เสียงนั้นทำให้หญิงสาวที่เพิ่งย่างก้าวขึ้นมานั่งบนรถหรูชะงัก ชาลิสาซึ่งอยู่ในชุดราตรีสั้นเกาะอกสวมทับด้วยแจ็คเก็ตกดกระเป๋าสะพายของเธอลงบนตักแม้มันจะปกปิดต้นขาขาวผ่องที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นออกมาได้ไม่มากนักแต่ก็ทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกกระดากว่าตัวเองแต่งตัวล่อแหลมยามต้องมานั่งอยู่บนเบาะรถต่อหน้าบุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวซึ่งนั่งอยู่บนเบาะตรงกันข้าม เขาจ้องมองมายังเธอ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่ดูเยือกเย็นนั้นทำให้ชาลิสานิ่งไปราวถูกสะกด
“คุณคงเตรียมตัวที่จะไปร่วมงานหมั้นของอดาลีน น้องสาวของผมอย่างนั้นซีนะ”
น้ำเสียงที่เย็นเยียบไม่ต่างจากสีหน้าของเขาดังขึ้นกลบความเงียบ ชาลิสารู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ มันเป็นเรื่องผิดปกติแต่เธอก็ย่างก้าวเข้ามาในนี้แล้ว
“คุณคืออเล็กซานเดอร์ เคลย์ตัน...พี่ชายของอดาลีน...ใช่ไหมคะ?”
หญิงสาวเอ่ยถาม ท่าทีประหม่าของเธอจุดรอยยิ้มบนมุมปากหยักที่เหยียดออกน้อย ๆ
“ใช่...ผมคือพี่ชายของอดาลีน นักร้องชื่อดังที่คุณเป็นแดนเซอร์ให้กับเธอ ที่ผมให้คนของผมไปเชิญคุณมาเพราะมีอะไรอยากคุยกับคุณสักเล็กน้อย”
“เรื่องอะไรหรือคะ?”
ชาลิสาเอ่ยถามแต่อเล็กซานเดอร์ยังไม่ได้ให้คำตอบใด ๆ นอกจากเอื้อมมือไปหยิบไวน์ในถังน้ำแข็งแล้วรินใส่แก้วส่งให้เธอ หญิงสาวมองไวน์สีแดงก่ำในแก้วที่เขายื่นให้
“เอ้อ...อเล็กซานเดอร์คะ...คือฉัน...”
“ผมคิดว่าคุณคงมีมารยาทพอที่จะไม่ปฏิเสธน้ำใจของคนที่ตั้งใจจะชวนคุณดื่มไวน์หรอกนะ เพราะผมถือว่ามันเป็นการเสียมารยาทอย่างรุนแรง”
อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ ชาลิสามองหน้าเขาแล้วมองแก้วไวน์ ที่เขาให้เธอมาพบเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวตอบก่อนรับมันมาดื่ม แม้จะรู้สึกขัดใจมากแค่ไหนแต่เธอก็จำต้องรับไมตรีของเขาไว้เพื่อไม่เป็นการประวิงเวลา ขณะที่เธอยกแก้วขึ้นดื่ม ชาลิสาแทบไม่รู้ตัวเลยว่าทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาของอีกฝ่ายคลอดเวลา หญิงสาวจิบไวน์เพียงน้อยก่อนวางแก้วลงบนที่วางแก้วด้านข้าง
“ทีนี้คุณบอกฉันได้หรือยังคะว่าที่คุณให้ฉันมาที่นี่ คุณมีธุระอะไร”
อเล็กซานเดอร์เหยียดยิ้มน้อย ๆ แต่มันเป็นรอยยิ้มแปลก ๆ สำหรับชาลิสา ชายหนุ่มร่างสูงบึกบึนเจ้าของใบหน้าคมคายที่สะกดความรู้สึกของเธอซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนมาก่อนนั่งพิงเบาะและแยกขาทั้งสองออกจากกันเล็กน้อย เขาอยู่ในท่าสบาย ๆ แต่ดูจากท่าทีผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาสำหรับชาลิสา
เขานะหรือคืออเล็กซานเดอร์ เคลย์ตัน
พี่ชายคนเดียวของอดาลีนที่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชนเหมือนน้องสาว ชอบเก็บตัวและไม่ค่อยสุงสิงกับใครซึ่งเป็นกิตติศัพท์ที่เธอเคยได้ยินมานาน แต่อย่างหนึ่งที่ชาลิสาไม่เคยรับรู้คือเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากจนเธอเองยังตกตะลึง
หญิงสาวคาดคะเนอายุพี่ชายของอดาลีนน่าจะประมาณสามสิบห้าปี แต่เขาดูภูมิฐานเกินอายุ ด้วยโครงหน้าแบบชายอเมริกัน เรือนผมสีน้ำตาลเข้มขลับ นัยน์ตาสีอำพันประกายน้ำตาลแกมทองแดงแต่ดูดุดันและไม่แสดงความเป็นมิตร จมูกโด่งและริมฝีปากหยักหนาได้รูปขับความคมของใบหน้าคร้ามเข้ม อเล็กซานเดอร์เป็นผู้ชายที่สง่างามและความหล่อเหลาของเขามากกว่าผู้ชายทั่วไปที่เธอเคยพบ
“อย่างแรกผมอยากขอบคุณที่คุณสละเวลาเล็กน้อยมาพูดคุยกับผมที่นี่”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความเย็นชาอย่างที่หญิงสาวรู้สึกได้ เธอไม่ได้คิดไปเองว่าสายตาคมกริบของเขากำลังซุกซ่อนอะไรบางอย่างซึ่งเธอไม่อาจหยั่งถึง
“รู้ไหมว่าผมดีใจมากแค่ไหนที่อดาลีนมีวันนี้ วันที่เธอจะได้เลื่อนระดับความสัมพันธ์กับผู้ชายที่เธอรักไปอีกขั้น ในฐานะคู่หมั้นที่สังคมจะได้รับรู้”
ชาลิสากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สีหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย และความเปลี่ยนแปลงนั้นก็ไม่อาจปกปิดอีกฝ่ายที่จ้องมองเธออย่างค้นหา หญิงสาวพยายามกลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในส่วนลึกด้วยการประสานมือไว้ที่หน้าตักก่อนพูด
“ฉันก็...ดีใจกับเธอค่ะ”
“แน่ใจหรือชาล็อต...ว่าคุณดีใจกับน้องสาวของผม...อย่างจริงใจ”
คำถามนั้นทำให้ชาลิสาชะงัก เธอช้อนตามองเขาและเห็นประกายคมวับฉายออกมาจากดวงตาสีอำพันของคนที่นั่งตรงข้าม
“ฉันเป็นแดนเซอร์ของอดาลีน ฉันทำงานร่วมกับเธอมาเป็นปี เรารู้จักกันดีค่ะ แล้วทำไมฉันถึงจะไม่ยินดีถ้าเธอจะได้พบกับความสุขสมหวังกับคนที่เธอรัก”
“คุณไม่ควรเสแสร้งแสดงสิ่งที่มันตรงกับความรู้สึกที่แท้จริงของคุณนะ ชาล็อต”
อเล็กซานเดอร์ตอกกลับ สีหน้าและน้ำเสียงที่ดูเหมือนหมิ่นเหยียดของเขาทำให้ชาลิสาหายใจไม่ทั่วท้อง
“ขอโทษนะคะคุณเคลย์ตัน ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดออกมาค่ะ”
“ผมพูดเรื่องระหว่างน้องสาวของผม คนรักของเธอ...และคุณ ชาล็อต”
อเล็กซานเดอร์เปลี่ยนอิริยาบถ เขาเท้าข้อศอกบนเข่าทั้งสองและประสานมือกัน ท่าทางเหมือนเขาเอาจริงจนชาลิสาชักรู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ
“ปกติผมจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของน้องสาว ผมให้อิสระ อดาลีนในการตัดสินและจัดการทุกอย่างในชีวิตของเธอเสมอ และเรื่องนี้ก็เหมือนกัน ผมคงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวถ้าเกิดว่าคุณไม่ใช่มือที่สามที่ทำให้โคลินกับอดาลีนต้องแตกแยกกัน!”
“อะไรนะคะ! ฉันน่ะหรือคะ เป็นมือที่สามของอดาลีน”