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความว่างเปล่าไม่มีดอกไม้เลยสักดอก
“ดีเช่นนั้นข้าจะปลูกให้หมดทั้งสวนเลย”
หญิงสาวนั้นตั้งใจปลูกจนเวลาผ่านไปไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนจ้องมองมาที่นางอยู่ตลอดเวลา
“อ่าา! เสร็จเสียที” ก่อนที่จะมองไปที่ผลงานที่ตนเองนั้นได้ทำเอาไว้ แล้วเอ่ยเรียกสาวรับใช้ให้เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปภายในห้องก่อนจะสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่คม
“ท่านแม่ทัพ…”
“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่งั้นรึ” แม่ทัพหานสือเสวี่ยนจ้องมองไปที่ด้านหลังของนางด้วยความใคร่รู้
“ข้ากำลังปลูกดอกไม้เจ้าค่ะ”
“อ่อ” เอ่ยตอบคำสั้นๆ ออกมาแล้วเดินจากไป หวังซูเหยายิ้มออกมาด้วยความดีใจตั้งแต่แต่งงานเข้ามาเป็นฮูหยินเป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เขาเอ่ยถามนางเช่นนี้ก่อน
ห้าวันต่อมา...
วันนี้นางจะต้องเดินทางไปยังเมืองลั่วหยางทางใต้
“ขนของเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ”
“ขอบคุณพ่อบ้านเฉิน”
ก่อนที่จะก้าวขาขึ้นรถก็พบเข้ากับท่านแม่ทัพหานสือเสวี่ยนที่นั่งภายในรถก่อนอยู่แล้ว
ทำให้นางฉายแววตางุนงงจนเห็นได้ชัดทำเอาชายหนุ่มนั้นได้เอ่ยออกมา
“วันนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย รีบขึ้นมาได้แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยจบก็ได้หันหน้าไปอีกทาง เขาก็แค่อยากไปหาท่านพ่อท่านแม่เพียงเท่านั้น
ก่อนรถม้าจะค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไประหว่างทางก็ไม่มีผู้ใดเอ่ยอันใดออกมาทำให้บรรยากาศมันรู้สึกอึดอัด
ใช้เวลาเดินทางมาครึ่งวันก็ถึงที่หมายที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ ในแถบเทือกเขาสูงมองลงมาก็พบกับแม่น้ำไหลผ่านคลื่นลมพัดผ่านไปมาจนรู้สึกเย็นสบาย
นัยน์ตาคู่คมสำรวจมองสองข้างทางที่มิได้กลับมานาน ก่อนที่รถม้าจะตรงเข้ามาจอดในจวนหลังใหญ่ที่มีคนออกมารอต้อนรับพวกเขาก่อนอยู่แล้ว
“ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นพ่อแม่ด้วยความคิดถึงหานหนิงผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาอย่างน้อยใจว่า
“ไม่คิดว่าเจ้าจะมาด้วย”
ไม่ทันที่หานสือเสวี่ยนจะเอ่ยตอบผู้เป็นแม่ออกไป หานหนิงรีบผละตัวบุตรชายออกไปไกลๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาลูกสะใภ้ทันที
“ซูเหยา”
“สวัสดีเจ้าค่ะ”
“เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะเดินทางมาเหนื่อยหรือไม่?”
“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ^^”
“งั้นเข้ามาด้านในก่อนเถิด หลบไปซะ!” เอ่ยไล่บุตรชายแท้ๆ อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะจับมือเด็กสาวเดินตามเข้ามาด้านใน
หานสือเสวี่ยนเห็นภาพเช่นนี้ก็อยากจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา เขาเป็นบุตรชายของท่านแม่หรือเปล่าเนี่ย เหตุใดถึงทำท่าทีรังเกียจเช่นนี้กัน
หานเฉินมองบุตรชายก่อนจะหัวเราะออกมา “เจ้ามันลูกเก็บมาเลี้ยงน่ะ” พร้อมเดินเข้าไปด้านใน
“ท่านพ่อขอรับ!”
อาหารมากมายที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า
หานหนิงคีบเนื้อหมูส่งมันมาใส่ถ้วยของหญิงสาวตรงหน้า หวังซูเหยาที่เห็นเช่นนี้จึงเอ่ยขอบคุณออกไป
“เป็นอย่างไรบ้าง ไอ้บุตรชายข้ามันดูแลเจ้าดีหรือไม่” เมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ออกมาทำเอาหวังซูเหยานิ่งไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าค่ะท่านแม่ทัพดูแลข้าดีเจ้าค่ะ”
หานสือเสวี่ยนมองไปที่สตรีข้างๆ ก่อนจะไม่สนใจก็เป็นจริงอย่างที่นางกล่าวนั้นแหละไม่ว่านางจะอยากได้อะไรเขามิเคยขัดเสียหน่อย
หานหนิงและหานเฉินมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า พวกเขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว แต่งงานกันมาห้าปีพวกคนแก่เช่นเขาก็อยากอุ้มหลานบ้าง
“เจ้าร่ำสุราเป็นเพื่อนพ่อหน่อยก็แล้วกัน นานๆ ทีจะอยู่ด้วยกันเช่นนี้” หานเฉินผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นก่อนบุตรชายจะพยักหน้า
“ซูเหยาพวกเราสองคนไปอีกห้องหนึ่งดีกว่าจ้ะปล่อยให้พวกหนุ่มๆ เขาคุยกันเถิด”
“เจ้าค่ะ”
**********