“เข้าใจผิด?…สันดานหิวเงินแบบพวกเธอ ทำไมฉันจะดูไม่ออก ถ้าป่านนี้ฉันยังไม่กลับ คงเซ็นโอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว...เก่งมากดุจพลอย เธอมันเก่งมาก ทำเป็นซื่อๆ ไม่มีอะไร แต่เสนอหน้าจะช่วยพ่อฉันดูแลทุกอย่าง คงคิดล่ะสิว่ามันจะง่ายเหมือนตอนนั้น”
“ไม่ใช่นะ พลอยไม่เคยคิด…”
“คราวนี้ฉันจะไม่ยอมเดินหนีไปง่ายๆ เธอเตรียมตัวเอาไว้ ให้ดี รับรองว่าได้ชดใช้ให้ฉันจนสาสมแน่”
“คุณวิน...! ที่คุณลุงส่งคุณไปเรียนต่างประเทศ เพราะอยากให้คุณมีอนาคต เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับป้าภา” ถึงจะกลัวเขา แต่เธอก็อดแก้ต่างให้ภาณีไม่ได้
“ไม่เกี่ยว?”
“ใช่”
“เก็บคำพูดสวยหรูพวกนี้ไว้หลอกพ่อฉันคนเดียวเถอะ เพราะฉันไม่มีทางโง่เชื่อคำพูดคนอย่างเธอ อ้าปากก็รู้แล้วว่าต้องการอะไร” รอยยิ้มหยันผุดขึ้นมุมปาก สายตาคมกริบกวาดมองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
ร่างผอมบาง ที่สูงเพียงไหล่เขา แหงนคอตั้งบ่าเถียงฉอดๆ อย่างไม่เคยเห็น ปกติดุจพลอยจะเอาแต่ก้มหน้าหลบตา หรือไม่ก็หนีหน้า แต่คราวนี้กลับทำตัวเก่ง คงคิดล่ะสิว่าสมภพจะเข้าข้าง ฝันไปเถอะ ตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาต้องเอาคืนบ้าง
หญิงสาวชะงัก รู้สึกเย็นวาบไปทั่วแนวสันหลัง เมื่อสบตาคมดุคู่นั้น มันฉายแววเกลียดชังรุนแรง ใบหน้าหวานเจื่อนลง รู้ตัวว่าเผลอเถียงเขาออกไปหลายคำ ปกติก็ไม่เคยเข้าใกล้ธาวินระยะเผาขนแบบนี้ แต่เพราะคำพูดดูถูกป้าที่เธอรัก ทำให้ดุจพลอยเผลอจ้องหน้าเขาไม่หลบ และยังโต้กลับไปชุดใหญ่
ดุจพลอยเธอทำอะไรลงไปเนี่ย
หญิงสาวได้แต่โอดครวญในใจ ที่ผ่านมาระมัดระวังตัวตลอด รู้ว่าเขาไม่ชอบ ก็พยายามหลบเลี่ยง เดินหนี แต่คราวนี้คงเพราะไม่สบาย สมองเธอเลยบวมๆ เบลอๆ คิดอะไรไม่รอบครอบ
ดุจพลอยได้แต่เสียใจที่ตัวเองวู่วาม ไม่น่าไปทำให้เขาโกรธเลย รู้ว่าคนแบบธาวินเป็นพวกแค้นฝังหุ่น รักแรงเกลียดแรง และยังจำฝังใจ ต่อให้เอ่ยปากขอโทษ ก็ใช้ไม่ได้กับคนแบบเขา ธาวินไม่เคยปล่อยผ่านคนที่กล้าขัดคำสั่ง โดยเฉพาะเธอ และสัญชาตญาณในตัวก็บอกให้เธอหนี…ต้องหนี!
“ถ้า…คุณวินไม่มีอะไร พลอยขอตัวนะคะ” สายตาหลุบต่ำ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาอีก พอสติกลับมาครบถ้วน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอรู้สึกกลัว...ทั้งเกลียดทั้งกลัว
ดุจพลอยเบี่ยงตัวเดินหลบลูกชายเจ้าของบ้าน แต่มือใหญ่กลับกระชากแขนเธอไว้แล้วบีบแน่น หญิงสาวสะบัดออกด้วยความตกใจ แต่เขายิ่งเพิ่มแรงหนักขึ้น ใบหน้าหวานบิดเบี้ยว เหยเกด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ
“จะรีบไปไหนล่ะ” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียม เยือกเย็น ฟังดูก็รู้ว่าไม่พอใจ
“พะ...พลอยรู้สึกไม่สบายค่ะ ขอไปพักก่อน” เธอกัดฟันตอบ ฝืนความเจ็บที่แขน
“ไม่สบาย? หึ!...อย่ามากระแดะ เมื่อกี้ยังอ้าปากเถียงฉันฉอดๆ คนอย่างเธอมันด้าน ทน ไม่ตายง่ายๆ หรอก”
“พลอย...ไม่สบายจริงๆ ค่ะ”
“เธอคิดจะทำอะไร”
“ทะ ทำอะไรคะ?”
“ดุจพลอย!!”
“พลอยแค่มาเดินเล่นในสวนเท่านั้นค่ะ ไม่ได้มีอะไรเลย”
“คิดจะมาดักรอฟ้องพ่อฉันงั้นเหรอ” มุมปากกระตุก สายตาหรี่มองจ้องจับผิดคนตรงหน้า
“เปล่านะคะ พลอยแค่ลงมานั่งเล่น แป๊บเดียวก็จะขึ้นไปพักแล้ว” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบ เมื่อเขาชะโงกเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน ยิ้มแสยะนั่นทำเธอขนลุกเกรียว ทั้งรังเกียจและหวาดกลัว
“ถ้าฉันได้ยินเรื่องตกน้ำออกจากปากเธอสักแอะเดียว รับรองได้เจอมากกว่านี้อีก...จำไว้!” พูดจบเขาก็สะบัดมือออกเต็มแรงราวกับรังเกียจ ก่อนจะก้าวเท้าดุ่มๆ ลงจากศาลา โดยไม่หันกลับมามองคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าซีดเผือด ตกตะลึง
เขาจะทำอะไร!!?
...ไม่ฆ่า...แต่จะเจ็บยิ่งกว่าตาย เขาขู่เธอไว้อย่างนั้น
ธาวินทำแน่ คนใจร้ายแบบนั้นไม่เคยปราณีใครอยู่แล้ว
ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากัน สายตาจ้องมองตามแผ่นหลังหนาไป สีหน้าวิตกกังวล ไม่รู้ว่าเธอต้องเผชิญกับอารมณ์ร้ายของผู้ชายคนนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ กว่าจะหลุดพ้นออกไปจากที่นี่ ความเครียดแค้นชิงชัง ไม่ได้เผาผลาญแค่ใจธาวินคนเดียว แต่มันกำลังทำให้ผู้คน รอบกายเขาร้อนรุ่ม หาความสงบสุขไม่ได้เช่นกัน
ดุจพลอยยกมือขึ้นลูบคลำแขนตัวเองป้อยๆ ไหล่เจ็บ แขนก็เจ็บ และยังปวดหัวขึ้นมาอีก คิดว่าลงมาเดินเล่นสูดอากาศให้สดชื่นแล้วจะดีขึ้น ที่ไหนได้กลับเจอเรื่องหนักหนาสาหัสกว่าเดิม
“ฉันจะให้หนูพลอยเข้าไปฝึกงานที่บริษัท” สมภพเอ่ยขึ้น เป็นการบอกกล่าว ไม่ใช่หารือ แต่คำพูดประโยคเดียวก็ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเปลี่ยนไปทันที
ดุจพลอยช้อนตาขึ้นมองประมุขของบ้าน ก่อนจะค่อยๆ เหลือบมองไปทางชายหนุ่มอีกคนที่นั่งเงียบตั้งแต่เข้ามา สายตาลอบสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย ไม่รู้ระเบิดจะตกลงมากลางโต๊ะกินข้าวหรือเปล่า
“ทำไมต้องเข้าไปฝึกที่บริษัท ที่อื่นเยอะแยะ”
“ก็ฉันจะให้หนูพลอยไปเรียนรู้งานไว้ เผื่อจบจะได้เข้าไปช่วยทำงาน”
“นี่ยังประเคนให้กันไม่พออีกเหรอ ตอนมีชีวิตอยู่เมียใหม่พ่อก็กอบโกยทุกอย่าง ตายไปก็ยังจะมีตัวตายตัวแทน ล้างผลาญไม่จบไม่สิ้น”
“มันจะมากไปแล้วนะเจ้าวิน!”
“ผมพูดความจริง”
“ฉันให้หนูพลอยเข้าไปฝึกงาน …กอบโกยบ้าอะไร”
“หึ! เห็นเงียบๆ เรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัวเหมือนไม่มีอะไรแบบนี้แหละ หลอกให้ตายใจมานักต่อนัก ระวังเถอะจะถูกยัยเด็กนี่มันเลาะกระดูกกินไม่เหลือ”
“แกมันบ้า เคยมองคนอื่นในแง่ดีบ้างไหม”
“ทำไมผมต้องมองแง่ดี ก็ในเมื่อเห็นๆ กันอยู่ สันดานหิวโหย…พวกกาฝาก!!” หางตาเหลือบแลไปทางหญิงสาว ทำเอาดุจพลอยหน้าชาวาบ คำพูดดูถูกพวกนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยิน แต่เธอก็ทำใจให้ชินไม่ได้สักที
“คุณลุงคะ พลอยไปฝึกงานกับเพื่อนก็ได้”
“บริษัทเราก็รับเด็กฝึกงานอยู่แล้ว จะไปทำที่อื่นทำไม”
“แต่…”
“ไม่มีแต่ ไปฝึกงานที่บริษัทเรานั่นแหละ จะได้เรียนรู้งานไปในตัว พอจบจะได้เริ่มทำเลย”
“เอ่อ...” ดุจพลอยเหลือบตามองไปทางชายหนุ่มก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึง ดวงตาแข็งกระด้างกำลังจ้องประสานมา
“ลุงตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้หนูพลอยเข้าไปจัดการยื่นเรื่องได้เลย เดี๋ยวลุงแจ้งฝ่ายบุคคลไว้”