แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านผ้าม่านสีครีมเข้ามาในห้องนอนของฉัน แต่มันไม่ได้ช่วยบรรเทาความสับสนในใจของฉันเลย ตั้งแต่วันที่ฉันบังเอิญได้ยินพี่ภูวินคุยโทรศัพท์ คำพูดบางประโยคของเขาก็ยังติดอยู่ในหัว ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามพูดอย่างระมัดระวัง แต่มันก็มีบางอย่างที่ฟังดูไม่ชอบมาพากล ซึ่งทำให้ฉันเริ่มรู้สึกสั่นคลอนในความเชื่อมั่นที่เคยมีต่อเขา ฉันตัดสินใจค้นหาเอกสารในออฟฟิศของพ่อ หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่ช่วยไขข้อสงสัยที่กวนใจฉันอยู่ ในแฟ้มเกี่ยวกับคู่แข่งทางธุรกิจของพ่อ ฉันพบเอกสารที่พูดถึงความขัดแย้งกับกลุ่มมาเฟียที่เป็นศัตรูมานาน รายละเอียดในนั้นกล่าวถึงการข่มขู่และการลอบทำร้ายที่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนทำ ฉันรู้สึกเหมือนมีน้ำหนักมากมายกดทับอยู่ที่หัวใจ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนตร์ระทึกขวัญ ที่ตัวเอกถูกดึงเข้าไปในความลับที่ซ่อนเร้น หัวใจฉันเริ่มเต้นแรงเมื่อพยายามปะติดปะต่อสิ่งที่ฉันได้รู้และได้ยิน คำพูดของพี่ภูวินเมื่อคืนยังดังก้องอยู่ในหัว คำว่า 'จัดการ' และ 'เครือข่าย' ทำให้ฉันเริ่มคิดไปไกล ทุกอย่างเริ่มชัดขึ้นในหัวของฉัน พี่ภูวินมีส่วนเกี่ยวข้องกับมาเฟียนี้หรือเปล่า? หรือที่แย่กว่านั้น... เขาอาจจะเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มที่เป็นศัตรูกับพ่อของฉัน! ฉันไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป ความรักที่ฉันเคยมีให้พี่ภูวินถูกทดสอบอย่างหนัก ฉันไม่แน่ใจว่าจะเผชิญหน้ากับเขายังไงดี แต่ในที่สุด ฉันก็ตัดสินใจไปหาพี่ภูวินที่ผับที่เขาทำงาน เพื่อถามความจริงจากเขาโดยตรง ขณะที่ฉันขับรถไปที่นั่น หัวใจของฉันเต้นแรง ความกลัวและความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาทุกวินาที มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในภาพที่มืดมิด และมีเพียงแสงสว่างจากใจของฉันที่ยังส่องให้เห็นถึงหวังที่จะค้นหาความจริง
.
@ผับ PW
เมื่อไปถึง เสียงเพลงในผับดังก้อง ผู้คนรอบตัวดูจะสนุกสนานกันตามปกติ แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเงียบสนิท เมื่อเสียงเพลงและเสียงหัวเราะของผู้คนรอบตัวกลายเป็นเพียงเสียงจาง ๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงหัวใจของฉันได้ ฉันเดินตรงไปที่ห้องทำงานของพี่ภูวินด้วยความมุ่งมั่น แต่ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้ฉันหยุดนิ่ง พี่ภูวินกำลังจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล
โลกของฉันพังทลายลงตรงนั้น หัวใจฉันเหมือนถูกบีบจนแทบขาด ฉันพยายามพูด แต่เสียงของฉันสั่น
"พี่ภูวิน..." เสียงนั้นแทบจะไม่ออกจากปากของฉันเลย น้ำตาเริ่มเอ่อเต็มตา ความเจ็บปวดและความผิดหวังถาโถมเข้ามาในใจของฉันอย่างรุนแรง ความรู้สึกเหมือนมีอุโมงค์มืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด และฉันคือคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ในนั้น พี่ภูวินหันมามองฉัน สีหน้าเขาดูตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกมากกว่านั้น ความเงียบเข้าครอบงำทุกอย่างในห้อง เราสองคนยืนอยู่ตรงข้ามกัน ฉันรู้สึกเหมือนมีผนังกั้นระหว่างเราที่ไม่มีทางทลายได้ มันเหมือนกับว่าเวลาได้หยุดนิ่ง และความรู้สึกที่แตกสลายของฉันยังคงดำเนินต่อไป
“มันไม่ใช่ที่เธอคิดนะริสา” เขาพูดเสียงแผ่ว
“ไม่ใช่ที่ฉันคิดเหรอ?” ฉันตอบกลับอย่างโกรธเคือง
“แล้วที่ฉันเห็นนี่มันคืออะไร? ฉันเห็นพี่กำลังจูบกับผู้หญิงคนนั้น!” น้ำเสียงของฉันแสดงถึงความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจ ฉันไม่สามารถเชื่อได้ว่าผู้ชายที่ฉันรักกลับทำให้หัวใจฉันแตกสลายได้ขนาดนี้
“มันไม่ใช่แบบนั้น” เขายืนยัน แต่เสียงของเขาฟังดูไม่แน่ใจ
“เธอต้องเชื่อฉัน”
“เชื่อได้ยังไง?” ฉันถามเสียงสั่น “ฉันไม่เห็นเหตุผลที่ฉันจะต้องเชื่อใครอีกต่อไปแล้ว” น้ำตาของฉันเริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ในใจของฉันมีแต่คำถามว่า ฉันทำผิดอะไรหรือ? ทำไมความรักที่เคยสวยงามต้องกลายเป็นสิ่งนี้
“พี่... พี่แค่... ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี” เขาเริ่มพูด แต่เสียงของเขาหายไป
“มันมีเหตุผลที่ทำให้พี่ต้องทำแบบนั้น” เขาพยายามอธิบาย แต่มันกลับทำให้ความรู้สึกของฉันยิ่งสับสน
“เหตุผลอะไร? นอกจากพี่จะต้องการทำร้ายความรู้สึกของฉัน!” น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ รู้สึกเหมือนทุกคำที่เขาพูดเป็นเพียงคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น ความรู้สึกโกรธและเสียใจทำให้ฉันไม่สามารถมองเขาได้อย่างปกติอีกต่อไป
พี่ภูวินทำท่าจะเข้ามาใกล้ แต่ฉันถอยหลัง
“อย่า! ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของพี่อีกแล้ว” ฉันต้องการห่างจากเขา และต้องการให้ใจตัวเองได้หยุดเจ็บสักพัก
“ริสา, ฉัน...” เขาพยายามพูด แต่ฉันขัดจังหวะ
“เธอพูดว่ารักฉัน แต่กลับไปทำแบบนี้ ฉันไม่อยากได้ยินความรักของเธออีกต่อไปแล้ว” เสียงของฉันดังขึ้นในห้องที่เต็มไปด้วยความเงียบ ความเจ็บปวดที่มาจากการถูกหักหลังทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกแทงเข้าที่หัวใจ
“ไม่... อย่าพูดแบบนี้!” พี่ภูวินตะคอกออกมา เสียงของเขาเริ่มเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ฉันรู้สึกเห็นใจเขาในบางแง่ แต่ความรู้สึกนั้นก็ถูกบดบังด้วยความเจ็บปวดที่เขาเป็นคนก่อขึ้น
“ฉันต้องการคำตอบ ไม่ใช่คำแก้ตัว!” ความรู้สึกของฉันท่วมท้นจนเกือบจะทำให้ฉันหายใจไม่ออก ในใจมีเพียงความต้องการที่จะรู้ความจริง ความเงียบเข้ามาแทนที่ เสียงหัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นทุกวินาที ฉันหันหลังและเดินออกจากห้อง ความเจ็บปวดและความผิดหวังถาโถมเข้ามาในใจของฉันอย่างรุนแรง น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ราวกับมันเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดแน่นอยู่ในใจมานาน
ฉันไม่สามารถทนอยู่ที่นั่นได้อีกต่อไป หัวใจของฉันแตกสลายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้ ฉันหันหลังออกจากห้องโดยไม่พูดอะไรอีก ทุกข้อสงสัยที่ฉันเคยมีได้กลายเป็นคำตอบที่ไม่ต้องการ และความเจ็บปวดนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจ ไม่สามารถทำให้มันหายไปได้ง่าย ๆ
เมื่อฉันขับรถกลับบ้าน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนช้าลง ราวกับทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นเพียงภาพเบลอ ๆ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำใจได้เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ ฉันแค่ต้องการให้ทุกอย่างหยุด และให้ความเจ็บปวดนี้หายไป เวลาผ่านไป แต่ความรู้สึกที่เจ็บปวดยังคงอยู่ในใจ ริสายังจำได้ดีถึงวันที่พี่ภูวินทำให้เธอเชื่อมั่นในความรักของเขา แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน รักที่เคยมีอยู่กลับถูกทำลายลงโดยความลับที่น่าสะพรึงกลัว และเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญกับความจริงที่แสนเจ็บปวดนี้