ห้องทำงานจอห์นอยู่บนชั้นสอง ของตัวบ้านหลังงามเนื้อที่กว่าพันตารางเมตรสร้างบนเนินสูงในระยะห่างจากชายหาดไม่ถึงร้อยเมตร หากมองไปด้านนอกหน้าต่างห้องทำงานของจอห์นก็สามารถเห็นบรรยากาศรอบอาณาเขตของบ้านหลังโออ่านี้ ซึ่งด้านหลังมีผืนป่าดิบชื้นโอบล้อมและด้านหน้าคือหาดทรายขาวกับน้ำทะเลสีอะความารีนสดใส ดูร่มรื่นน่าพักพิงไม่ต่างจากวิมาน เขาไม่กังวลว่าใครจะเห็นนาริณในสภาพนุ่งลมห่มฟ้าจากทางด้านนอกหน้าต่าง ยกเว้นคนคนนั้นจะมีปีกบินหรือขี่เครื่องร่อนมา แต่นั่นก็หมายความว่าต้องเสี่ยงกับกระสุนปืนของบอดี้การ์ดนับสิบชีวิตที่หมุนเวียนเปลี่ยนผลัดดูแลความปลอดภัยอยู่รอบบริเวณบ้านตลอด 24ชั่วโมง
ร่างบางที่ยืนหลับตาเปลื้องเสื้อผ้าซึ่งจอห์นเป็นคนสรรหามาเพื่อเธอเพราะคิดว่ามันน่าจะเหมาะสมกับสุภาพสตรีอย่างนาริณมากกว่าเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่เธอใส่ประจำ ทำให้คนมองต้องเผลอกลั้นลมหายใจ เขารู้แล้วว่าเธอไม่เหมาะจะสวมใส่อะไรทั้งนั้น นอกจากเนื้อหนังมนุษย์ที่พระเจ้าช่างทรงสร้างมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์กำหนัดของเขาโดยเฉพาะ
“ถอดออกให้หมดทุกชิ้นนาริณ ไม่เว้นแม้แต่รองเท้ากับบิกินีเส็งเคร็งนั่นด้วย!”
คนสั่งต้องข่มใจอย่างมากที่จะไม่ลุกขึ้นไปกระชากผ้าผืนน้อย ออกจากสะโพกผาย
ท่าทางถอดบิกินีแบบเงอะงะเชื่องช้าของเธอไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย แต่มันกลับทรมานอวัยวะไร้กระดูกที่ดันเป้ากางเกงยีนส์เนื้อนิ่มเป็นรูปทรงกระบอกขนาดยาวเหยียด พองแข็งจนซิบแทบปริแตก
เรือนร่างโค้งเว้าบาดใจถูกเปิดเปลือยล้อนจ้อน มีเพียงมือน้อยที่พยายามปิดป้องของลับข้างบนกับล่างเอาไว้ ผิวขาวเนียนเหมือนไข่ปอกแดงเถือกอย่างน่ามองเพราะเจ้าของทรวดทรงยั่วกาม มีอาการเลือดลมเห่อร้อนวูบวาบตามผิว เธอรู้สึกอับอายมากจนแทบอยากหายตัวไปจากโลกใบนี้
“คุณคงต้องเรียนรู้วิธีการดูแลผมให้ชำนาญเหมือนมืออาชีพ”
ก้นของเขามันร้อนจนไม่สามารถทนนั่งติดเบาะเก้าอี้ทำงานได้อีกต่อไป จอห์นลุกขึ้นเดินสำรวจร่างเล็กแต่สวยหมดจดทั้งเนื้อทั้งตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ แกล้งบีบขยำบั้นท้ายนุ่มแน่นเหมือนติดสปริงชั้นดีตอนก้มลงมาขบเม้มติ่งหูและพูดบอกเธอเสียงพร่า
“อ๊ะ! ”
เขาอุ้มเธอตัวปลิวเหมือนเป็นวัตถุไร้น้ำหนัก พาร่างเล็กนุ่มนิ่มน่ากอดไปนั่งตรงเบาะหนังสีน้ำตาลของโซฟาที่เข้ามุมฉากติดริมหน้าต่าง
“ห้ามหลับตานาริณ! ลืมตามองมาที่ผมแล้วก็แยกขาของคุณกางออกให้สุด”
จอห์นมองหน้าหวานที่ออกอาการกระอักกระอ่วนด้วยสายตาเครียดเขม็ง ยามถอดเสื้อยืดสีขาวคอวีเหวี่ยงไปพาดบนเก้าอี้ทำงานที่อยู่ด้านหลังอย่างแม่นยำตามด้วยกางเกงยีนส์สีเข้มซึ่งนอกจากนั้นเขาก็ไม่ได้สวมใส่อะไร เพราะกิจกรรมหลักที่วางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะทำร่วมกับเธอตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์บนเกาะแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นต้องสวมใส่สิ่งกีดขวางให้ระคายอารมณ์เลยด้วยซ้ำ
“รู้ใช่ไหมว่าควรทำอะไร? ”
คำถามชวนคิดของจอห์นมันเข้าใจง่ายและสิ่งที่อยู่ในมือใหญ่นั่นก็ทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายที่ไหลออกมาลงคอ ก่อนมันจะเอ่อล้นจากปาก ‘นี่คืออาการตอบสนองโดยกลไกทางธรรมชาติ’ นาริณนึกปลอบใจตัวเองที่เริ่มแกว่งเพียงเพราะเห็นอวัยวะล่อกิเลสตัณหาของเพศผู้
“ใช้สองมือ”
นอกจากจะสั่งด้วยเสียง มือของเขายังเอื้อมลงมาดึงมือน้อยที่ปิดทาบความสาวเอาไว้ ให้กอบกุมถุงเนื้อใต้ฐานลอนเอ็นที่พองตัวแข็งจนล้นหลามกว่ากำมือและยาวเหยียดออกจนแตะสะดือยามจอห์นชันมันขึ้นสูง
“อา...ใช่ ลูบตรงนี้เบาๆ แล้วกำดุ้นของผมแน่นๆ เหมือนตอนมันอยู่ในร่องคุณ”
คำพูดโจ๋งครึ่มของเขา ทำให้เธอเสียววาบในจุดลึกเร้นจนเผลอหุบขาลงด้วยความสยิว แต่ก็ติดที่ร่างสูงใหญ่ยืนแทรกกลางอยู่และจับเข่าสองข้างของเธอชันขึ้น วางเท้าเล็กบนเบาะให้นั่งถ่างออกเป็นรูปตัวเอ็ม
“แลบลิ้นเลียตรงหัวเหมือนทำความสะอาดให้มันเปียก แล้วก็ใช้ปากของคุณดูดมัน ใช่...อย่าให้โดนฟัน โอวว...ยอดมาก อาา...”
สองมือหนาเลื่อนมาขยุ้มท้ายทอย บังคับจังหวะการเคลื่อนไหว เป็นดั่งใจเขาต้องการ ถ้าหากจอห์นเอายาให้ทานก่อนหน้านี้ นาริณก็คงจะกล่าวหาว่าเป็นเพราะอำนาจของยาที่ควบคุมเธอ จนหลวมตัวทำตามคำสั่งของเขา
สติสัมปชัญญะของเธอกำลังเลอะเปื้อนคาวราคะ มันแยกความหมายของคำว่าสมยอมกับคำว่าฝืนใจไม่ออก ได้แต่ปล่อยความรู้สึกควบคุมร่างกายให้สนองตอบคำบัญชาจากปากจอห์นอย่างเห็นดีเห็นงาม
“อาา...”
ในโสตประสาทรับรู้แค่เสียงครางเร้าอารมณ์ของเขา สัมผัสความใหญ่โตเกินกว่าที่เธอเคยแอบคิดซุกซนจินตนาการถึงมันตามประสาสาววัยรุ่นยามเห็นชายหนุ่มถูกตาต้องใจ ดื่มด่ำรสชาติผิวเนื้อสะอาดสะอ้านและน้ำข้นลื่นจากปลายท่อล่ำสันด้วยลิ้นเล็ก จมูกโด่งแหลมสูดกลิ่นคาวแบบบุรุษที่แผ่กระจายเรียกร้องความสนใจจากสตรีเพศในยามสืบพันธุ์
“อา...ให้ตายเถอะ! ปากคุณ โอ้วว... ซี๊ดด... อ้าาห์! ”
จอห์นกระชากตัวเองออกห่างโพรงร้อนแสนร้ายกาจของเธอ เขาหวุดหวิดจะหลั่งใส่ปากลิ้นที่ไม่ประสีประสา ถ้าหากเขามีจิตปกติเช่นคนธรรมดาก็อาจจะยินดีกับการเรียนรู้อย่างว่องไวของนาริณ
แต่พอเห็นสีหน้าเผลอแสดงความอาลัยอาวรณ์เหมือนเด็กถูกแย่งขนมหวาน จอห์นถึงเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้าง สิ่งที่ปรารถนาจากเธอไม่ใช่เพียงแค่ความสุขสมทางเพศรส... มันสำคัญต่อเขามากกว่านั้น
หากร่างเปลือยที่นั่งอยู่ระหว่างขาของจอห์นเป็นผู้หญิงอื่น ป่านนี้เขาคงใช้มือบีบกรามเจ้าหล่อนกระแทกดุ้นใส่ปากไม่ยั้งจนกระทั่งถึงสวรรค์ไปเรียบร้อยแล้ว
เขาช้อนร่างเล็กบางแต่ทว่าสมบูรณ์ด้วยสัดส่วนอันพึงมีได้สุดเซ็กซี่เหลือรับประทาน หมุนขึ้นควบคร่อมหน้าตักแกร่งแล้วสลับให้ตัวเองมานั่งแทนที่เธอตรงมุมฉากของโซฟา มองสองเต้าขาวอวบที่ปลายยอดสีชมพูเรื่อสั่นกระเพื่อมในระดับเหมาะเจาะด้วยนัยน์ตาวาวระยับ อดใจไม่ไหวที่จะตวัดลิ้นเขี่ยเม็ดกลมเล็กและดูดเข้าปากจ๊วบจ๊าบแรงๆ สลับข้างจนรอบวงป้านเนื้อสีอ่อนเป็นรอยนูนแดงเด่นชัด ขณะที่นาริณหวีดร้องเสียงแหลม พยายามผลักไหล่หนาออกห่างเพราะเจ็บจี๊ดตรงหัวนมทั้งสองข้างที่ถูกดูดดุนด้วยปากลิ้นสารพัดพิษสง เขาทำให้นาริณเขินอายและเสียวซ่านจนขนลุกซู่ซ่าไปทั้งตัว
“ควบผม”
หน้าหล่อคมยอมผละห่างออกมาจากร่องอกอึ๋มไม่ใช่เพราะแรงผลักขี้ประติ๋วของนาริณ แต่เพราะว่าเขากระหายอยากเข้าไปในความสาวสดของเธอแทบเป็นบ้า มือใหญ่ประคองท่อนเนื้อเหยียดตัวแข็งให้ตั้งตรงกับตำแหน่งชวนหวาดเสียว เกลี่ยปลายหนาทรงลูกศรเน้นคลึงรอยแยกกลีบอวบที่ฉ่ำลื่น แขนแข็งแรงอีกข้างกอดเอวคอดกิ่วกดสะโพกผายลดต่ำลงเมื่อดุนดันส่วนปลายบานขยายผ่านพ้นเข้ารูฟิตสำเร็จ
“ซี๊ดด...อ๊ะ!...”
“โอ... อย่าฝืนนาริณ อาา...”
ข้างในคลื่นเนื้อนุ่มมีความฉ่ำและอุ่นจัด ที่จอห์นอยากยัดเยียดตัวตนใหญ่โตของเขาฝังลึกอยู่ในนั้นจนหมดสิ้น แต่ความเล็กแคบของเธอยังคงเป็นอุปสรรค เขาส่งตัวเองเข้าไปได้แค่ครึ่งทางก็ต้องขยับถอยบั้นท้ายออกห่างแล้วโยกหยัดแท่งเอ็นยาวเสือกกลับเข้าไปซ้ำรอยเดิมให้ลึกซึ้งขึ้นอีกทีละน้อย
“จูบผม”
เป็นครั้งแรกที่นาริณไม่อาจปฏิเสธใจตัวเองว่าชื่นชอบ เมื่อได้ยินคำสั่งของจอห์น หลังจากเขาพรากเอาความเร้าอารมณ์ออกจากปากของเธอ มันชวนให้โหวงเหวงและรู้สึกโหยหาสิ่งทดแทน