~ Intro ~

970 Words
~ Intro ~ 18 ปีที่แล้ว… “แม่…” เด็กเล็กในวัยสองขวบเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่ แต่เธอก็ไม่ได้รับคำตอบกลับ เพราะนั่นเป็นเพียงแค่กรอบรูปที่มีรูปของแม่เธออยู่ “พ่อ…” เพราะอย่างนั้นแล้วเธอถึงหันไปเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ ซึ่งเธอก็ไม่ได้รับคำตอบกลับเช่นเดียวกัน เพราะว่ามันเป็นเพียงรูปของพ่อเธอที่อยู่บนกรอบรูปเช่นเดียวกัน ภาพของเด็กเล็กที่ยืนมองดูรูปผู้ให้กำเนิดของตนอยู่นั้นมันน่าเวทนายิ่งนัก เพราะกรอบรูปนี้มันถูกตั้งไว้หน้าโลงศพในงานฌาปนกิจศพที่วัดแห่งหนึ่ง แขกในงานต่างพากับเวทนาให้กับวาสนาของเธอ ขณะเดียวกันที่ปลายฝนไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่า...ความตาย “จะเอาไงดีล่ะ ได้ยินข่าวว่าคู่กรณีจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” “ทำไงได้ล่ะ ดันไปขับรถชนคนรวยแบบนั้น พ่อแม่ของเด็กนี่น่าจะถูกฟ้องจนไม่เหลืออะไรเลย” หญิงวัยกลางคนเอ่ยพูดกับเพื่อนของเธอ ซึ่งเธอนั้นมีศักดิ์เป็นป้าของเด็กเล็กคนนี้ “แล้วปลายฝนล่ะจะเอายังไง พ่อแม่ตายพร้อมกันแบบนี้” “จะเอาไงล่ะ ฉันไม่เลี้ยงหรอกนะแค่ลูกฉันก็เลี้ยงไม่ไหวละ” “แหม่ ก็เลี้ยง ๆ ไป มันโตมายังไงก็ขายได้ เป็นผู้หญิงนี่ เลี้ยงเอาสินสอดก็ได้น่า” พอได้ยินอย่างนั้นแล้ว เอมอรก็ครุ่นคิดทันที เธอมองไปยังร่างเด็กเล็กที่ในมือถือตุ๊กตาบาร์บี้อยู่ ปลายฝนเธอยังไม่เข้าใจความตายก็เลยไม่ได้ส่งเสียงร้องไห้ออกมา และก่อนหน้านี้เอมอรเพิ่งบอกไปว่าพ่อแม่ของเธอนั้นไปสวรรค์ ซึ่งเธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ตอนนี้สัญชาตญาณของปลายฝนมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอได้ขาดอะไรไป... 18 ปีต่อมา… @ร้านอาหารไทย “โต๊ะหนึ่งเอ เพราไก่ไข่ดาวไม่สุก แกงเลียง” “โอเค” “โต๊ะหนึ่งบี เพราหมูไม่ถั่ว ต้มยำ” เสียงหวานใสตะโกนเข้ามาภายในห้องครัวของร้านอาหารไทยชื่อดังร้านหนึ่ง เจ้าของเสียงหวานใสนี้เธอยกฝ่ามือขึ้นจับปอยผมของตนขึ้นทัดใบหูเล็ก ก่อนที่เธอจะเดินไปที่ตำแหน่งคนล้างจานดังเดิม “ลูกค้าเยอะมาก เสิร์ฟแทบไม่ทันแหนะ” เสียงเด็กเสิร์ฟหน้าร้านบ่นขึ้นมา ในขณะที่กำลังยืนออกันเพื่อจัดอาหารไปเสิร์ฟ “นี่ ปลายฝนมาช่วยเสิร์ฟก่อนได้มะ” เสียงของเพื่อนร่วมงานชายแต่ใจเป็นสาวของปลายฝนเอ่ยเรียกเธออีกครั้ง ซึ่งเจ้าของใบหน้าสวยหวานก็ไม่ได้อิดออดที่จะไปช่วย แม้ว่างานของเธอจะล้นมือมากแล้วก็ตาม อีกทั้งเมื่อสักครู่เธอก็เพิ่งไปช่วยรับออเดอร์แทนเด็กหน้าร้านมา “โต๊ะไหนเหรอ” ปลายฝนเช็ดมือที่ชุ่มไปด้วยน้ำกับผ้ากันเปื้อน ก่อนที่เธอจะยื่นฝ่ามือไปรับถาดอาหารมาถือไว้ “C1” หญิงสาวเพียงแค่พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปหน้าร้าน เคยมีคนพูดไว้ว่าไม่เลือกงานไม่ยากจน หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนนี้ถึงยอมทำงานเป็นเด็กในครัวมากกว่าจะเป็นเด็กหน้าร้าน เพราะว่าไม่ค่อยมีคนอยากทำงานในครัว ทำให้ตำแหน่งคนล้างจานนั้นมีโอทีมากที่สุด และแน่นอนมันได้เงินมากที่สุดด้วย สำหรับหญิงสาวที่ต้องการเงินอย่างเธอ มีหรือเธอจะปฏิเสธ ตึก ตึก~ ร่างอรชรเดินอย่างทะมัดทะแมง ทุกท่วงท่าขอบเธอตกเป็นเป้าสายตาของลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน ด้วยหน้าตาของเธอที่โดดเด่นเกินกว่าจะเชื่อว่าเธอนั้นเป็นเด็กเสิร์ฟอาหาร แต่ว่าในมือของเธอที่มีถาดอาหารอยู่มันยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเธอเป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟ ผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอที่ถูกรวบเป็นหางม้ามันแกว่งไปมาตามจังหวะการเดิน และทุกอย่างมันก็ตกอยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดขวบหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง “สวยสัส...” เขาเอ่ยพูดขึ้นเมื่อปลายฝนเดินผ่านโต๊ะอาหารของเขาไป วาโยเอ่ยพูดเบา ๆ บอกเพื่อนของเขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ว่าไม่ใช่คนเดียว “พี่คนนั้นเหรอโย” เด็กสาวหน้าตาน่ารักเอ่ยพูดขึ้น โดยที่ข้างกายของเธอมีแฟนหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งแนบชิดเคียงกายอยู่ข้าง ๆ “ใช่ สวยกว่ามึงอีกพาย” “หึ พายสวยกว่า” น้ำเหนือเอ่ยพูดขึ้น และน้ำเสียงนิ่ง ๆ ของเขาก็ทำให้เด็กสาวข้างกายเขินม้วนจนเป็นเลขแปด “ไปไหนก็ไป ทั้งคู่ น่ารำคาญชิบหาย” วาโยพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญเต็มทน การมีเพื่อนแล้วเพื่อนคบกันเองนี่มันทำให้เขารู้สึกรำคาญในความหวานของทั้งคู่ที่มีให้เห็นทุกวัน “โสดแล้วพาลนะมึง” น้ำเหนือหัวเราะในลำคอเบา ๆ ซึ่งมันทำให้วาโยมองเขาตาขวางทันที ก่อนที่วาโยจะหันหน้ากลับไปมองหญิงสาวคนเดิม แต่กลับไม่เห็นเสียแล้ว “มึง เรียกพนักงานเสิร์ฟดิ กูอยากเห็นหน้าพี่เขาอีก” “ขนาดนั้นเลย” “ขนาดนี้เลยล่ะ” “โย…จริงจังเหรอ” พระพายหันหน้ากลับมาถามเพื่อนของเธออีกครั้ง เพราะว่าเพื่อนของเธอคนนี้ขี้เล่นจนไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม ก่อนที่วาโยจะยักคิ้วกลับไปให้เป็นการให้คำตอบ “จริงจังมาก อยากขอแต่งงานมันวันนี้เลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD