ตอนที่5 ต้องมนต์เสน่ห์
“หยุดก่อน หากได้ยินอะไรก็ไม่ต้องพูดนั่งดูอยู่นิ่งๆ”
จู่ๆ พ่อหมอก็มีสีหน้าเคร่งเคียดขึ้น เขายกมือเป็นเชิงห้ามน้ำหวาน ทันใดนั้นเองก็เกิดเสียงดังเกรียวกราวขึ้นจากด้านบนหลังคาบ้าน เสียงที่ทั้งสองได้ยินนั้นราวกับมีของแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมาย ร่วงหล่นลงมากระทบหลังคา
“…”
น้ำหวานอ้าปากค้าง มองหน้าพ่อหมอสลับกับเพดาน เธอเห็นเขาวางบุหรี่ที่กำลังสูบลง แล้วหันหลังไปหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากพานไหว้ครูสีทอง ใส่มันไว้ในมือหลับตาลงประนมมือปากขมุบขมิบท่องบ่นภาวนาคาถางึมงำ
“โอม… ปลุก ปลุกมหาปลุก… กูจะปลุกพ่อพญาเขาโง้งผู้ทรงกำลังฤทธิ์…”
ผ่านไปสักครู่เดียวเท่านั้น อากาศที่นิ่งสงบภายในห้องพิธีก็มีการเคลื่อนตัวของมวลอากาศสีดำคล้ายมีพลังงานบางอย่างก่อกำเนิดขึ้น มวลกลุ่มก้อนพลังงานดังกล่าวค่อยๆ หมุนวนอัดแน่นกลายเป็นกระแสลมพัดหมุนคว้างพุ่งตัวปะทะกับหน้าต่างเสียงดังครืนพุ่งทะยานออกไปด้านนอก
“อยากจะลองดีกับกูงั้นเรอะ ไล่มันออกไปลูกพ่อ”
คราวนี้ด้านบนหลังคาเหมือนมีวัตถุสองอย่างเข้าโหมโรมรันต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ต้นไม้น้อยใหญ่รอบๆ บ้านของพ่อหมอกิ่งก้านของมันขยับไหวลู่ไปตามแรงลม เกิดเสียงอื้ออึงอยู่สักห้านาทีบรรยากาศก็กลับมาสู่ปรกติอีกครั้ง
“เหอะ กูนึกว่าจะแน่”
พ่อหมอแสยะยิ้มแบฝ่ามือออก สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของชายหนุ่มคือรูปปั้นวัวธนูเขาโง้ง เขาหยิบรูปปั้นวางไว้บนพานดังเดิม
“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอคะพ่อหมอ น่ากลัวจัง”
สีหน้าของหญิงสาวยังอยู่ในอาการตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“ไม่มีอะไรมาก อาจารย์ทางนั้นเขารู้ตัวแล้วก็เลยมาลองวิชา”
ใบหน้าของพ่อหมอหนุ่มเจือด้วยรอยยิ้ม คล้ายกับว่าเขาไม่ได้เห็นเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสลักสำคัญแต่อย่างใด
“แล้วแบบนี้จะเป็นอะไรไหมคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ของที่มันส่งมาเผ่นหนีไปแล้ว” พ่อหมอหนุ่มหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบต่อ
“แต่ดูแล้วอาจารย์ทางฝั่งโน้นคงไม่เลิกลาง่ายๆ เอางี้นะ”
พ่อหมอเปิดหีบไม้เล็กๆ ออก ล้วงมือไปหยิบศิวลิงค์แกะสลักด้วยไม้ทาด้วยผงชาดสีแดง ตัวขนาดประมาณนิ้วชี้ออกมายื่นให้น้ำหวาน
“รับสิ่งนี้ไปพกติดตัวเอาไว้ตลอดอย่าให้ห่าง แล้วอีกสามวันกลับมาทำพิธีกับผมอีกครั้ง แต่คราวหน้าคุณต้องมาเพียงคนเดียว พิธีที่เราจะทำต้องใช้เวลาตลอดทั้งคืน ของที่ต้องเตรียมมาด้วยอยู่ในกระดาษแผ่นนี้ต้องเอามาให้ครบทุกอย่าง และทางที่ดีที่สุดคุณต้องพยายามค้นหาของที่ฝ่ายนั้นทำเอาไว้มาด้วย เพื่อที่ผมจะทำลายมันทิ้ง”
“ค่ะพ่อหมอ”
น้ำหวานรับศิวลิงค์และกระดาษมาถือไว้ในมือ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อสักครู่ตอกย้ำความคิดของเธอให้เชื่อและศรัทธาพ่อหมอหนุ่มมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า
“คืนนี้กลับไปก่อนระหว่างทางไม่ว่าจะเจออะไรห้ามจอดรถเด็ดขาด จนกว่าจะกลับถึงบ้านผมจะให้คนของผมช่วยไปส่งอีกแรง จำเอาไว้ให้ดีของจริงกำลังจะเริ่มต่อจากนี้ระวังตัวด้วย”
“แล้ววันนี้มีค่าใช้จ่ายไหมคะพ่อหมอ”
พ่อหมอหนุ่มส่ายหน้า
“ค่าใช้จ่ายน่ะมีแล้วราคาค่างวดของมันก็แพงด้วย แต่ไม่ใช่วันนี้”
“ค่ะ งั้นฉันกราบลาพ่อหมอเลยนะคะ”
น้ำหวานเงยหน้าขึ้นสบตากับพ่อหมอหนุ่ม แวบหนึ่งในห้วงความคิดของเธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจะกลับบ้าน เธออยากจะอยู่ต่ออีกให้นานสักหน่อยเพื่อได้เห็นใบหน้าของพ่อหมอให้นานกว่านี้ ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นแล้วค่อยๆ คลายตัวไปช้าๆ หญิงสาวกล่าวลาแล้วเดินลงบันไดมาพบกับลุงสันต์ที่นั่งรออยู่ด้วยความเป็นห่วง
“คุณน้ำหวานไม่เป็นอะไรนะครับ เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงดัง”
“ไม่เป็นอะไรลุงสันต์ เรากลับกันเถอะไว้ฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง”
“ครับคุณน้ำหวาน”
จากนั้นรถยนต์หรูก็แล่นฝ่าความมืดออกจากบ้านสวนไป น้ำหวานกำศิวลึงค์เอาไว้ในมือแน่นใบหน้าของพ่อหมอหนุ่มรวมไปถึงน้ำเสียงนุ่มกังวานของเขายังลอยวนเวียนอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา…