สามปีต่อมา.
หน้าประตูทางเข้าของโรงแรม คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยรถรถยนต์หรูหราหลายคัน และนักข่าวหลายสำนักงานรวมตัวพร้อมเพียงกันสำหรับการทำข่าว ซึ่งราตรีนี้ยังคงอีกยาวไกลเป็นแน่
บริษัท พรสิริพิทักษชัยพัฒนา จำกัด มหาชน เป็นเจ้างานในการจัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ และได้เชิญนักธุรกิจยักษ์ใหญ่ของกรุงเทพมาร่วมงานนี้ด้วย เมื่อนักข่าวได้รับทราบเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่รีรอที่จะมาทำข่าว ณ ที่แห่งนี้
เวลา 20.00 น. มายบัค รถสปอร์ตสุดหรูก็มาจอดถึงหน้าโรงแรม
"คุณฤทธิ์ คุณฤทธิ์เจ้าของบริษัท พรสิริพิทักษชัยพัฒนา จำกัด มหาชน!" นักข่าวตะโกนและรีบวิ่งไปพร้อมกับกล้องและอุปกรณ์ทำมาหากินของพวกเขา
ฤทธิ์สวมชุดสูทสีขาวเขาลงจากรถด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และนางแบบสาวรชิดา ที่แต่งตัวในชุดราตรีเปิดไหล่สุดชิคได้ลงจากรถของอีกฝั่ง ฤทธิ์เอื้อมมือไปจับมือรชิดา ก่อนที่พวกเขาจะโพสท่าให้กับหลายๆกล้องที่อยู่ตรงหน้า
ไอรินนานั่งอยู่เบาะหลังของรถกับกระเป๋าเอกสารที่เธอจับอยู่ เธอมองดูฤทธิ์และรชิดาผ่านกระจกรถ
"อะไรกัน ฉันเป็นแค่ผู้ช่วย ทำไมฤทธิ์ถึงให้ฉันมาร่วมงานอะไรแบบนี้ด้วยนะ? เขาป่วยหรืออะไร?" เธอบ่นอย่างเงียบ ๆ
คนขับรถได้พูดออกมาว่า "นี่คุณผู้ช่วย ลงจากรถได้แล้ว! เดี่ยวคุณชายจะไม่พอใจเอา ถ้าคุณทำตัวชักช้า"
เธอถอนหายใจเฮือก เปิดประตูและลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าเอกสารคู่ใจของเธอ
ฤทธิ์ควงแขนกับรชิดาเดิมมาถึงทางเข้าของโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ไอรินนาก็รีบเดินตามพวกเขาไป เมื่อเธอไปถึงทางเข้างาน นักข่าวที่อยู่ข้างหลังเธอก็อุทานออกมาว่า "คุณเอกริณ! คุณเอกริณ ก็มาด้วย!"
ไอรินนาชะงักและหันกลับไปเมื่อได้ยินชื่อของเอกริณ เธอเห็นรถสปอร์ตหรูอย่างแอสตัน มาร์ติน เคลื่อนที่อย่างช้าๆมายังทางเข้าของโรงแรม และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาเปิดประตูรถให้อย่างสมเกียรติ์
จากนั้นเอกริณก็ลงจากรถ เขาดูดีหล่อเหล่ามากในชุดสูทสีดำและราศีของเขาก็ยังคงเจิดจรัสเหมือนสามปีที่แล้ว
ครั้นไอรินนากำลังครุ่นคิด รปภ.ก็ได้เปิดประตูอีกฝั่งของรถ ไลลีน สวมชุดราตรีสีแดงร้อนแรง และยิ้มอ่อนๆขณะที่เธอลงมาจากรถ
"ว้าว ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ดูดีและเหมาะสมกันมาก!"
"อย่าบอกนะว่าผู้หญิงเป็นลูกสาวของรัฐมนตรี ในขณะที่ผู้ชายคนนั้นเป็นนักธุรกิจใหญ่ สมกันราวกับกิ่งทองใบหยก!"
ผู้คนต่างพากันซุบซิบอย่างไม่หยุดหย่อน ขณะที่ไอรินนาจ้องทั้งสอง ด้วยความหมั่นไส้
"ชายนอกใจกับเมียน้อย ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ" เธอคิด
ไอรินนาทนเห็นทั้งคู่ เอื่อมระอาคู่นี้ไม่ได้เลยหันหลังกลับและรีบเดินตามฤทธิ์อย่างรวดเร็ว
ฤทธิ์และรชิดาเข้าไปในลิฟต์แล้ว เมื่อไอรินนาเห็นว่าประตูลิฟต์กำลังจะปิด เธอรีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับจะวิ่งเป็นระยะทางร้อยเมตร
ไอรินนาเอื้อมมือออกไป เธอสามารถกั้นประตูลิฟต์ได้ในขณะที่มันกำลังจะปิด เมื่อเธอเข้าไปในลิฟต์ ฤทธิ์ถากถางและพูดว่า "นี่คุณเลขา เธอดูสนุกกับการทำให้คนอื่นกลัวใช่ไหม?"
"ฉันขอโทษ!" ไอรินนาก้มหน้าขอโทษ
ฤทธิ์ส่งเสียงขู่อย่างเย็นชาและเตือนว่า "ครั้งหน้าเธอควรตามเรามาอย่างใกล้ชิด ถ้าชักช้าตามไม่ทันแล้วละก็ ฉันจะไล่เธอออก!"
"ค่ะ รับทราบค่ะ!"
เนื่องจากไอรินนามีความสุภาพและมีความถ่อมตัวเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถทำให้เขาโกรธหรือดุเธอได้ลง และแล้วก็ปล่อยไปเลยตามเลย
เมื่อลิฟต์ถึงที่ชั้น 18 ฤทธิ์โอบเอวรชิดาควงแขนเธอเดินออกไป ไอรินนารีบตามพวกเขาไปพร้อมกับกระเป๋าเอกสารในอ้อมแขนของเธอ เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าหน้างาน ฤทธิ์หันมาบอกว่า "ไปรอฉันที่ห้องรับรอง จำไว้ว่าเธอจะต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ โบนัสของเธอสำหรับเดือนนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งถ้าเธอทำงานไม่ได้ดั่งใจ"
"โอเคค่ะคุณฤทธิ์ รับทราบค่ะ!"
หลังจากฤทธิ์และรชิดาเข้าไปในงาน ไอรินนารู้สึกโล่งราวกับว่าเธอได้ยกภูเขาออกจากอก และหันกลับมุ่งตรงไปยังห้องรับรอง
ในขณะเดียวกัน ลิฟต์อีกฝั่งก็หยุดด้วยเสียง “ติ๊ง” เมื่อ เอกริณ และ ไลลีนเดินก้าวออกจากลิฟต์ เอกริณ มองเห็น ไอรินนา ซึ่งกำลังเปิดประตูจะเข้าไปในห้องรับรอง เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง "ไอรินนา?" เขาคิด.
"น่าจะไม่ใช่ เธอหายตัวไปสามปีแล้ว ทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวตอนนี้ล่ะ?" เขารำพึง
"ฉันคงเข้าใจผิดเองแหละ" เขาว่าอย่างนั้น
เมื่อไลลีนสังเกตเห็น เอกริณ จ้องไปที่ปลายอีกด้านของทางเดินของห้องรับรองอย่างจดจ่อ เธอก็มองไปทางที่เขากำลังดูอยู่ด้วย แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรตรงนั่น เธอสงสัย "เอกริณ คุณกำลังดูอะไรอยู่?"
"ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ"
ไอรินนารออยู่ในห้องรับรองนานกว่าหนึ่งชั่วโมงและหิวมากจนท้องร้อง “คุณฤทธิ์บ้าไปแล้ว เขาได้ใช้เวลาเสพสุขกับผู้หญิงแสนสวยของเขาและในงานมีบุฟเฟต์แสนอร่อยให้ได้กินอย่างกระหน่ำใจ ตัดภาพมาที่ฉันในฐานะผู้ช่วยของเขา ฉันทำได้เพียงอดอาหารและรอเขาที่นี่ เขาเป็นหัวหน้าที่ช่างใจร้ายจริงๆ!" เธอบ่นอย่างเงียบ ๆ
ขณะที่เธอกำลังพรึมพรำ ฤทธิ์เรียกและสั่งว่า "เข้าไปในงานไปเอาอาหารได้ จำที่ฉันพูดได้ไหม อย่าเถลไถล! ถ้ากินเสร็จแล้วรีบกลับไปที่ห้องรับรองเพื่อรอฉันตรงนั้น!"
"ค่ะ คุณฤทธิ์"
จากนั้นไอรินนาก็เปิดประตูเดินเข้าไปในงาน แม้ว่าทุกคนจะร่ำรวยและแต่งกายอย่างหรูหราสะดุดตา แต่เธอเองก็มองมันแบบผ่านๆ ก่อนจะมุ่งเดินตรงไปยังบริเวณบุฟเฟ่ต์
ไอรินนาเอาน้ำผลไม้หนึ่งแก้วและอาหารหนึ่งจาน ขณะที่เธอกำลังหาที่เพื่อที่จะรับประทานอาหารเธอได้ยินคนๆหนึ่งพูดว่า "ช่วยหยิบอาหารนั้นมาให้ฉันหน่อย!"