"ยัยริสา เมื่อวานแกไปไหนมาทั้งวัน หายหัวไปเลยทั้งคืน แกรู้มั้ยว่า ป๊าต้องถามคำถามเพื่อนป๊าว่า อะไร" ทันทีที่ฉันเข้ามาในบ้านป๊าก็ยืนเป็นยักษ์แยกเขี้ยวอยู่หน้าบ้านเลย ฉันล่ะเบื่อจริงๆ ดีไม่ดีป๊าต้องเห็นที่ภูวินมาส่งด้วยแน่ๆ
"หนูก็ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างสิ วันๆ จะให้แต่ไปนั่งถูกจับคลุมถุงชนอยู่หรือไงล่ะป๊า" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชดออกไป จริงๆ ฉันกับป๊าก็ไม่ได้ไม่ชอบกันหรอก แต่ก็ชอบกัดกันแบบนี้ตลอดแหละ โดยเฉพาะเวลาที่ป๊าชอบให้ฉันไปนัดเดทกับคนนู้นคนนั้น
"ยัยริสา! แล้วใครมาส่งแก"
"เพื่อน"
"เพื่อนคนไหน"
"คนนั้นแหละ" ฉันพูดตอบแบบกวนประสาทออกไป เพราะว่าฉันรู้อยู่แล้วว่า ถ้าพูดความจริงไป ยังไงป๊าก็บ่นหูชาแน่ๆ ฉันรีบส่ายหัวเดินขึ้นห้องทันที น่าเบื่อจริงๆ แต่ยังไม่ทันไร โทรศัพท์ของฉันก็แจ้งเตือนขึ้น
.
@ภูวิน
ภูวิน : เข้าบ้านยังไม่เห็นทักมาบอกเลย
ริสา : นายก็เป็นคนมาส่งฉันที่บ้าน จะมาทักบงทักบอกอะไรล่ะ
ภูวิน : ทำไมไม่คิดถึงกันเลยหรือไง?
.
หึ! ไอ้ตาบ้านี้ พูดแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนที่รู้จักกันแค่คืนเดียวหรือไง แต่ถึงฉันจะพูดแบบนั้น แต่ก็อดหุบยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ ไอ้อาการแค่หลับตาก็เห็นหน้า นี่มันคืออะไรกันนะ ฉันนอนหลับพริ้มอย่างสบายใจ ไม่ได้อยู่กับใครแล้วสบายใจแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ ชีวิตของฉันที่ผ่านมาเจอแต่คนอยากเอาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะในรูปแบบเพื่อนหรือคนรัก หลังจากเหตุการณ์ตอนนั้นฉันก็ไม่คิดจะเปิดใจให้ใครอีกเลย แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะต้องถูกป๊าจับไปเจอคนนั้น คนนี้อีก แล้วความรู้สึกของคนที่เรารักเขาแล้วเขาก็รักตอบแบบใจจริง มันเป็นยังไงกันนะ "โอ๊ยยยย! ขนลุก ทำไมฉันต้องถึงหน้าไอ้ตาบ้านั้นด้วยเนี่ย"
ภูวิน : ตกลงยังไง ไม่คิดถึงกันเลยหรือไง
ริสา : ไม่คิดถึงย้ะ
ภูวิน : ใช่สิ๊ ฉันมันตกรอบแล้วนิ ใครกันที่อยู่กับเธอตอนเธอเศร้าอ่ะ ไม่นึกถึงกันแล้วมั้ง
ริสา : จะงอแงเพื่อ?
ภูวิน : ใช่สิ๊ ฉันมันเป็นผู้ชายขี้งอแง
ฉันยอมรับว่า เขาเป็นผู้ชายที่ทำให้ฉันยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึงจริงๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทั้งที่เราพึ่งเจอกันได้ไม่นาน หรือเป็นเพราะว่า เขาเป็นคารมดีกันแน่นะ ถึงทำให้ฉัน....รู้สึกว่า คุยแล้วไม่เบื่อเอาซะเลย แต่ยังไงก็เถอะ ฉันก็ยังรู้สึกว่า ในใจลึกๆ ของฉันยังมีกำแพงอยู่ดี มันก็มีแอบคิดว่า ถ้าเขาไม่ได้ดีล่ะ แล้วถ้าวันนึงเขาทิ้งฉันไว้คนเดียวเหมือนคนก่อนๆ ที่ผ่านมาล่ะ ฉันจะเสียใจมากมั้ย
ภูวิน : เงียบเลย ลืมไปแล้วมั้งว่า เธอต้องมาขอแต่งงานนะ เธอปฏิบัติต่อว่าที่เจ้าบ่าวแบบนี้หรอเนี่ย (กะซิกๆๆ นึกแล้วก็เศร้า นอกจากจะเสียตัวแล้ว ยังต้องมาเสียใจอีก)
ริสา : จิ๊ ไอ้บ้า! แล้วนายถึงบ้านหรือยัง
.
.
.
ผมนั่งอยู่ที่ห้องทำงานของผับตัวเอง ยัยนี่ปากแข็งเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ผมไม่รู้ว่า ที่ผ่านมาเธอต้องเจอกับอะไรมาบ้าง แต่รู้แค่เธอเป็นคนที่กลัวการได้รู้จักใครสักคนสุดๆ เป็นคนที่เข้าถึงยากมากๆ แต่ผมกลับสามารถเข้าถึงได้ถึงทุกความรู้สึกของเธอ ทำเป็นแข็งแกร่งแต่ข้างในเต็มไปด้วยความอ่อนแอ ความกลัว ความสับสนวุ่นวาย
"มึงยิ้มไรวะไอ้ภูวิน" ผมรีบหุบยิ้มทันทีก่อนจะหันไปมองที่หน้าประตู ไอ้เหี้ยนี่อีกแล้วหรอวะ ผมถอนหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะปิดลงทันที ไอ้นี่มันจะตามผมไปถึงไหน แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะว่า มันน่าจะเอางานมาส่ง
"ได้ข่าวว่า เจ้าของผับ PW ไม่สนใจงานสนใจการแล้วมั้ง ไม่รู้หายไปไหนมาทั้งวันเลย ไปไหนมาวะ หลังจากหายไปก็มานั่งยิ้มกับโทรศัพท์ อย่าบอกนะครับว่า โค้ชลงจะสนามเองซะแล้ว" ไอ้นิวเลิกคิ้วใส่ผมราวกับว่า กำลังสัมภาษณ์ผมอยู่ยังไงก็ไม่รู้ จนผมเอียงคอ
มองหน้ามันนิ่งๆ แค่นี้ก็พอจะทำให้มันรู้ตัวว่า เลิกมาถามจี้ผมได้แล้ว
"เออๆ อะไรวะ ถามแค่นี้ก็ได้วะ" มันพูดตัดจบด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ก่อนจะยื่นแฟ้มงานส่งมาให้ผม แล้วก็เดินออกไป แต่ยังไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเรียกรั้งมันไว้
"ไอ้นิว"
"อะไร หรือว่ามีอะไรดีๆ อยากเล่าหรอ" ผมเบื่อความขี้เสือกของมันจริงๆ เลย ผมส่ายหน้ารัวๆ ก่อนที่จะโบกมือไล่มันออกไป ดูจากทรงมันไม่น่าช่วยอะไรได้ ถามไอ้เดลเอาน่าจะดีกว่า
"โอ๊ยยย! ไรวะ! เรียกกูทิ้งเรียกกูขว้าง ไอ้สัสภู" ผมไม่สนใจที่มันพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นอีกครั้ง โอ้โห้ยัยนี่ส่งอะไรมาเต็มเลยเนี่ย ผมไม่สนใจไอ้นิวที่มันยื่นโหวกแหวกโวยวายอยู่หน้าประตู
"ไปเหอะไอ้นิวไปเหอะ"
"เออ ไปอยู่แล้วเว้ย!"
@ ริสา
ริสา : เอ้า หายไปเลย ตกลงถึงบ้านหรือยัง
ภูวิน : (อ่าน)
ริสา : นายเป็นอะไรหรือป่าวเนี่ย ทำไมเงียบแปลกๆ
ภูวิน : (อ่าน)
ริสา : นายทำฉันกังวลแล้วนะเนี่ย!
ครืนนนนนน ครืนนนนนนนนนน
"นายจะโทรมาทำไมเนี่ย" ผมเลยตัดสินใจโทรไปเพราะ คิดว่า ยัยนี่คงเป็นห่วงผมมากน่าดู
"ก็เห็นเธอพิมพ์ข้อความส่งมาซะเยอะเลย ก็จะให้ดูนี่ไงว่า ถึงแล้ว นี่ไงห้องทำงานฉัน นี่โต๊ะฉัน เอกสารเต็มไปหมด และสุดท้ายคือ ฉัน เจ้าของห้องนี้ สรุปคือ ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว"
"นายยังพูดมากได้เหมือนเดิมอะเนอะ"
"ก็ดีออก เธอจะได้เหมือนมียูทูปติดตัวตลอดเวลา ไม่เหงาไง" เธอส่ายหัวไปมาราวกับว่า รำคาญ! เธอตั้งกล้องไว้ก่อนจะเดินไปไหนก็ไม่รู้ ห้องยัยนี่เด็กน้อยจริงๆ เลย มีแต่ตุ๊กตาเต็มไปหมด
"เอ้า นายยังไม่วางไปอีกหรอ"
"วางอะไรล่ะ ก็เธอเดินไปไหนไม่รู้" ผมพูดเสร็จก็ก้มหน้าเซ็นต์เอกสารต่อ
"ตอนนายทำงานเนี่ย ดูเป็นผู้ใหญ่มากเลย แต่เวลาไม่ได้ทำอะไร ดูเหมือนเด็กน้อยชะมัด" ผมหวั่นไหล่อย่างมั่นใจ มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว นี่ใครภูวินนะครับ
"ฉันจะไปแล้ว นายทำงานเถอะ"
"ไปไหนล่ะ ไม่อยู่ด้วยกันก่อนหรอ" ผมพูดเสียงอ้อนออกไป
"อยู่ด้วยกันอะไรล่ะ วันนี้นายก็อยู่กับฉันทั้งวันนะ เผื่อลืม"
"ก็อยากอยู่ด้วยกันอีก ฉันมันคนไร้เพื่อน เพื่อนน้อย อยู่ทำงานเป็นเพื่อนก่อน"
"แต่ฉันจะนอนแล้ว"
"นั้นเธอก็นอนดูฉันทำงานไปสิ ส่วนฉันก็จะทำงานดูเธอนอน แบบนี้ดีออก" เธอเบิกกว้างก่อนที่จะหลุบตาไปทางอื่น แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่ก็ตั้งกล้องไว้แล้วก็ค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอน
"ฝันดีนะครับ"
"ทำงานไปเลยไป.....ฝันดี!"