ท่านปู่ต้องเกลียดชังตนเองเพียงใดจึงเร่งคิดหาภรรยาให้เขาตั้งแต่เขาอายุยังน้อย เด็กชายเบะปากร้องไห้ไร้เสียงด้วยความสะเทือนใจ แอบคิดในใจว่าจากนี้เขาจะดูแลท่านปู่ให้ดี ไม่แน่ว่าเมื่อเขาโตขึ้นท่านปู่อาจจะหายโกรธและไม่หาภรรยาใจร้ายมาให้เขาก็ได้ คิดก็ส่วนคิด แต่การกระทำของเด็กชายก็สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับหลี่หยุนไม่น้อย
"อะไรเจ้าส่ายหน้าโบกไม้โบกมือเช่นนี้ หมายความว่าอะไร ไม่อยากได้เมียรึ? หรืออยากได้หลายๆ คน? ไม่ได้นา..เจ้าต้องเชื่อฟังปู่ แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่พูดกับปู่อีกเล่า เจ้าก็พูดได้คล่องปรื๋อมิใช่หรือ"
เด็กชายยังคงสั่นหัวดิกไม่คลาย เขาไม่กล้าพูดหรือตอบคำถามท่านปู่ด้วยเกรงว่าคำตอบจะไม่เข้าหูชายชรา สุดท้ายก็รีบมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มที่บัดนี้ท่านปู่ยกให้เขาใช้แต่เพียงผู้เดียวหลบหน้าหลี่หยุนไปเสียเช่นนั้น
..........
หลายวันต่อมาหลังจากที่หลี่หยุนกลับมาจากการไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่ลำธาร เขาเห็นข้าวของภายในกระท่อมที่มีอยู่ไม่กี่อย่างถูกรื้อค้นเปลี่ยนที่ไปจากตำแหน่งเดิมและไม่พบร่างของหลี่หลงหยางที่ตนเองสั่งให้นอนรออยู่ในกระท่อม กลับเป็นหลี่เนี่ยหรานบุตรสาวคนรองมานั่งกัดกินผลไม้ป่าอยู่ด้านหน้ากระท่อมแทน
"เนี่ยหราน เสี่ยวหลงหายไปไหนเจ้ารู้หรือไม่"
"จะไปรู้ได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ เขามีขาทั้งยังไม่ยอมพูด จะไปทางไหนใครจะไปรู้ได้" หลี่เนี่ยหรานหลบสายตาผู้เป็นบิดาอย่างมีพิรุธ
"จะไม่รู้ได้อย่างไร ผลไม้ที่เจ้ากำลังกินนั่นก็เป็นของเสี่ยวหลงที่ข้าให้เขาไว้ นี่เจ้าคงจะแย่งของหลานมากินอีกล่ะสิ เขาไปทางไหนบอกข้ามาเดี๋ยวนี้!!" หลี่หยุนตวาดเสียงดังด้วยความเป็นห่วงเด็กน้อย
"ท่านพ่อจะหวงอะไรนักหนา ข้าเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของท่านนะเจ้าคะ เจ้าเด็กเลวนั่นมันเป็นตัวหายนะท่านจะเก็บของดีๆ ไว้ให้มันกินเพื่ออะไร เวลานี้มันกินอิ่มหลับสบายจนออกไปเที่ยวเล่นในป่าทางนู้นแล้ว ท่านก็ไปตามหาหลานรักของท่านเอาเองเถิด" หลี่เนี่ยหรานคายเม็ดของผลไม้ป่าลงพื้นอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะออกเดินหนีไปยังกระท่อมตนเอง
หลี่หยุนใจหายวาบไปชั่วขณะ ทิศทางที่หลี่เนี่ยหรานชี้ไปในป่าทางนั้นเป็นจุดที่เหล่าบุรุษขุดหลุมดักสัตว์เอาไว้หลายแห่ง เพราะมีคนได้พบหมูป่าคอกหนึ่งออกมาหากินบริเวณนั้น หากหลานชายวิ่งเล่นไปทั่วแล้วไปเจอกับหมูป่าเข้าจะเกิดอันตรายได้ เขาจึงรีบตามออกไปค้นหาหลานชายทันที
อีกด้านหนึ่งภายในป่า หลี่หลงหยางนอนร้องไห้ไร้เสียงอยู่ก้นหลุมดักสัตว์อย่างเงียบงัน เขานอนเล่นรอท่านปู่อยู่ในกระท่อมในตอนเช้า อยู่ดีๆ ท่านอาเนี่ยหรานก็เข้ามารื้อค้นหาอาหารที่ท่านปู่เก็บซ่อนเอาไว้ให้เขากินออกมา เผอิญว่าหลี่เนี่ยหรานได้พบกับตุ๊กตาไม้ที่ท่านน้าลู่ซือมอบให้เขาเป็นของเล่นเข้า
ท่านน้าลู่ซือเป็นบุรุษวัยกลางคนคนหนึ่งที่ดีกับหลี่หลงหยางในขณะที่อยู่ในค่ายกักกัน อยู่ภายในค่ายทุกคนไม่สามารถพกพาอาวุธติดกายไว้ได้ ท่านน้าลู่ซือจึงใช้ก้อนหินแหลมคม ค่อยๆ ขูดไปบนท่อนไม้เล็กเพื่อทำตุ๊กตาให้ตนอย่างยากลำบาก แม้ว่าตุ๊กตาไม้จะน่าเกลียดจนมองไม่เห็นว่าเป็นตุ๊กตา แต่สำหรับหลี่หลงหยางนี่คือของเล่นชิ้นแรกในชีวิต เขาจึงหวงแหนมันมาก
หลี่เนี่ยหรานแสดงท่าทางรังเกียจท่อนไม้เก่าที่มีร่องรอยแกะสลักอย่างหยาบๆ และมีรอยแตกร้าวจนขว้างมันออกไปนอกเรือน เด็กชายที่มีของรักของหวงเพียงชิ้นเดียวรีบวิ่งตามไปเก็บมันกลับมา จึงถูกหลี่เนี่ยหรานแย่งชิงเอามันไปอีกครั้ง
เมื่อเห็นเด็กเลวหวงท่อนไม้ผุพังท่อนนี้มาก หลี่เนี่ยหรานก็ยิ่งอยากจะกลั่นแกล้ง นางเดินไปทางหลุมดักสัตว์ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าแล้วขว้างท่อนไม้เล็กชิ้นนั้นลงไปในหลุมก่อนจะเดินกลับมานั่งกัดกินผลไม้ป่าอย่างสบายอารมณ์อยู่หน้ากระท่อมของบิดา
หลี่หลงหยางพยายามหากิ่งไม้ยาวมาเขี่ยตุ๊กตาไม้ของเขากลับขึ้นมา แต่ท่อนไม้แม้จะมีขนาดเล็กแต่กิ่งไม้ก็ไม่สามารถทานน้ำหนักของมันได้ เด็กชายร้อนใจจนตัดสินใจหย่อนตัวลงหลุมหมายจะใช้เท้าที่เล็กสั้นของตนคีบตุ๊กตาไม้คู่ใจขึ้นมาให้ได้ หลุมดักสัตว์มีความลึกเกินกว่าความสูงของเด็กน้อย ไม่ว่าจะพยายามเท่าใดหลี่หลงหยางก็ยืดเท้าลงไปไม่ถึงก้นหลุม เด็กน้อยใช้สองมือเกาะปากหลุมอยู่นานจนทนไม่ไหวพลัดตกลงไปในหลุม เขารีบไปคว้าตุ๊กตาไม้มากอดเอาไว้แต่หาทางขึ้นไปด้านบนไม่ได้ จึงได้แต่นอนร้องไห้อยู่เงียบๆ เพียงคนเดียว
"หลงเอ๋อร์ อยู่ไหนส่งเสียงบอกปู่ที" หลี่หยุนตะโกนก้องดังไปทั่วป่า
เด็กชายตัวน้อยได้ยินเสียงเรียกของหลี่หยุน โดยพลันร่างทั้งร่างของหลี่หลงหยางก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขากลัวเหลือเกินว่าท่านปู่จะโกรธและบันดาลโทสะทุบตีเขาอีก ท่านปู่สั่งให้เขานอนรออยู่ในกระท่อมไม่ให้ออกมาข้างนอก แต่เวลานี้ตนเองขัดคำสั่งของท่านปู่ทั้งยังตกลงมาในหลุมดักสัตว์ไม่สามารถปีนกลับขึ้นไปด้วยตนเอง
เด็กชายพาลคิดไปถึงเมื่อครั้งที่ตนเองจมน้ำแล้วท่านปู่มาช่วยเอาไว้จนเกือบจะเสียชีวิตไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้หากท่านปู่ลงมาช่วยเขาในหลุมดักสัตว์แล้วกลับขึ้นไปไม่ได้เล่า? หลี่หลงหยางสะกดกลั้นความหวาดกลัวภายในใจไม่ยอมเปล่งเสียงขานรับคำเรียกขานของหลี่หยุน ด้วยกลัวว่าท่านปู่จะต้องมาตายเพราะช่วยเหลือตน
หลี่หยุนเดินสำรวจทั่วบริเวณลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เห็นรองเท้าฟางคู่เล็กที่หลี่หลงหยางถอดเอาไว้ปากหลุม หัวใจของชายชราแทบจะหยุดเต้นเมื่อคิดว่าเด็กอาจจะพลัดตกลงไปแล้วได้รับบาดเจ็บ หรือหากว่ามีสัตว์ป่าอยู่ก้นหลุมแล้วบรรพบุรุษน้อยตกลงไปในนั้นเวลานี้เขาจะเป็นอย่างไรไปแล้ว
ชายชราพุ่งสุดตัวไปที่หลุมดักสัตว์แห่งนั้น มองไปด้านล่างเห็นเด็กน้อยนอนเอาสองมือปิดหน้าปิดปากตัวเองเอาไว้แน่นแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เห็นว่าเขาไม่มีบาดแผล
"หลงเอ๋อร์ ได้ยินปู่เรียกแล้วเหตุใดจึงไม่ตอบ" หลี่หยุนนึกโมโหขึ้นมาเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าบรรพบุรุษน้อยคิดสิ่งใดอยู่ในใจจึงไม่ยอมเปล่งเสียงออกมา
หลี่หลงหยางค่อยๆ ลดสองมือที่ปิดหน้าเอาไว้ลงมา เผยให้เห็นดวงตากลมโตลูกตาดำสนิทที่มองขึ้นมาปากหลุมด้วยแววตาหวาดหวั่นแต่ยังคงปิดปากเอาไว้แน่นดังเดิม
หลี่หยุนจัดเรียงภาพเหตุการณ์ชีวิตของหลี่หลงหยางตามที่ได้พบเห็นในภาพฉาย เขาสังเกตได้ว่าบรรพชนน้อยผู้นี้ตั้งแต่เล็กจนแก่ชรา ก็เปล่งเสียงพูดออกมาน้อยครั้งมาก ส่วนใหญ่เขาจะใช้เวลาในการนั่งคิดใคร่ครวญเรื่องต่าง ๆ เพียงคนเดียวแล้วก็ยกมือขึ้นปิดปากเหมือนกับตอนนี้ไม่มีผิด การที่เขาไม่พูดทำให้ไม่มีโอกาสสั่งสอนภรรยาและบุตรจนส่งผลเสียมากกว่าดี เห็นเช่นนี้หลี่หยุนจึงคิดจะแก้ไขปัญหาเรื่องการพูดของบรรพชนน้อยก่อนเป็นอันดับแรก
"หลงเอ๋อร์จะเชื่อฟังปู่หรือไม่" ชายชราถาม
เด็กน้อยรีบพยักหน้าอย่างเร็วรี่ แต่เมื่อคิดได้ว่าตนเพิ่งจะขัดคำสั่งของท่านปู่มาหยกๆ ก็ต้องเบะปากร้องไห้ไร้เสียงออกมาอีกครั้ง
"ไม่ต้องร้อง ปู่จะไม่มีวันทำร้ายเจ้าอีกต่อไป แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจากนี้มีอะไรก็ให้พูดกับปู่ ปู่จะได้รู้ว่าเจ้าคิดสิ่งใดอยู่ ทำได้หรือไม่"
หลี่หลงหยางเม้มปากกัดฟันแน่นอย่างลังเลใจ สายตาก็กลอกกลิ้งไปมาคล้ายกำลังต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างที่มันสำคัญเป็นอย่างมาก สุดท้ายเมื่อคิดว่าตนเองตั้งใจเอาไว้ว่าจะเชื่อฟังท่านปู่จึงจำต้องพยักหน้าตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ เขายังไม่มั่นใจว่าท่านปู่เวลานีมีสติดีอยู่หรือไม่ จะจำคำพูดที่ตนสัญญากับเขาได้หรือเปล่า
"พูดออกมา ปู่ถามเจ้าว่าจากนี้จะเชื่อฟังปู่หรือไม่" หลี่หยุนพยายามใช้น้ำเสียงให้อ่อนโยนที่สุดเพื่อไม่ให้เด็กน้อยรู้สึกว่ากำลังถูกบีบบังคับ
"ข้าทำได้ขอรับ ข้าจะเชื่อฟังท่านปู่ ท่านปู่อย่าตีข้าเลยนะข้ากลัวแล้ว และท่านปู่ก็อย่าหาภรรยาให้ข้าได้หรือไม่ข้าไม่อยากได้ภรรยา" เด็กน้อยคล้ายว่าอัดอั้นตันใจมานานแสนนาน กล่าวคำออกมาทีเดียวยาวเป็นหางว่าว
หลี่หยุนถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ที่หลานชายกล่าวว่าไม่อยากถูกตีนั้นเขาก็พอเข้าใจได้เพราะหลี่หยุนคนเก่าก็ลงไม้ลงมือกับเด็กชายเป็นประจำจนเด็กหวาดกลัวเข้าไปในจิตใจเบื้องลึก แต่ไอ้ที่ว่าอย่าเพิ่งหาภรรยาให้นี่หมายความว่าอย่างไรกัน? ชายชราลืมไปแล้วจริงๆ ว่าตนเคยพูดเรื่องนี้กับหลี่จิ้งต่อหน้าหลี่หลงหยาง ทั้งยังสั่งให้เขาจำให้ดีด้วยว่าตนจะเป็นผู้หาภรรยาให้