ในเวลาต่อมา
เวลาผ่านไปมิรู้นานเพียงใด ร่างของหวางเจี้ยนเฉิงก็ปรากฏขึ้นภายในห้องโถงใหญ่อีกครั้ง ชายชราเดินตรงมาหาบุตรสาวด้วยสายตาเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
“หลิงเอ๋อ!”เสียงแหบแห้งเรียกชื่อบุตรสาว
ชายชราเดินตรงเข้ามาสวมกอดร่างอรชรที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้เอาไว้แนบอกเพราะจะเป็นการกอดครั้งสุดท้าย ทำให้คนงามที่เป็นคนฉลาดเฉลียวพอจะเดาออกว่านับตั้งแต่นี้ต่อไปนางจะต้องอยู่ที่นี่แต่เพียงลำพัง
“อดทนนะเอาไว้นะหลิงเอ๋อ พ่อจะพยายามตามสืบเงินห้าหมื่นตำลึงทองกลับคืนมาให้ได้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้าว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อวันนั้นมาถึงพ่อจะมารับเจ้ากลับจวนตระกูลหวาง พ่อจะทำทุกวิถีทางทจะนำเจ้ากลับคืนมาให้ได้”หวางเจี้ยนเฉิงกล่าวน้ำเสียงปนเสียงสะอื้น เป็นเหตุทำให้บุตรสาวถึงน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที
“หลิงเอ๋อจะทำเพื่อตระกูลหวางเจ้าค่ะ จะอดทนให้ถึงที่สุด”นางบอกทั้งน้ำตา
ผู้เป็นพ่อพยักหน้าขึ้นลงก่อนจะกระซิบบอกบุตรสาวของตนเบาๆ
“ลูกของพ่อเป็นคนฉลาด จงใช้ความฉลาดและเสน่ห์ของสตรีให้เป็นประโยชน์ รักลูกมากนะหลิงเอ๋อ”หวางเจี้ยนเฉิงบอกรักลูกเพื่อสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกระชับร่างน้อยๆ เอาไว้แนบอกก่อนจะค่อยๆ คลายอ้อมแขนเมื่อได้ยินเสียงเตือนจากทางด้านหลัง
“รถม้าพร้อมแล้วขอรับ”เสียงของบ่าวรับใช้คนสนิทที่คอยดูแลความเรียบร้อยภายในจวนบอกอยู่ทางด้านหลังของสองพ่อลูก พร้อมเสียงของหวางเย่หลิงกระซิบบางอย่างกับบิดา
“ท่านพ่อส่งข่าวของข้าให้ท่านหญิงอี้ฉางได้ล่วงรู้ด้วยนะเจ้าคะ หากนางล่วงรู้ว่าตอนนี้ข้าอยู่ที่จวนอิ๋งชวนโหวจะต้องมีวิธีช่วยข้าได้อย่างแน่นอน เพราะท่านหญิงเป็นเหลนคนโปรดของไทฮองไทเฮา แน่นอนว่าหากนางมาหาข้าที่นี่ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวางอย่างแน่นอน หรือไม่บางทีนางอาจจะมีวิธีทำให้ข้าไม่ต้องพำนักอยู่ที่จวนนี้เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้หญิงของอิ๋งชวนโหวก็อาจเป็นไปได้เจ้าค่ะ”
คำกล่าวของบุตรสาวทำให้หวางเจี้ยนเฉิงคลี่ยิ้มออกมาได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“จริงสิ! พ่อหลงลืมท่านหญิงอี้ฉางไปได้อย่างไรกันเล่า”คนเป็นพ่อรำพึงเสียงเบาหากแต่เพียงครู่กลับมีหน้าวิตกขึ้นมาทันใดด้วยเป็นห่วงบุตรีของตน
“แต่เจ้าจะลงมือกระทำการสิ่งใดต้องทำอย่างระมัดระวังให้จงหนักและต้องรอบคอบให้มากนะหลิงเอ๋อ อิ๋งชวนโหวหาใช่คนขลาดเขลาตรงกันข้ามฉลาดปราดเปรื่องยิ่งนัก หาไม่แล้วจะครองตำแหน่งรองผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อผ้าได้อย่างไร และอีกไม่นานก็จะก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการ ทั่วทั้งต้าหมิงต่างล่วงรู้จนหมดสิ้น อีกทั้งโหดเหี้ยมและเลือดเย็นยิ่งนักจนได้ฉายาจอมอำมหิตแห่งกู้กง เจ้าต้องระวังให้มาก”คนเป็นพ่อเตือน
“ข้าจะระวังเจ้าค่ะขอท่านพ่อได้โปรดวางใจและเชื่อมั่นในตัวของข้า”นางตอบกลับไปเสียงหนักแน่น
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหวางเจี้ยนเฉิงจึงค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกจากร่างของบุตรสาว พร้อมหันหลังก้าวเดินออกจากห้องดังกล่าวไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินบ่าวรับใช้ของจวนอิ๋งชวนโหวบอกกลับมาเช่นนั้น
“ท่านพ่อ..” เสียงหวานร้องเรียกหาคนเป็นพ่อ ร่างอรชรรีบก้าวเดินตามหลังบิดาของนางไปหากแต่เพียงแค่ก้าวเดินปรากฏบุรุษร่างใหญ่กำยำ ยืนดักหน้าและหลังเปรียบประดุจว่านางคือนักโทษก็ว่าได้ หวางเย่หลิงจึงทำได้แต่เพียงยืนมองตามหลังได้แต่เพียงเท่านั้น
“พ่อขอโทษหลิงเอ๋อ”คนเป็นพ่อหันกลับมามองหน้าบุตรีเพียงคนเดียวอีกครั้ง ดวงตาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวดก่อนจะตัดใจหันหลังเดินออกจากประตูจวนขุนนางใหญ่ไปทันที
“ท่านพ่อ”เสียงสะอื้นร่ำร้องหาบิดาอยู่อย่างเงียบๆ ร่างอรชรสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่ปริปากร้องไห้ให้ใครได้ยิน
หึหึหึหึ!!!! เสียงหัวเราะดังก้องขึ้นอยู่ทางด้านหลังด้วยความชอบใจ
หวางเย่หลิงหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว ครั้นเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดดวงตากลมโตแปรเปลี่ยนจากความเศร้ากลายเป็นความเกลียดชังขึ้นมาโดยพลัน
“ช่างน่าประทับใจเสียจริงๆ พ่อกับลูกสั่งลาต่อกันช่างกินใจข้าเสียนี่กระไร รู้สึกว่าเจ้าจะไม่ร้องโวยวายแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามพ่อเจ้าบอกข้าว่าบุตรีแสนสวยยินยอมและเต็มใจที่จะมาเป็นสตรีที่จวนอิ๋งชวนโหวตามที่ข้าร้องขอแต่โดยดี แบบนี้สิจะได้ไม่เสียเวลา แสดงว่าเชี่ยวชาญในการปรนนิบัติบุรุษเป็นอย่างดีว่าจะสามารถทำให้พึงพอใจได้อย่าง...”
ฉาด! เสียงฝ่ามือกระทบลงบนใบหน้าหล่อเหลาประดุจเทพสวรรค์เสียงดังสนั่น ท่ามกลางอาการตกตะลึงของบรรดาบ่าวไพร่ในจวน ที่เห็นประมุขของจวนถูกตบอย่างแรงจนใบหน้าหันไปอีกทาง
“เจ้าคนหยาบช้า! ความคิดมีแต่เรื่องต่ำตม คิดอะไรดีๆ ให้เหมือนผู้อื่นบ้างไม่เป็นหรืออย่างไง”นางด่าทอกลับไปอย่างเหลืออดกับท่าทีและคำพูดจายียวนของขุนนางหนุ่มตรงหน้า
อิ๋งชวนโหวค่อยๆ หันกลับมาอย่างช้าๆ ใบหน้าหล่อเหลาชาไปทั้งแถบ ให้ตายเถอะสตรีนางนี้เหตุใดจึงมือหนักเป็นบ้า! ร่างสูงใหญ่ย่างสามขุมเข้าไปหา ดวงตาสีสนิมเหล็กจ้องนางราวกับว่าจะขย้ำเหยื่อให้แหลกคามือเลยทีเดียว
“เจ้าบังอาจตบข้าเป็นครั้งที่สองอีกแล้วนะแม่สาวน้อย”ท่านโหวหนุ่มคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคอ ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาหาเด็กสาวตรงหน้า ท่าทีในเวลานี้นี้ช่างน่าหวั่นเกรงยิ่งนัก
“อย่าเข้ามานะ! ถ้าไม่อยากถูกเล่นงานอีก!”หวางเย่หลิงตวาดก้องกลับไป
คำกล่าวของสตรีตรงหน้าช่างสร้างความขบขันเกิดขึ้นให้แก่อิ๋งชวนโหวอย่างยิ่งยวดครั้นได้ยินเช่นนั้น ดวงตาสีนิลหรี่ลงพร้อมจับจ้องร่างเล็กๆ ตรงหน้าเขม็ง
“ตัวก็แค่นี้จะมามีปัญญาทำอะไรข้าได้ เจ้าเข้ามาอยู่ที่จวนของข้าด้วยความเต็มใจ แต่กลับแสดงท่าทีไม่มีไมตรีเช่นนี้นะเหรอ ดูท่าหวางเจี้ยนเฉิงจะขาดการอบรมบ่มนิสัยบุตรีเพียงคนเดียวให้อยู่ในกรอบของกุลสตรียิ่งนัก สตรีเช่นนี้นะเหรอที่คาดหวังจะให้ออกเรือนกับตระกูลที่ดีๆ เช่นเดียวกัน ช่างไม่รักษาหน้าตาและเกียรติของตระกูลหวางของเจ้าเอาไว้บ้างเลยนะหวางเย่หลิง”โหวหนุ่มกล่าวน้ำเสียงเข้มจัด
“ทะ...ท่าน”หวางเย่หลิงถึงกับหน้าชาที่ถูกตอกหน้ากลับมาเช่นนั้นพร้อมเสียงของท่านโหวหนุ่มเอ่ยแทรกขึ้น
“อยากตบก็ตบเลย อยากรู้เหมือนกันวาจะมีแรงตบข้าได้สักกี่น้ำ ตรงกันข้ามยิ่งเจ้าตบ สิ่งที่จะได้รับจากข้าจะทนทรมานร้องครวญครางทั้งคืนไม่ได้หยุดเลยเชียว”อิ๋งชวนโหวกล่าววาจาสองแง่สองง่ามกลับไป เล่นเอาคนฟังยืนอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว จนร่างใหญ่เดินตรงเข้ามาหาเพื่อทำในสิ่งที่ต้องการ
“ถอยออกไปให้ห่างจากข้า! ข้าบอกให้ถอยออกไป!”หวางเย่หลิงคำรามลั่น
“จะให้ออกไปไหน ในเมื่อที่นี่คือจวนของข้า สติยังดีอยู่หรือเปล่าที่เอ่ยปากขับไล่เจ้าของจวนทั้งที่ข้าเป็นผู้มีพระคุณช่วยตระกูลหวางนับหลายร้อยชีวิตรวมไปถึงชีวิตของบิดาเจ้าด้วยเช่นกัน เงินห้าหมื่นตำลึงทองคิดว่าจะหาได้จากที่ไหนได้อีกหากไม่ได้ข้ายื่นมือเข้ามาช่วย ข้าเสียเงินก้อนโตไปตั้งมากมายไม่ได้ให้เจ้าเข้าจวนมาเพื่อแสดงกิริยาเช่นนี้กับข้า หลงลืมบทบาทและหน้าที่ รวมไปถึงฐานะของเจ้าไปแล้วหรืออย่างไรหวางเย่หลิง”อิ๋งชวนโหวกล่าวเน้นประโยคหนักแน่น
หวางเย่หลิงยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้ยินเช่นนั้น มือเรียวได้แต่กำเอาไว้จนแน่นทั้งสองข้าง พร่ำบอกกับตัวเองให้อดทนกับโหวหนุ่มจอมหื่นตรงหน้านี้ให้ได้ ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“ข้ามีบางอย่างที่จะถามเจ้า ว่าไปเอาบทเพลงครวญรักมาจากที่ไหนและผู้ใดเป็นผู้สอนให้เจ้าเล่นเพลงนี้”อิ๋งชวนโหวเอ่ยถามในสิ่งที่ต้องการล่วงรู้
คำถามดังกล่าวทำให้หวางเย่หลิงขมวดคิ้วสวยเข้าหากันครั้นได้ยินเช่นนั้น
“ท่านรู้จักบทเพลงครวญรักด้วยอย่างนั้นเหรอ”นางถามสวนกลับไป
อิ๋งชวนโหวพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันพร้อมเอ่ยขึ้น
“รู้จักดีมากเลยเชียวล่ะ...แล้วเจ้าล่วงรู้บทเพลงนี้ได้อย่างไร ผู้ที่สอนให้เจ้าเล่นเพลงนี้ไม่ได้บอกอย่างนั้นเหรอว่าเครื่องดนตรีที่เล่นคู่กันไม่ใช่กู่เจิ่งแต่เป็นอย่างอื่น”อิ๋งชวนโหวกล่าวพลางจับจ้องใบหน้าแสนสวยอย่างไม่วางตา
ครั้นหวางเย่หลิงได้ยินเช่นนั้นพลันนึกถึงใบหน้าของคนที่สอนนางเล่นดนตรีในวัยเยาว์ได้ขึ้นมาทันใด ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นปรากฏขึ้นในความทรงจำขึ้นมาทันที