Chapter 8 ฝันร้าย
กระท่อมเล็กเกินกว่าที่เขาจะไปนอนที่อื่น ยิ่งที่พื้นยิ่งไม่สามารถล้มตัวลงนอนได้เพราะปูพื้นด้วยไม้กระดานหยาบๆ อย่างไม่ใส่ใจ หมายจะแค่มีไว้ซุกหัวนอนไปวันๆ ใครเลยจะคาดคิดว่าจู่ๆ กระท่อมซอมซ่อหลังนี้จะมีโอกาสได้เป็นเรือนหอ
ท้ายที่สุดแม่ทัพจางก็ต้องแทรกตัวลงนอนข้างๆ เจ้าสาวแสนสวย ฟูกนอนที่ค่อนข้างแคบทำให้ไหล่เบียดไหล่ของอีกฝ่าย
คนตัวเล็กคงหลับไปนานแล้ว ดูจากลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ทว่าคนตัวโตไม่มีทีท่าว่าจะข่มตาให้หลับได้โดยง่าย ในเมื่อเวลานี้เขากำลัง ‘ตื่น’ อย่างถึงขีดสุด
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกายสาว นวลเนื้อนุ่มนิ่มที่แนบชิด ไออุ่นจากนางกรุ่นละมุนชวนให้หัวใจสั่นระรัว แม่ทัพจางนอนกลืนน้ำลายลงคอจนลูกกระเดือกกลิ้งกลอกไปมา ในขณะที่คนตัวเล็กเริ่มนอนดิ้นเบียดเข้าหา ซุกหน้าเข้ากับแผงอกกว้างของเขาราวกับเห็นเขาเป็นหมอนข้างเสียกระนั้น
ให้ตายเถอะ!
‘นางเป็นเมียข้า แล้วทำไมข้าต้องอดทนด้วยเล่า!’
ขบฟันเข้าหากันแน่นจนสันกรามปูดโปน ราวกับความอดทนจะสิ้นสุด ทว่าร่างเล็กกลับสั่นเทิ้มสะอื้นฮัก หยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่ารินรดลงบนแผงอกของชายหนุ่มจนเปียกชื้น
“น้องหญิงเจ้าร้องไห้งั้นหรือ”
เมื่อถามไปแต่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบกลับมา อีกทั้งยังกระสับกระส่ายราวกับไม่สบายตัว แม่ทัพจางก็รู้ได้ในทันทีว่าภรรยาสาวกำลังฝันร้าย
“มืดเหลือเกิน ฮือ...”
นางตัวสั่นเทิ้มคล้ายกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางสิ่ง ซุกตัวเข้าหาไออุ่นของคนตัวโต ร่างกายเริ่มเกร็งคล้ายกับกำลังตกใจถึงขีดสุด
นางฝันถึงสิ่งใดกันแน่...
แม่ทัพจางค่อยหยัดกายนอนตะแคง ค้ำเรือนกายด้วยศอกข้างหนึ่ง ในขณะที่แขนอีกข้างยังคงโอบประคองภรรยาสาวเอาไว้ ตั้งใจจะปลุกให้นางหลุดออกจากฝันร้าย ทว่านางกลับยิ่งร้องไห้โฮอย่างเสียขวัญ
“ข้ามองไม่เห็นอะไรเลย”
หญิงสาวส่ายหน้าแรงๆ จนหยาดน้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้าหวาน ริมฝีปากเม้มสนิทสั่นระริก
“เหตุใดดวงตาของข้าจึงมืดบอด ข้ากลัว... กลัวความมืด ข้ารู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ฮึก....ฮึก”
หัวใจของคนตัวโตถึงกับสะท้านในอก การที่จู่ๆ นางก็ตาบอดคงทำให้นางกลัวมาก กระนั้นนางกลับแสดงออกด้วยท่าทางคล้ายไม่รู้สึกรู้สมทั้งที่ภายในใจนั้นกำลังสะกดกลั้นความอ้างว้างโดดเดี่ยวเอาไว้
“ไม่ต้องกลัวเจ้ายังมีข้าอยู่ตรงนี้”
เขาก้มลงจูบซับไปตามนวลแก้มอิ่ม กอดแนบแน่นจนร่างบางค่อยๆ คลายสะอื้นก่อนจะจมเข้าไปในห้วงฝันอื่น นานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ที่เขากอดนางเอาไว้เช่นนั้น กอดแนบแน่นจนลมหายใจของหญิงสาวกลับมาเป็นปกติฉายชัดว่าฝันร้ายได้หล่นหายไปแล้ว
“ช่างน่าสงสาร”
มือที่กอดนางไว้ค่อยๆ ลูบไปตามเรือนผมสลวยแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงไปสัมผัสนวลแก้มอิ่มอย่างหลงใหล แต่แล้วเสียงผิวปากที่ดังขึ้นสองครั้งก่อนจะหยุดไปแล้วดังขึ้นอีกสามครั้งก็ทำให้แม่ทัพจางต้องค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากคนตัวเล็กอย่างเสียไม่ได้
จางจ้าวถางค่อยๆ เดินออกจากกระท่อมไปอย่างเงียบเชียบ เดินลัดเลาะเข้าไปในป่าจนไปพบกับต้นไม้ขนาดใหญ่ เขาหยุดยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้นก่อนที่จะริ่มผิวปากสองครั้งแล้วหยุดก่อนจะผิวปากต่ออีกสามครั้ง
ชายชุดดำคนหนึ่งปรากฏกายขึ้นในความมืด ค้อมกายคารวะผู้เป็นนายด้วยความเคารพก่อนจะยื่นจดหมายปิดผนึกส่งให้
“เรียบร้อยดีหรือไม่”
“เวลานี้หน่วยองครักษ์เงาขององค์ฮ่องเต้ได้ร่วมมือกับคนของพวกเราสืบสาวความผิดของเหล่าขุนนางอย่างละเอียดเพื่อที่จะสาวไปถึงคนบงการให้ได้มากที่สุด โดยตอนนี้ได้จัดการไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว อีกครึ่งหนึ่งน่าจะใช้เวลาไม่นานขอรับ”
“ดี!”
แม่ทัพจางพยักหน้าน้อยๆ เขาทำงานหนักมาถึงสองปีรวบรวมหลักฐานเหล่านั้นก็เพื่อจะให้คนของฝ่าบาททำงานง่ายที่สุด จะได้ทวงความเป็นธรรมกลับคืนสู่สกุลจางให้เร็วที่สุด
“ว่าแต่...”
ชายชุดดำซึ่งก็คือนายทหารฝีมือดีของแม่ทัพจางอีกทั้งยังสนิทสนมราวกับสหายทำท่าทางคล้ายมีความนัยที่อยากจะสัพยอกผู้เป็นนาย
“ว่าแต่อะไร!”
แน่นอนว่าแม่ทัพจางจ้าวถางย่อมต้องล่วงรู้ว่าจะถูกหยอกล้อด้วยเรื่องใด
“เหตุใดจึงมีหญิงงามตาบอดอยู่ในกระท่อมของท่านแม่ทัพหรือขอรับ”
นายทหารยิ้มกริ่ม แม้จะมีผ้าสีดำปิดบังใบหน้า กระนั้นรอยยิ้มกว้างก็ส่งออกไปถึงแววตาที่เล็กหยีพราวระยับราวกับจะล้อเลียนอยู่ในที
“นายกองหวงไท่หัว!”
เรียกชื่อพร้อมยศเสร็จสรรพฉายชัดว่าผู้เป็นแม่ทัพกำลังไม่พอใจ ทว่านางกองหวงกลับยังคงพูดต่อไป
“จะยกนางขึ้นเป็นชายาเอกหรือไม่ขอรับ หรือว่าจะรอรับพระราชทานภรรยาจากองค์ฮ่องเต้”
“หุบปาก!”
แม่ทัพจางรู้สึกราวกับเส้นเลือดในสมองกำลังเต้นตุบๆ ด้วยรู้ดีว่าตะคอกด่าให้ตาย แต่หวงไท่หัวที่แสนหน้าด้านหน้าทนก็คงไม่ละความพยายามในการซักไซ้ไล่เลียงโดยง่าย
ไอ้นี่มันหมาป่า! หากได้กัดอะไรแล้วไม่เคยปล่อยให้หลุดจากปาก และแน่นอนว่าหมาตัวนี้ที่ทั้งรักและซื่อสัตย์ แม้เขาจะเสื่อมยศเสื่อมลาภเสื่อมอำนาจวาสนาแต่ก็ยังคงภักดีคอยรับใช้เขาไม่เคยหนีหายไปไหน
“รักแล้วใช่มั้ยขอรับ”
“ไอ้!”
แม่ทัพจางถึงกับยกเท้าขึ้นหมายจะถีบนายกองมากฝีมือ ทว่าหวงไท่หัวกลับเอี้ยวตัวหลบได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังหัวเราะร่วนราวกับจะเยาะเย้ยเขาอีกต่างหาก
“ไม่ต้องตอบหรอกขอรับท่านแม่ทัพ ดูเหมือนข้าจะได้คำตอบแล้ว”
พูดออกไปพร้อมกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ ซึ่งอาการเช่นนี้ทำให้แม่ทัพจางถึงกับอยากจะตรงเข้าบีบคอนายกองคนสนิทให้ตายคามือ