บทที่ 6

797 Words
  “ฉันจะยอมรับคำอธิบายนี้ในตอนนี้” เมโลดี้มองเธออย่างเคร่งขรึม “ถ้าอย่างนั้น อธิบายให้ฉันฟังสิ ทำไมเธอถึงรู้ข้อมูลส่วนตัวของสแตนลีย์ โจนส์มากขนาดนั้น”   ดวงตาของชารอนเบิกกว้าง “เทพธิดา คุณกำลังแอบฟังการสนทนาของฉันกับเซียร์ราอยู่หรือเปล่า”   ใบหน้าของเมโลดี้บิดเบี้ยวอย่างดูถูก “คุณจะโทษฉันที่แอบฟังได้ยังไง ฉันกำลังอาบแดดอยู่และคุณไปที่นั่นเพื่อทำข้อตกลงลับหลังฉัน”   ชารอนเม้มปากอย่างไม่พอใจ   "ข้อตกลงที่ร่มรื่น? เทพธิดา คุณเก่งมากกับการเลือกคำของคุณ"   “อย่าเปลี่ยนเรื่องนะ บอกมาตรงๆ คุณรู้ได้ยังไงว่านิตยสารซุบซิบก็ไม่รู้”   แทนที่จะบอกว่าปาปารัสซี่ไม่สามารถจับข่าวของสแตนลีย์ได้ อันที่จริงแล้วสแตนลีย์ได้กดดันสื่อทั้งหมด ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้าเผยแพร่ข่าวของเขา กล่าวอีกนัยหนึ่ง สื่อต่างกลัวสแตนลีย์และตระกูลโจนส์ ดังนั้นข่าวของพวกเขาจึงถูกเพิกเฉยอย่างเฉพาะเจาะจง...   เมโลดี้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยของชารอน จ้องมองมาที่เธอด้วยแววตาที่เร่าร้อนของเธอ “อย่าบอกนะว่าเจ้าสนใจนายหนุ่มที่ร่ำรวยและทรงพลังเหล่านั้น เช่นเดียวกับเซียร์ราใช่ไหม?”   "ฮะ?"   “เป็นเพราะคุณชอบสแตนลีย์ด้วยเหรอ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณถึงติดตามเรื่องซุบซิบแบบนี้! คุณรู้ด้วยซ้ำว่าเขาชอบอาหารอะไร!”   ชารอนสำลัก   “พ่นเลย!”   “ฉันจะรักษามโนธรรมของฉัน ไม่ ฉันไม่ชอบเขา ไม่ชอบเลย!”   “คุณไขว้นิ้วไว้ข้างหลังใช่ไหม”   ชารอนพูดไม่ออก   ในรถฮัมเมอร์บนถนนสายหลักด้านนอก แอนโธนีเหลือบมองชายที่มองเอกสารที่เบาะหลังจากกระจกมองหลัง หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “เจ้านาย”   "พูดคุย."   สแตนลีย์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นเลย   แอนโทนี่ยกมือขึ้นและชี้ “ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็น...คุณผู้หญิง”   มือของเขาสั่นเล็กน้อย และปากกาลายเซ็นสีดำก็หยุดลงทันที สแตนลีย์มองขึ้นไปที่ที่แอนโธนีกำลังชี้ ที่จริงแล้ว ในอีกฟากหนึ่งของถนน ชารอนก้มศีรษะและเดินตามหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียว   ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็อ้าปากและดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดเธอก็กลั้นไว้ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าเล็กๆ ของเธอ ดวงตาโตของเธอมองไปรอบๆ ราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์   สแตนลีย์ถอนสายตาขึ้น ปิดเอกสาร แล้วพูดว่า "คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนถ่ายรูปที่แสดงในข่าวเมื่อคืนนี้ ทำไมสถานีโทรทัศน์ถึงกล้าออกอากาศ"   แอนโธนี่พยักหน้าและพูดว่า “ฉันรู้แล้ว”   “กำจัดปาปารัสซี่นั่นซะ ฉันไม่อยากเห็นเขาที่เมืองบีชมาร์ชอีกแล้ว ส่วนสถานีโทรทัศน์ ให้โทรหาหัวหน้าสำนักวิทยุและโทรทัศน์และขอให้พวกเขากดดันสถานีโทรทัศน์ พวกเขา ต้องกดดันสถานีโทรทัศน์ตลอดเวลา จนกว่าฉันจะอนุญาตให้ปล่อยมันไป”   "ใช่."   แอนโทนี่นั่งตัวตรงและมองอย่างระมัดระวังที่ชายผู้สวมใบหน้าเย็นชา “เจ้านาย เหตุผลที่สถานีโทรทัศน์กล้าประกาศข่าวเมื่อคืนนี้เพราะมีคนเข้ามาแทรกแซง”   สแตนลีย์เลิกคิ้ว "ใคร?"   แอนโธนี่พูดชื่อ "เลียม ฟราเซียร์"   ใบหน้าของสแตนลีย์เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที และมีแสงแวบวาบเย็นเยือกในดวงตาของเขา "เขา?"   เมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาโกรธมาก แอนโธนี่โพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นชาและไม่กล้าพูด   สแตนลีย์ดูมืดมนและเย็นชา เขาเย้ยหยัน แต่เขาไม่ได้โกรธ แอปเปิลของอดัมบิดเบี้ยวและเสียงหัวเราะดังก้องอยู่ในลำคอของเขา   สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว แอนโธนี่ขับรถไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และทำลายความเงียบในรถโดยพูดว่า "เจ้านาย คุณต้องการโทรหาคุณนายและไปรับเธอระหว่างทางไหม"   สแตนลีย์ลืมตาขึ้นและเหลือบไปมอง “ไม่คิดจะพูดมากหน่อยเหรอ?”   ข้างในหัวใจของเขา แอนโธนี่ตบตัวเองในขณะที่เขาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง "ใช่!"   “ก็อย่าพูดมากสิ!”   "ใช่."   “โทรไปบอกให้เธอออกมา”   "ฮะ?"   “ไม่ใช่แค่พูดมากนะ แต่นายยังหูหนวกด้วยเหรอ?”   แอนโทนี่พูดไม่ออก   เขารู้สึกผิดมากและคิดในใจว่า “เจ้านาย ทำไมคุณถึงอ่านหนังสือไม่ออกล่ะ เราไม่ควรขับรถออกไปอย่างไร้ความปราณีและเฉยเมยในเวลานี้หรือ”   “ทำไมเขาถึงขอให้ฉันโทรหาหลังจากดุฉันที่เอาแต่ใจจัง สถานการณ์ไม่ควรคืบหน้าแบบนี้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD